3610. วิชาสมิงหลวงพ่อพะสะอู (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์บอกว่ามนุษย์ทุกคนเมื่อแรกเกิดมาจะมีหัวใจอันบริสุทธิ์เหมือนผ้าสีขาว ครั้นเติบโตเจริญวัยขึ้นได้รับรู้เรื่องราวรอบตัวได้รับรู้อารมณ์ความรู้สึกจากคนใกล้ชิดจากผู้คนรอบข้างทำให้หัวใจอันบริสุทธิ์เหมือนผ้าสีขาวมีรอยด่างดำเพิ่มขึ้น

การอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่ผู้ปกครองและครูบาอาจารย์จึงเปรียบเสมือนผงซักฟอกที่จะช่วยขจัดรอยด่างดำในหัวใจของเด็กให้มีความขาวคงทนแต่ก็นั่นแหละพอพ้นจากสายตาของพ่อแม่ผู้ปกครองและครูบาอาจารย์ก็อยู่ที่ว่าเด็กจะรู้จักการคบเพื่อนที่ดีหรือไม่ เรื่องนี้พ่อแม่ผู้ปกครองครูบาอาจารย์ต้องอบรมสั่งสอนเน้นหนักแยกเพื่อนดีกับเพื่อนชั่วให้เด็กได้รู้จักแยกแยะการคบเพื่อนเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน

สมัยเมื่อไพฑูรย์เป็นเด็กบ้านนอกอยู่จังหวัดตากพ่ออบรมสั่งสอนอยู่ 3 อย่างคือให้ประพฤติดีทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมทำมาหาเลี้ยงชีพโดยสุจริตไม่หาเลี้ยงชีพด้วยมิจฉาชีพให้ปกป้องคนดีพิทักษ์แผ่นดินถิ่นเกิดไม่ทรยศต่อชาติบ้านเมือง

ครั้นเมื่อได้มาเป็นบุตรบุญธรรมของท่านผู้มีพระคุณท่านยังเพิ่มเติมว่าให้รักศักดิ์ศรีรักษ์วงศ์ตระกูลเท่าชีวิตเหมือนจามรีที่เมื่อขนของตัวเองพันกับกิ่งไม้ แม้จะรู้ว่าพรานกำลังเล็งธนูมายังตัวเองก็ไม่เกรงว่าจะเสียชีวิตใช้ปากและฟันปลดขนที่พันออกไปก่อนจะหนีต่อไป พรานฉวยโอกาสยิงตายเหมือนโคลงโลกนิติที่ว่า ‘’จามรีขนข้องอยู่หยุด ปลดชีพบ่รักรักยศยิ่งไซร้’’

อย่าทำตัวเป็นกวางที่เห็นแก่กินในนิทานอีสปที่เข้าไปแอบในพุ่มไม้ใบหนาจนพรานที่ตามรอยมามองไม่เห็นเมื่อพรานผ่านเลยไปจึงเอาปากเล็มกินใบไม้อย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ได้นึกว่าพุ่มไม้ใบบังช่วยให้ชีวิตตนรอดจากปลายแหลมของธนูจากนายพราน พอเล็มใบไม้บางลงนายพรานจึงมองเห็นกวางปล่อยสายธนูวิ่งเข้าทะลุหัวใจของกวางตายคาพุ่มไม้กวางตายเพราะไม่รู้จักคุณของต้นไม้ คนเราก็ตายเพราะความโลกไม่รู้คุณคนนั่นเอง

จะโทษอะไรไม่ได้เลยนอกจากการไม่ยับยั้งชั่งใจปล่อยให้โทสะเข้ามาครอบครองใจ ให้โมหะมาหนุนให้กระทำความชั่วด้วยการสังหารขุนตระเวนฯ ทำให้ต้องติดคุกหมดทั้งชื่อเสียงและความดีที่สะสมจากคุณชายวรรณวินมาเป็นนักโทษชายไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามเป็นจอมอาชญากรหมายเลข 1 ที่มีโทษประหารและจำคุก 100 กว่าปีเข้าออกคุกเป็นว่าเล่น

จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานอภัยโทษเมื่อปีพ.ศ. 2500 ฉลอง 25 พุทธศตวรรษจึงหันมาเขียนหนังสือเล่าเรื่องชีวิตจริงของอาชญากรจากบางขวางมิใช่เพื่ออวดความเก่งกล้าแต่เพื่อชี้ให้เห็นว่าอาชญากรรมไม่เคยทำให้ใครได้ดีนอกจากถูกตามล่าจากผู้รักษากฎหมายไม่ถูกวิสามัญฆาตกรรมอาจถูกประหารจำคุกตลอดชีวิตหรือติดคุก 20 ปี ถูกจองจำในเรือนจำบางขวางที่รวมของอาชญากรจากทุกภาคในประเทศไทย

ชื่อเสียงเกียรติยศ มลายสิ้นพ้นโทษออกมามีตราบาปว่าเป็นไอ้ขี้คุกไม่มีใครยอมรับเข้าทำงานเพราะกลัวเกิดเรื่องร้ายแก่ธุรกิจของตนและแก่คนงานในบังคับบัญชาสำหรับไพฑูรย์แล้วนับว่าโชคดีที่ได้ช่วยเหลือราชการงานราชทัณฑ์ในด้านการเป็นพี่เลี้ยงนักโทษประหารและนักโทษเด็ดขาดต่างๆช่วยเหลือระงับเหตุร้ายในเรือนจำท่านผบ.เรือนจำจึงทำหนังสือรับรองพิเศษให้ทำให้บริษัทยามยอมรับเข้าทำงานก่อนจะมาเขียนประวัติชีวิตเลี้ยงชีพ

ไพฑูรย์บอกว่าสิ่งแรกที่ทำหลังจากออกจากคุกคือการบวชอุทิศกุศลให้กับบิดามารดาและท่านผู้มีพระคุณที่ได้รับเมตตารับเป็นบุตรบุญธรรมเจ้ากรรมนายเวรที่ได้เคยเข่นฆ่ามาทุกรายขออโหสิกรรมที่ทำต่อกันมาอย่าได้ผูกไปชาติหน้าและเดินทางไปกราบนมัสการรูปหล่อหลวงพ่อเดิมท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (พุทธสโร)แห่งวัดหนองโพที่เป็นทั้งหลวงพ่อและพ่อคนที่สามหลังจากท่านผู้มีพระคุณที่รับเป็นบุตรบุญธรรม

ให้ดวงพระวิญญาณของหลวงพ่อเดิมได้รับส่วนกุศลที่ศิษย์ของหลวงพ่อที่ชื่อไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามอดีตเสือร้ายที่วางอาวุธทุกอย่างลงเพื่อดำรงตนด้วยอาชีพสุจริต ให้ดวงพระวิญญาณของหลวงพ่อได้ประจักษ์ว่าต่อจากนี้ไปไม่มีคำว่าเสือไพฑูรย์ นักโทษชายไพฑูรย์ จะมีแต่นายไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามที่เป็นสุจริตชนต่อไป

เสือแฟ้มฉายาหน้าบากเป็นเสือปล้นที่ฝังตัวอยู่ในเขตด่านเจดีย์สามองค์อันเป็นรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับพม่าปัจจุบันด่านนี้ปิดถาวรด้วยเหตุผลทางยุทธศาสตร์เสือแฟ้มตระเวนปล้นไปทั่วจังหวัดกาญจนบุรีแล้วแต่โอกาสจะอำนวยไพฑูรย์ได้เข้าไปอยู่ในชุมโจรของเสือแฟ้มหน้าผากเพราะนักโทษชายสมิงลูกชายโทนของเสือแฟ้มที่เข้าไปติดคุกและไพฑูรย์ช่วยฎีกาจนลดโทษลงมาเหลือ 20 ปีติดคุกอยู่ 8 ปีกว่าๆ ด้วยไพฑูรย์คอยดูแลป้องกันจึงได้รับการอภัยโทษ

ก่อนจะออกจากคุกได้มอบเขี้ยวหมูตันลงอักขระเอาไว้ให้โดยบอกว่าหากอาจารย์แหกคุกออกไปไม่มีที่จะพึ่งให้นำเขี้ยวหมูตันนี้ไปที่ด่านเจดีย์สามองค์ถามหาพ่อแฟ้มจะมีที่พึ่งทันที ไพฑูรย์หนีเตลิดไปยังด่านเจดีย์สามองค์ในวันที่มีตลาดนัดจึงเอาเขี้ยวหมูตันที่สมิงมอบให้ไปถามหาพ่อแฟ้มใครต่อใครต่างส่ายหน้าปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น

ไพฑูรย์สิ้นหวังจึงเดินทางหนีต่อไปแต่พอขึ้นรถที่เดินรับส่งเท่านั้นก็มีคนเอาปืนมาจี้ลงจากรถพอลับตาคนจึงเอาผ้าดำมาผูกตามัดมือไขว้หลังให้นอนพาดหลังม้าพักใหญ่จึงหยุดเดินทางมีคนผลักลงจากหลังม้าแก้ผ้าผูกตาออกไพฑูรย์กระพริบตาอยู่พักหนึ่งจึงมองเห็นอะไรถนัด

เป็นค่ายพักชั่วคราวของชุมโจรเสือแฟ้มฉายาหน้าผากเสือแฟ้มนั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หนวดเคราดกหงอกขาวประปรายแก้มซ้ายมีรอยบากลึกเป็นรอยถูกของมีคมฟัน ดวงตาแดงผิดกับคนทั่วไปรู้ภายหลังว่าเสือแฟ้มกินว่านแร้งคอดำอันเป็นว่านมีพิษหากแพ้ถึงตาย หากทนได้ตาจะแดงเป็นแร้งไปเลย

‘’มึงเป็นอะไรกับไอ้สมิงลูกชายกูเล่า มันถึงมอบเขียวหมูตันที่หลวงพ่อพะสะอูลงอักขระปลุกเสกให้กับกูและลูกเมื่อสมัยที่กูสองพ่อลูกยังเป็นพรานป่าออกล่าเสือโคร่งไปถึงมะละแหม่งโน่น’’

ผมชื่อไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม รู้จักกับนายสมิงลูกชายพ่อเสือแฟ้มเมื่อไปติดคุกอยู่ในบางขวาง

‘’เอ้อ ไม่ต้องพูดแล้วไอ้สมิงมันบอกไว้แล้วก่อนมันจะไปบวชอยู่กับหลวงพ่อพะสะอูที่มะละแหม่ง มันบอกเอาไว้ว่าวันหนึ่งจะมีคนนำเขี้ยวหมูตันมาแสดงตัว ให้ช่วยเหลือให้เต็มที่เพราะเป็นผู้มีพระคุณต่อชีวิต’’

ไพฑูรย์จึงได้ใช้ชีวิตอยู่กับเสือแฟ้มหน้าบากอยู่พักนึงเสือแฟ้มเป็นศิษย์หลวงพ่อพะสะอูมักเล่าเรื่องหลวงพ่อพะสะอูให้ไพฑูรย์ฟังไม่รู้เบื่อ

กูกับลูกชายยิงเสือตัวหนึ่งแต่ประหลาดไม่เข้า เสือวิ่งหนีหายไปกูตามรอยเสือเข้าไปปรากฏว่ารอยเท้าเสือหายไปกลับเป็นรอยเท้าคนเดิน กูตามรอยเท้าไปจนสิ้นสุดรอยเท้าก็พบพระธุดงค์นั่งอยู่ในกลด อังสะมีรอยขาด 2 รูกูเข้าไปกราบท่านให้ศีลให้พรและพูดกับกูและลูกชายเป็นภาษาไทย

หลวงพ่อบอกว่าท่านชื่อพะสะอูมีรกรากเดิมอยู่ที่ด่านเจดีย์สามองค์พ่อเป็นพม่าแม่เป็นคนไทยต่อมาเมื่อมีการปิดด่านพ่อจึงอพยพกลับมะละแหม่งหลวงพ่อจึงตามพ่อแม่มาอยู่ที่มะละแหม่งด้วย อย่าสงสัยไปเลยเสือตัวที่กูกับลูกชายยิงคือร่างจำแลงของท่านวันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวงเป็นกำหนดที่ต้องใช้วิชาแปลงตัวเป็นเสือออกไปในป่าก่อนจะกลับเป็นคนอีกคราท่านไม่ถือโทษโกรธกูกับลูกชายเพราะเป็นเรื่องไม่เจตนา

ท่านบอกกับกูว่าไอ้สมิงลูกชายกูจะต้องอาญาถึงติดคุกพอพ้นคุกแล้วให้มาบวชกับท่านเพราะหากไม่บวชจะต้องถึงแก่ชีวิตท่านบอกว่าเจ้าสมิงมีดวงชะตาเหมาะกับการเป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาเสือสมิงต่อจากท่านทุกวันนี้ไอ้สมิงบวชอยู่กับหลวงพ่อพะสะอูที่มะละแหม่ง

ไพฑูรย์อยู่กับเสือแฟ้มด้วยข้อสัญญา 3 ข้อ

ข้อ 1 ไพฑูรย์จะร่วมปล้นไม่นิ่งดูดาย
ข้อ 2 จะยิงเฉพาะคนที่ต่อสู้คนที่วางอาวุธจักเว้น
ส่วนข้อ 3ไพฑูรย์ชิงเอ่ยปากก่อนเสือแฟ้มจะพูด

‘’ข้อ 3 ละเว้นการข่มขืนลูกและเมียเจ้าทรัพย์ตลอดจนบริวารที่เป็นหญิง’’

ข้อ 3 นี้ทำให้เสือแฟ้มส่งเสียงหัวเราะดังสนั่นก่อนจะบอกว่าไอ้สมิงคบคนไม่ผิดอย่างนี้สิวะเสือแท้ ข้อ 3 ที่มึงขอมันเป็นปรัชญาโจรของกูอยู่แล้ว

ไพฑูรย์ร่วมปล้นกับเสือแฟ้มอยู่ประมาณ 6 เดือนจึงละชุมโจรเสือแฟ้มให้สมุนนำไปพบพระสมิงและหลวงพ่อพะสะอู ที่มะละแหม่งก่อนจะนมัสการลากลับ หลวงพ่อพะสะอูมอบเขี้ยวเสือกลวงให้ 1 อันมีอักขระจารเต็มไปหมดหลวงพ่อพะสะอูให้คาถาเสือสมิงเป็นหนังสือใหญ่(อักขระขอม)ดังนี้

ตั้งนะโม 3 จบ ก่อนกระทำพิธีต่อไป
ปลุกตัวปลุกหัวใจ

‘’ โอมพยัคโฆ โส พยัคฆา ปิ พยัคเฆ ติ พยัคฆัง อิ พยัคฆี อิติปิโส นะโมพุทธายะ โอมพยัคโฆจะโสปิติอิ ฮึ่ม ฮึ่ม’’

ภาวนาขณะต่อสู้จะทำให้เพิ่มพลัง

‘’อิติปิโสพยัคโฆ อิติ’’

สักเสือเหนือใต้ใช้ภาวนาได้ทุกสำนักไม่สักมีเขี้ยวเสือกลวงเขี้ยวหมูตันติดตัวก็ใช้ได้ทำใจให้มั่นพลันเห็นผลทุกรายไป

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: