3687. ศิษย์อาจารย์เดียวกัน (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ศิษย์อาจารย์เดียวกัน (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ท่านผู้อ่านที่เคารพไพฑูรย์เคยปรารภว่าการเป็นอาชญากรของเขานอกจากจะทำให้ต้องโทษหนักต้องแหกคุกหนีอาญาแผ่นดินถูกจับกุมถูกตีถูกโบยถูกขังคุกมืดมีศัตรูมากมายจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร

แม้เมื่อได้รับพระราชทานอภัยโทษมาบวชเป็นพระก็ถูกสองพี่น้องลูกชายคนที่เคยถูกไพฑูรย์ฆ่าตายบุกเข้ายิงทั้งผ้าเหลืองแต่ยิงไม่ออกไพฑูรย์กลับไม่ถือโทษซึ่งได้เคยผ่านสายตาท่านไปแล้ว

อาชญากรรมไม่เคยทำให้ใครได้ดีมีแต่สร้างอาชญากรที่นับวันจะโหดเหี้ยมขึ้นทุกครั้งที่เข้าไปในคุกก็จะได้ทักษะพิเศษออกมาเพิ่มความหนักหนาของคดีมากขึ้นที่กลับตัวได้ก็มีแต่น้อย ส่วนใหญ่กลับเข้าไปข้างในอีกเพราะสังคมไม่ยอมรับถูกตราหน้าว่าเป็นคนขี้คุกขี้ตารางกลัวว่าจะมาก่อเหตุหากรับเข้าทำงาน

เมื่อจนตรอกก็ประกอบอาชญากรรมจนกลับเข้าไปในคุกใหม่

นักโทษส่วนหนึ่งนั้นมีสันดานเป็นอาชญากรไม่เคยคิดจะทำความดีออกจากคุกแล้วก็มักก่อคดีที่หนักขึ้น ไพฑูรย์เคยพบมามากที่เริ่มมาจากคดีจี้ชิงทรัพย์ กลายเป็นปล้นฆ่า ข่มขืน ผู้พิพากษาจำคุกตลอดชีวิตหรือไม่ก็ประหารคนประเภทนี้เป็นภัยต่อสังคมเป็นอย่างยิ่งเพราะเดินปะปนกับสุจริตชนคอยหาโอกาสก่อคดี

สำหรับไพฑูรย์นั้นยุติการแหกคุกในพ.ศ. 2490 เพื่อรอการพระราชทานอภัยโทษในปีพุทธศักราช 2500 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้คุม ปราบปรามพวกนักโทษที่มีวิชาอาคมที่มักจะก่อเรื่องในแดนต่างๆมีนักโทษหลายรายที่ตายด้วยฝีมือไพฑูรย์ ด้วยผ้ารอยเท้า ด้วยมีดหมอที่ต้องฝากไว้ที่ตึกบัญชาการตามกฎระเบียบ

เมื่อจะใช้จึงจะมาขออนุญาตเอาไปใช้ปราบพวกนักโทษที่มีคาถาอาคม

ไพฑูรย์เล่าว่าอานุภาพมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่นักเลงโบราณเกรงก็คือ เมื่อถูกแทงด้วยมีดหมอแล้วความคงกระพันจะหมดไปทันที แม้แผลจะหายแล้วความคงกระพันที่เคยมีก็จะหมดไปด้วย

แผลที่ถูกแทงนั้นจะเกิดอักเสบเป็นพิษจะต้องใช้ด้ามมีดที่แทงมาฝนกับฝาละมี นำน้ำที่ฝนได้ ไปทาแผลเพื่อถอน หาไม่แล้วจะเป็นอันตรายถึงชีวิต

หากไม่จําเป็นถึงที่สุดแล้วไพฑูรย์จะไม่ยอมใช้เด็ดขาดนักโทษที่ก่อความวุ่นวายมักเป็นพวกขาใหญ่มีคาถาอาคมขลังอาวุธธรรมดาทำอะไรไม่ได้ เหล็กแหลม มีด เหล็กขูดชาร์ป ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ทุกรายเมื่อเจอมีดหมอหลวงพ่อเดิมเข้าไปไม่ตายก็สาหัสเป็นที่ประจักษ์แก่นักโทษและผู้คุมเป็นอย่างดี

ดังที่ได้เกริ่นมาแล้วว่าชีวิตภายใต้ดาวโจรของไพฑูรย์ก่อศัตรูไว้มากมายจนจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร หลังจากพ้นโทษ ผบ. คุกได้ฝากให้เข้าทำงานเป็นยามเฝ้าโกดังของบริษัทส่งออก มักมีผู้มาโจรกรรมเสมอแต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีด้วยอำนาจแห่งผ้ารอยเท้าที่ไพฑูรย์เย็บติดไว้กับปกคอเสื้อด้านในและมีดหมอที่ใส่ไว้ในย่าม

ไพฑูรย์เจียมตัวเสมอว่าเป็นเดนคุกที่ผู้คนไม่เคยให้เกียรติ มามีคนรู้จักก็เมื่อมาเขียนเรื่องราวการต่อสู้ในชีวิตจากนายทหารพระธรรมนูญกลายเป็นอาชญากรที่หนังสือพิมพ์ที่มักให้ฉายาว่า ”เสือไพฑูรย์”

เมื่อเปลี่ยนกะในตอนเช้าเวลาประมาณ 8.00 น. ก็จะเดินไปกินข้าวแกงที่ร้านป้าหมีชื่อจริงชื่ออะไรไม่ได้ถามเรียกตามที่ชาวบ้านเรียกเพราะรูปร่างแกเหมือนหมีหน้าตาก็คล้ายหมี ผิวคล้ำ มือใหญ่ เท้าใหญ่ดูเหมือนอุ้มเท้าหมีปากจัดด่าเป็นไฟแลบ แต่ฝีมือเป็นเลิศโดยเฉพาะแกงหมูเทโพกับแกงสับนกนั้นหากินที่ไหนไม่ได้

วันไหนออกเช้านะนั่นหมายความว่า จะได้พักหนึ่งวันไปเข้าเย็นของวันรุ่งขึ้นป้าหมีแกมักถูกพวกอันธพาลมารีดไถ พวกขี้ยาบ้าง พวกนักเลงข้างถนนบ้างแต่ไพฑูรย์ช่วยปราบจนอยู่หมัด อันธพาลบางกลุ่มมีลูกพี่ควบคุมดูแลป้องกันให้สามารถข่มขู่กรรโชกพ่อค้าแม่ขายที่ไม่มีทางต่อสู้เพื่อเก็บค่าคุ้มครองสมัยนั้นเรียกกันว่า”ผู้กว้างขวาง” ก็เคยเจอ

ที่ไพฑูรย์ต้องสอดมือเข้าไปยุ่งก็เพราะขณะที่กำลังนั่งกินข้าวพวกอันธพาลก็มารีดไถเงินจากป้าหมี แต่แกปฏิเสธเพราะกำลังรวบรวมเงินจะไปจ่ายค่าข้าวของที่จะนำมาทำข้าวแกงขาย รวมทั้งจ่ายค่าข้าวสารที่ต้องซื้อยกกระสอบ

”พ่อคุณ วันนี้ขอสักวันฉันจะเก็บเงินไปจ่ายตลาดแล้วไปจ่ายค่าข้าวสาร พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ฉันไม่รังเกียจหรอกที่จะจ่ายให้พ่อคุณแต่วันนี้จำเป็น”

”อีหมีมึงกล้ากับกูเหรอกูไอ้แดงสะพานปลาพูดคำไหนคำนั้นจ่ายหรือไม่จ่ายก็ว่ามา”

”ยกยอดไปพรุ่งนี้เถอะวันนี้มีความจำเป็น”

ไอ้แดงสะพานปลาไม่พูดพร่ำทำเพลงมันยกหม้อแกงของป้าหมีขึ้นเทลงบนพื้นสุนัขมาแย่งกันกินหนุบหนับ เสียงยายหมีร้องให้ลั่น

”อย่าพ่อคุณอย่า ขาดทุนป่นปี้หมดแล้ววันนี้”

ไพฑูรย์สุดจะทนจึงละจากจานข้าวเข้าไปยกมือไหว้เจ้าแดงสะพานปลา ปากก็ขอร้องให้หยุดรังแกป้าหมี

”พอเถอะครับผมไหว้ล่ะ ละเว้นแกสักวันเถิด”

เจ้าแดงสะพานปลาไม่พูดมากปากเหม็น ถีบไพฑูรย์เข้าที่ยอดอกแบบมอญยันหลักเล่นเอาไพฑูรย์หงายท้องผลึ่ง เจ้าแดงสะพานปลากรากเข้าเตะซ้ำกะให้ถูกปลายคางที่เรียกกันว่า”กล่อมนางนอน” แต่ไพฑูรย์ยกมือขึ้นจับข้อเท้าที่เตะเข้ามาได้แล้วยกขึ้นผลักกลับหลังเต็มแรงร่างของ เจ้าแดงสะพานปลาหงายหลังตึงทับลงไปบนกองแกงที่มันเทหม้อทิ้ง หัวกระแทกพื้นตาค้างหมดสติไปในทันที

ลูกน้องเจ้าแดงตรูกันออกมาหามลูกพี่ออกไปจากร้านป้าหมีมาเฟียเสียหน้าพากันหายไป ป้าหมีเข้ามาขอบคุณไพฑูรย์

”ขอบใจมากจ้ะ แต่คุณไม่น่ามาช่วยป้าเลยคุณจะเดือดร้อนเพราะพรรคพวกของมัน และเจ้านายของมันที่ชื่อนายเชิด”

ผมทนดูไม่ได้หรอกครับมันรังแกกันเกินไปเงินก็ไม่กี่บาทมันกลับทำให้ข้าวของเสียหายและป้าหมีก็เป็นผู้หญิงไอ้พวกนี้มันผู้ชายกระโปรงมากกว่า

เมื่อไพฑูรย์กลับเข้าเวรใหม่ป้าหมีแกเลี้ยงข้าวแกงแต่ไพฑูรย์บอกว่า

”ไม่รับเพราะการช่วยเหลือป้าผมไม่หวังผลตอบแทนอันใดเลยนอกจากไม่ต้องการให้คนหาเช้ากินค่ำถูกรังแก”

”ระวังตัวไว้ด้วยนะ พ่อคุณไอ้แดงสะพานปลามันพาพรรคพวกมาถามฉันว่าไอ้คนที่ทำให้มันขายขี้หน้าเป็นใครมีคนบอกว่าพ่อคุณเป็นยามเฝ้าโกดังบริษัทส่งออกมันก็กลับไป”

”ขอบคุณมากป้าหมี ผมไม่กลัวมันหรอกผมจะระวังตัวอย่าเป็นห่วงผมเลย”

ไม่มีวี่แววของเจ้าแดงสะพานปลาเหมือนกับว่ามันไม่กล้าแต่แล้วเมื่อไพฑูรย์ออกเวรมานั่งกินข้าวแกงก็เกิดเหตุ เจ้าแดงสะพานปลา พาลูกน้องมาด้วย 2 คนมาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลงดึงมีดสปาต้าออกมาเปลือยคมวิ่งเข้าใส่อย่างประสงค์ร้าย

ไพฑูรย์กลัวแผงข้าวแกงของป้าเสียหายจึงลุกขึ้นถอยออกจากร้านทำทีเป็นหนีเจ้าแดงสะพานปลา คิดว่าไพฑูรย์ใส่ตีนหมาหนี แต่คาดผิดพอพ้นจากแผงป้าหมี

ไพฑูรย์ก็ปลดย่ามดึงมีดหมอออกจากย่าม กระชากมีดออกจากฝัก รอให้เจ้าแดงกับลูกน้องวิ่งเข้ามาหา

ลูกน้องเจ้าแดง 2 คนแหลมเข้ามาก่อนมีดสปาต้าในมือฟันจากบนลงล่างคนหนึ่งอีกคนฟันขนานกับพื้นไพฑูรย์ถอยหลังออกไปสองก้าวคมมีดสปาต้าก็ฟันลมแล้วถลำมาข้างหน้าเข้าทางพอดีไพฑูรย์จิ้มมีดหมอใส่หัวไหล่ลูกน้องเจ้าแดงคนละที

”เฮ้ย เว้ย อะไรกันวะ”

พวกมันส่งเสียงเอะอะเพราะไม่คิดมาก่อนว่า เนื้อหนังที่เต็มไปด้วยรอยสักของมันจะถูกมีดแทงเข้าจนเลือดไหลโกรก คนเราพอกำลังใจเสียก็เผ่นหนีป่าราบเลือดหยดเป็นทางไป เจ้าแดงสะพานปลาฟันซ้ายฟันขวาแบบเปะปะ

ไพฑูรย์ถอยหลังบ้าง โยกซ้ายบ้างขวาบ้างจนเจ้าแดงสะพานปลาทุ่มแทงจนหมดแรงขาตาย ไพฑูรย์รุกทันทีไม่นานนักโอกาสก็เปิดให้

ไพฑูรย์เล่าว่าเจ้าแดงสะพานปลา ถลำเข้ามาไพฑูรย์แทงด้วยมีดหมอที่หน้าท้องแบบยั้งเพื่อสั่งสอน เจ้าแดงก็มีสภาพเดียวกับลูกน้องคือร้องไม่เป็นเสียงคนเมื่อเห็นเลือดไหลความคงกระพันหายไปในทันทีออกวิ่งตามลูกน้องไป

ไพฑูรย์เดินมาหยิบย่าม หยิบปลอกมีดมาสวม แล้วเดินกลับไปขึ้นรถเมล์กลับที่พักปรากฏว่าเจ้าแดงสะพานปลากับพวกไม่ได้ไปแจ้งความแต่ไปรักษาบาดแผลกันเองเรื่องจึงไม่ถึงโรงพัก

1 เดือนต่อมาขณะไพฑูรย์เข้าเวรกะดึก ก็มีคนซ้อนจักรยานยนต์เข้ามาที่ป้อมยามที่ไพฑูรย์นั่งเฝ้ายามไพฑูรย์หันมายังไม่ทันทำอะไร ชายวัยกลางคนศีรษะล้านลงจากท้ายรถจักรยานยนต์ส่งเสียงคำรามกระชากปืนที่เอวยิงใส่ทันที

”มึงนี่วอนหาที่ตายเสียแล้วเล่นงานคนของกูเจ็บไป 3 คน มึงเสร็จแน่”

”แป๊ก แป๊ก แป๊ก” นกสับโม่หมุนแต่ไม่มีเสียงปืนดังสักนัดไพฑูรย์เล่าว่าขนลุกซู่ บารมีรอยเท้าหลวงพ่อเดิมกับมีดหมอในย่ามป้องกันไว้ เมื่ออีกฝ่ายต้องการชีวิตหากเป็นสมัยก่อนคงไม่ปล่อยไว้ให้ลอยนวลแต่ตอนนี้ได้รับพระราชทานอภัยโทษมาแล้วจะกลับตัว จึงเพียงแต่กระชากมีดวิ่งเข้าไปหามือปืน

”เฮ้ยโจรจะมาปล้นสินค้าโว้ย”

ยังไม่ทันหายตกตะลึงไพฑูรย์ก็เข้าถึงตัวหากแทงก็เลือกแทงได้แต่ไพฑูรย์เห็นว่าพลาดพลั้งอาจเป็นเรื่องใหญ่จึงใช้มีดหมอสับลงไปบนหัวล้านป๊อกหนึ่ง เลือดไม่ไหลเป็นเรื่องประหลาดมองไปที่กระเป๋าเสื้อของชายคนหัวล้านจึงหายสงสัยเมื่อเห็นด้ามมีดปากกาสีเหลืองอ๋อยที่เหน็บกระเป๋าเสื้อของชายหัวล้านจึงร้องว่า

”ศิษย์หลวงพ่อเดิมด้วยกันทำไมต้องมาทำร้ายกันด้วยเล่า”

ชายหัวล้านมองดูมีดควาญช้างในมือไพฑูรย์เต็มตาจึงได้สติมือที่กำปืนทิ้งลงข้างตัวพูดกับไพฑูรย์ว่า

”นึกอยู่เหมือนกันว่าทำไมยิงไม่ออกนายเป็นใครกันแน่”

”ผมชื่อไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม”

”อ๋อรู้แล้วๆ เคยอยู่กับพี่เสงี่ยมที่นางเลิ้งใช่ไหมจำได้แล้ว จำได้แล้ว ผมชื่อเชิดพญาไกร คนแถบวัดพระยาไกรรู้จักผมดีไอ้แดงสะพานปลามันลูกน้องผมเมื่อมันบาดเจ็บมา ผมก็ช่วยเหลือแน่นอนผมเป็นลูกพี่มันก็ต้องมาสะสาง แต่ก่อนผมอยู่กับพี่เสงี่ยมเหมือนกัน”

คำว่าเชิดทำให้ไพฑูรย์สะดุดอดีต แล้วเริ่มมองเห็นเค้าหน้าของคนชื่อเชิดที่มีผมดกดำกับเชิดหัวล้านที่ยืนอยู่ตรงหน้าอุทานว่า

”พี่เชิด พี่เชิด ผมจำไม่ได้ขอโทษพี่หัวล้านแบบนี้ หากไม่เคยเห็นตอนที่ผมดกมาก่อนใครจะจำไม่ได้ ผมติดคุกเพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษมาเมื่อปีที่แล้วลูกน้องของพี่มันรังแกแม้แต่แม่ค้าแก่ๆ แกไม่ใช่ไม่ให้แต่แกขอผลัด มันเล่นงานแก ผมก็เลยสอดมือเข้าช่วย”

”ไอ้แดงนี่มันนอกคอก สั่งแล้วสั่งอีกมันก็ยังละเมิด มันติดยาฝิ่น หิวยาขึ้นมาอะไรมันก็ทำ ต่อไปจะเอาจริงกับมัน เอาล่ะๆ ออกเวรตอนเช้าวันไหนบอกมาจะพาไปเลี้ยงเหล้ามันต้องฉลองผ่องใสกันหน่อย”

”ผมก็ตกใจเพราะมีดหมอหลวงพ่อเดิมฟันหรือแทงคนมามากไม่เคยไม่ได้เลือดแต่วันนี้ทำอะไรไม่ได้ ผมพึ่งเห็นมีดหมอปากกาที่เหน็บกระเป๋าพี่จึงรู้ว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อเดียวกัน”

เป็นอันว่าศึกใหญ่สงบลง นายเชิดพระยาไกรพาไพฑูรย์ไปเลี้ยงและแนะนำให้บรรดาสมุนรวมทั้งเจ้าแดงสะพานปลา นายเชิดบอกกับเจ้าแดงสะพานปลาว่า

”ไหว้พี่ไพฑูรย์เขาเสียถ้าเขาแทงมึงให้ตายก็ทำได้แต่เขาล้างมือจึงแค่สั่งสอนในอดีตเขาเคยอยู่กับพี่เสงี่ยมที่นางเลิ้งกับกูเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิมกับหลวงพ่อหรุ่นด้วยกันกับกู”

เจ้าแดง สะพานปลายกมือไหว้ ไพฑูรย์ยกมือไหว้ตอบหลังจากกินเลี้ยงวันนั้นแล้ว ป้าหมีก็พ้นจากการรบกวนของเจ้าแดง ส่วนไพฑูรย์ก็เป็นยามอย่างสงบสุขเป็นอีกครั้งหนึ่งที่บารมีหลวงพ่อเดิมแสดงอภินิหารให้ปรากฏ

(ยุคสมัยในอดีตมีนักเลงมากกว่าขี้ยา ยุคสมัยนี้มีแต่ขี้ยามากกว่านักเลง คำว่านักเลงจริง ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยา ไม่รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าหรือสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน นักเลงจริงต้องชอบช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ใช้กำลังในทางปกป้องคนที่ถูกรังแก นี่แหละครับนักเลงจริง)

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
คลิปดีๆจาก : สองยาม
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: