3648. อภินิหารหลวงพ่อน้อย สุทธจิตโต (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

หลวงพ่อน้อยเป็นพระอาจารย์ที่มีอิทธิฤทธิ์สมัยพุทธศักราช2472 รุ่นเดียวกับหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ หลวงพ่อน้อยมีผ้าประเจียดที่มหาชนเคารพนับถือชื่อเสียงโด่งดังมากระหว่างตอนที่ประเทศไทยเกิดศึกสงคราม พ.ศ. 2483 กองทัพ 4 เหล่าได้ขอผ้าประเจียดจากหลวงพ่อเป็นเครื่องคุ้มกันก่อนไปสงคราม

หลังจากสงครามเสร็จสิ้นแล้วผู้ที่ได้รับผ้าประเจียดของหลวงพ่อได้รับการคุ้มครองได้กลับบ้านพบหน้าพ่อแม่ลูกเมียทุกคน

อิทธิฤทธิ์อภินิหารเป็นที่ประจักษ์มาก หลวงพ่อท่านยังได้สร้างเหรียญเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่งและได้รับความนิยมอยู่จนทุกวันนี้จะเป็นพวกกองทัพ 4 เหล่า พวกนักเลงหรือไม่นักเลงก็ได้ของของท่านถ้วนหน้า

บางคนก็เป็นคนดีบางคนก็ประพฤติตัวเป็นโจรใจฉกรรจ์ก็เพราะมีเครื่องรางของขลังที่ได้จากหลวงพ่อ บุคคลที่มีผ้าประเจียดหลวงพ่อน้อยที่ได้ไปแล้วเป็นไอ้เสือร้ายมีอยู่สาม

คนที่ 1 คือเสือพุ่ม ทับสายทอง
คนที่ 2 เสือผาด ทับสายทอง
คนที่3 เสือสำรวย ทับสายทอง

ผู้เขียนจะพูดถึงเสือพุ่มที่กำแพงทระนงบังอาจยิงจอมพลป. พิบูลสงครามมีเรื่องพอประมวลได้จากหนังสือพิมพ์หอสมุดแห่งชาติและแฟ้มอาชญากรรมของตำรวจและหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวปรากฏอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติอย่างมีหลักฐานเมื่อวันที่เดือนพ.ศ.(อาจารย์ท่านไม่ได้ระบุ)

หนังสือพิมพ์ต่างๆลงข่าวกรณีที่หลวงพิบูลสงครามถูกยิงที่สนามหลวง ผู้ร้ายที่ร่วมสมทบยิงตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 63 ผู้เขียนรู้จักเพราะอยู่ในคุกแดนเดียวกัน

1.พระยาธรณีนฤเบศ
2.หลวงวรสาร
3.ร้อยตำรวจตรีลิ่ม สุขเกตุ
4.เสือพุ่ม ทับสายทอง

เสือพุ่ม ทับสายทองผู้มีนามอุโฆษในจังหวัดนครปฐมเป็นมือปืนสังหารหลวงพิบูลสงครามซึ่งเดี๋ยวนี้เกือบจะเป็นประวัติศาสตร์แล้ว คนเราที่มีหัวคิดปัญญามีเงินมีโอกาสที่จะจ้างคนที่หิวเงินฆ่าใครก็ได้ โดยไม่เลือกว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครดังเช่นหลวงพิบูลย์สงคราม ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจวาสนาส่งเสริมให้เป็นผู้มีอิทธิพล แต่หลวงพิบูลย์ตอนนั้นดวงชะตากำลังขึ้นสูง แม้ว่าจะถูกยิงระยะเผาขนก็เพียงแต่บาดเจ็บเล็กน้อยไม่ถึงกับสิ้นชีวิต

บุคคลที่เป็นมือปืนเป็นเสือตัวดังลูกศิษย์ของหลวงพ่อน้อย หลวงพ่อน้อยนี้นั้นเป็นอาจารย์หลวงพ่อเงินแปดแสน(หลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม) ของๆท่านมีฤทธิ์อานุภาพมากชื่อกระเดื่องดังก้องแผ่นดินขึ้นชื่อว่าหลวงพ่อน้อยแล้วแม้แต่เด็กเลี้ยงควายก็ยังรู้จัก

เพราะหลวงพ่อแจกเครื่องรางของขลังให้กับเด็กเล็กๆเป็นตะกรุดเป็นแหวนกันหมาแมว งูเงี้ยวเขี้ยวขอ สารพัดสัตว์กัดต่อยในจังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดใกล้เคียง เด็กๆที่ได้ไปขอของดีหลวงพ่อพอถูกสัตว์กัดต่อยก็ไม่เป็นอันตรายใดๆ ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็ได้เหรียญได้ตะกรุดผ้าประเจียดเป็นเครื่องคุ้มครอง

เสือพุ่ม มีผ้าประเจียด เคยรบราต่อกรมากับพวกตำรวจถูกแทงและถูกยิงไม่เคยระคายผิวหนัง

เมื่อมีพวกจำเลยที่ 1 2 และ 3 มาว่างจ้างให้ยิงหลวงพิบูลย์ เสือพุ่มก็รับยิงหลวงพิบูลย์ ยังความเคียดแค้นกับคณะหลวงพิบูลย์ผลการกระทำของเสือพุ่มที่บุกยิงหลวงพิบูลย์ได้รับการตอบแทนแก้แค้นอย่างสาหัสสากัน

โดยหลวงพิบูลย์สั่งมาทางตำรวจให้ฆ่าเสือพุ่มเสีย เสือพุ่มอยู่ที่สันติบาลตอนนั้นข้าพเจ้าถูกจับคดีอาญา ถูกขังอยู่ห้องตรงข้ามกับเสือพุ่ม มีพวกตำรวจลืออื้อฉาวว่าจับคนร้ายที่ยิงหลวงพิบูลย์ได้รูปร่างหน้าตาน่ากลัว ข้าพเจ้านึกในใจว่านี่หรือมือปืนพิชิตหลวงพิบูลย์

ในคืนวันที่ 16 เดือน พ.ศ. เวลาประมาณ 24.00 น. ข้าพเจ้าได้ยินเสียงตำรวจเรียกเสียพุ่มว่า ไอ้เสือเตรียมตัวท่านอธิบดีจะมาสอบสวน แล้วข้าพเจ้าเห็นอธิบดีมาและพร้อมกันนี้ตำรวจก็ไขห้องเอา เสือพุ่ม ออกจากห้องขังใส่กุญแจมือให้มานั่งที่เก้าอี้

ได้ยินว่าท่านอธิบดีถามเสือพุ่มว่ามึงยิงหลวงพิบูลย์ทำไม

เสือพุ่มตอบขึ้นเล่นลิ้นว่า

”ก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันผมยิงทำไม…”

อธิบดีจึงบอกว่า

”มึงมันนักเลงหน้าหมาพูดจาอวดหยิ่ง กูถามดีๆกลับอวดความเป็นนักเลง”

เสือพุ่มตอบกลับไปว่า

”ผมนักเลงหน้าหมา หน้าก็เหมือนอธิบดี ถ้าผมเป็นหมาท่านอธิบดีก็ต้องเป็นหมาเหมือนผม”

อธิบดีพูดว่า

”หน็อยมึงไม่รู้จักกูสะแล้ว จากนั้นก็ลุกขึ้นตบหน้าเสือพุ่มพร้อมกับพยักหน้าให้ตำรวจสี่คนช่วยกันกระทืบ กระทืบหน้าอก หน้าท้อง เสือพุ่มไม่มีโอกาสจะต่อสู้ เสือพุ่มได้แต่ด่าว่า
”ไอ้พวกหมาหมู่รุมกัด” จากนั้นก็ถูกตำรวจจับปืนเอาพานท้ายปืนตีจนล้มลุกคลุกคลาน ชั่วเวลาเพียงห้านาที ก็สลบนอนยาวเหยียด ตำรวจก็ลากกลับเข้าห้องขัง

ต่อมาอีก 7 วันอธิบดีก็มาหาเสือพุ่มอีกถามว่าใครจ้างยิงหลวงพิบูลย์ ขอให้บอกมา เสือพุ่มก็ไม่พูดตอบ อธิบดีก็สั่งให้ตำรวจซ้อมอีกเป็นครั้งที่ 2 เป็นภาพที่ข้าพเจ้าแลเห็นแล้วจะเว้นไว้เสียซึ่งความเศร้าสลดใจมิได้เลยนี่หรือความยุติธรรม

ความจริงแล้วเสือพุ่มจะรับหรือต่อสู้ ก็ต้องเล่นกันไปตามกฎหมายนี่ตำรวจมาเล่นซ้อมแบบแก้แค้นเอาอำนาจและอิทธิพลป่าเถื่อนมาใช้กับเสือพุ่ม ไม่ละอายต่อบาปเป็นการไม่ชอบธรรมยิ่งนัก

เสือพุ่มถูกไม้กระบอง รองเท้า ของแข็งและพานท้ายปืนไม่ระคายผิวหนังแต่ระบมบวมไปทั้งตัวเป็นที่มหัศจรรย์ เลือดไม่ออกแม้แต่หยดเดียวถูกตีทำร้ายแล้วก็ถูกลากเข้าในห้องขังตลอดทั้งกลางวันกลางคืน ไม่เคยได้รับการรักษาพยาบาลจากพวกตำรวจเลยและยิ่งกว่านี้อาหารการกินจะเป็นแกงอะไรก็มีแต่น้ำไม่มีเนื้อเลยนำมาราดให้เสือพุ่มกิน ญาติก็มาเยี่ยมไม่ได้ หน้าห้องขังเสือพุ่มเขียนไว้ว่า ”ห้ามติดต่อ”

เหตุการณ์สกปรกที่อธิบดีทำกับเสือพุ่ม ซึ่งตอนนั้นหลวงอดุลย์เดชจรัสเป็นคณะรัฐบาลรุ่นเดียวกับจอมพลป. เสือพุ่มทนการถูกซ้อมของตำรวจครั้งแล้วครั้งเล่าไม่อาจจะทนทานได้จึงสารภาพความจริงทั้งหมดกับตำรวจ

แต่อธิบดีต้องการให้เสือพุ่มซักทอดคนที่ไม่รู้เรื่องให้ว่าเป็นคนจ้างยิงหลวงพิบูลย์ แต่เสือพุ่มไม่อาจทำได้เป็นการผิดวิสัยนักเลงแม้ว่าอธิบดีจะขู่ว่าถ้าไม่ซักทอดคนๆนี้จะต้องตาย เสือพุ่มก็ยอมตาย ท่านอธิบดีเห็นว่าเสือพุ่มรักศักดิ์ศรีของเสือจึงพูดกับเสือพุ่มว่า

”มึงรักคนอื่นมากกว่าตัวมึงเองก็ตามใจมึง กูอยากจะรู้ว่าคนที่กูให้มึงซักทอดนั้นจะมาช่วยมึงได้หรือไม่”

เสือพุ่มกลับตอบว่า

”ความตายนั้นไม่มีใครหนีพ้นเมื่อถึงคราวตายแล้วยังไงก็ต้องตาย ดีกว่าที่ผมจะสร้างบาปซักทอดให้คนที่ไม่รู้เรื่องต้องถูกยิงทิ้งและถูกจำคุก”

ก่อนอธิบดีจะกลับได้เรียกนายตำรวจและนายสิบ และพลตำรวจมาพูดเสียงเบาๆ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพูดอะไร

ในคืนนั้นเวลาประมาณ 24.00 น ข้าพเจ้าตกใจตื่นขึ้นได้ยินตำรวจหลายคนร้องตะโกนบอกว่า

”เสือพุ่มตัดห้องขังหนี มันตัดห้องขังหนี”

แล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังมาจากที่ห้องขังของเสือพุ่ม ควันดินปืนลอยตลบ พอควันจาง จึงเห็นเสือพุ่มนั่งพนมมือภาวนาสงบนิ่งอยู่ภายในห้องขัง จากนั้นตำรวจทุกคนต่างก็ตรงเข้ามาที่เสือพุ่มช่วยกันรุมตีและทำร้ายจนเสือพุ่มเงียบสลบไป

ข้าพเจ้านึกและเข้าใจว่าเสือพุ่มตายแล้วมารู้ภายหลังว่าตำรวจใช้ลูกไม้ที่ตำรวจเคยทำกับคนอื่นมาแล้วโดยตำรวจเป็นคนเปิดห้องขังแล้วกล่าวหาว่าเสือพุ่มตัดห้องขังเพื่อหลบหนีและชกต่อยต่อสู้ตำรวจ ตำรวจจึงยิงป้องกันการหลบหนี แต่ที่เสือพุ่มไม่ตายก็เพราะเสือพุ่มมีผ้าประเจียดของหลวงพ่อน้อยติดตัวจึงคุ้มครองป้องกันชีวิตไว้ได้

รุ่งเช้าหมดอำนาจตำรวจขัง ตำรวจจึงนำตัวเสือพุ่มมาขอฝากขังต่อที่ศาลอาญา เสือพุ่มถูกคุมตัวมา เสือพุ่มจึงเขียนคำร้องเล่าเรื่องรายละเอียดให้ศาลฟัง โดยเสือพุ่มมีประจักษ์พยานโดยให้ศาลมาสืบรอยลูกกรงที่ถูกตำรวจงัดแกล้งหาเรื่องฆ่าและดูรอยลูกปืนที่ด้านฝาผนังห้องขัง

คณะกรรมการผู้สถิตย์ไว้ซึ่งความยุติธรรมจึงมีคำสั่งย้ายเสือพุ่มเข้าคุกลหุโทษเป็นฉากหนึ่งของเสือพุ่มที่รักษาศักดิ์ศรีของเสือ ถูกยิงเพราะไม่ทำตามคำสั่งอธิบดีหลังจากเสือพุ่มถูกส่งเข้าคุกลหุโทษ ตอนสองผู้เขียนจะอธิบายถึงเรื่องเสือพุ่มอยู่ในคุก เสือพุ่มหนีเสือปะจระเข้

(ตอนสองไม่มีนะครับหากเจอเเล้วจะนำมาลงให้นะครับเสียดายไม่มีรูปหลวงพ่อน้อยกับเสือพุ่มแฟนเพจท่านใดมีแบ่งปันด้วยครับ)

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : Norragate
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: