3603. พระขรรค์โสฬสปะทะยันต์ดอกบัวตูมหลวง (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

คณะกรรมการศาลทหารกรุงเทพฯซึ่งตั้งอยู่ในกระทรวงกลาโหมคณะตุลาการกำลังพิจารณาคดีระหว่าง น.ช.พลทหารทองสุข ขันนิยมเป็นทหารเรือลูกประดู่กระทำผิดเรื่องเมาสุราอาละวาดแทงทำร้ายพลฯเชื้อ มาฬมงคลมีบาดแผลสาหัสทั้งนี้เพราะคนทั้งสองกินเหล้าด้วยกันต่างคุยกันถึงเรื่องเหนียวไม่เหนียว

นช.ทองสุข ก็ว่าตนเก่งเพราะเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อหลุ่น ปัญญาวุฒิโท ซึ่งเป็นเจ้าของยันต์ดอกบัวอภินิหารย์ ทางฝ่ายพลฯเชื้อมีเบี้ยแก้อาจารย์พลอยแห่งวัดคฤหบดีทั้งสองก็เลยลองของกัน ปรากฏว่าพลฯเชื้อเป็นผู้แทงพลฯทองสุขก่อนแต่คมมีดไม่อาจทำอันตรายพลฯทองสุขได้ และเมื่อถึงตาที่พลฯทองสุขแทงบ้างก็ปรากฏว่าพลฯเชื้อถูกแทงเป็นแผลฉกรรจ์จนถึงกับเดินไม่ได้เพราะแทงถูกสะบัดเส้นหลัง

ตำรวจได้ทำสำนวนไปให้ อัยการ อัยการส่งฟ้องศาล ศาลไม่เชื่อว่าน.ช. ทองสุขคงกระพันชาตรีเพราะไม่มีหลักฐานให้ศาลพิสูจน์ศาลจึงตัดสินจำคุก 3 ปีเพิ่มโทษอีก 1 ปี 6 เดือน เพราะน.ช.ทองสุขเคยต้องโทษในคดีเมาสุราอาละวาดทำร้ายร่างกายมาแล้วถึง 14 ครั้งรวมกับโทษเดิมเป็นจำคุก 4 ปี 6 เดือน

น.ช.ทองสุข เข้ามาอยู่ในเรือนจำสมอแดง งดเหล้าได้ตั้งใจทำงานประกอบความดีเพื่อลบล้างความชั่ว จนต่อมาพระธำมรงค์ เรือนจำแต่งตั้งให้เป็นนักโทษชั้นดีมีหน้าที่ควบคุมดูแลไม่ให้นักโทษทหารเรือที่เกเรสร้างความเดือดร้อนให้แก่คุกในตอนนี้น.ช.ทองสุขเป็นนักโทษชายเต็มตัวแล้ว และระหว่างอยู่ในเรือนจำมีนักโทษทหารที่ในเรือนจำมาสมัครเป็นลูกศิษย์ น.ช. ทองสุข ก็สักให้ ค่ายกครู 6 บาทพร้อมด้วยดอกไม้ธูปเทียน

นักโทษในคุกเมื่อพ้นโทษไปแล้วเกิดไปมีเรื่องทะเลาะกับพวกนักเลงเก้ายอดซึ่งเป็นคนมีวิชาเหมือนกันผลปรากฏเหนียวทั้งคู่แต่แทงสู้พวกลูกศิษย์ ของน.ช.ทองสุขไม่ได้ผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์ต่างก็มาขอความกรุณาต่อพระธำมรงค์เพื่อขอให้น.ช. ทองสุขสักให้

พระธำมรงค์เห็นว่า น.ช.ทองสุขเป็นคนดีจึงอนุญาตมีทั้งนายเรือและทั้งนาวามาสมัครเป็นลูกศิษย์ของ น.ช.ทองสุขพวกที่เป็นลูกศิษย์ น.ช.ทองสุขบางคนก็ถูกแทงเข้า บางคนก็ถูกแทงไม่เข้าเป็นเรื่องเป็นราวรู้ถึงกรมหลวงชุมพรซึ่งมีตำแหน่งอยู่ที่กองทัพเรือ

พระองค์ท่าน อยากจะพบ น.ช.ทองสุขซึ่งอ้างตัวว่าเป็นอาจารย์ไสยศาสตร์สักให้โดยใช้พระเวทย์วิชาดอกบัวตูมบัวบาน เพื่อต้องการพิสูจน์ ว่านช. ทองสุขผู้นี้จะมีความรู้ทางวิชาไสยศาสตร์จริงหรือไม่ เสด็จในกรมหลวงชุมพรเสด็จมาที่เรือนจำสมอแดงพระธำมรงค์มีพระนามว่าหมื่นสะท้านทั่วทะเลฤทธิ์เดชก็มาต้อนรับเสด็จ

เสด็จในกรมหลวงชุมพรจึงพระดำรัสว่านักโทษในคุกสมอแดงเห็นว่าพวกทหารเรือลือกันว่ามีอาจารย์สักที่มีอิทธิฤทธิ์มีอภินิหารและคงกระพันชาตรีเป็นใครนั้นให้ท่านหมื่นเรียกมาหาหน่อย
หมื่นสะท้านกราบถวายบังคมทูลว่า ”ขอเดชะอาญาไม่พ้นเกล้า น.ช.ทองสุขติดคุกเรื่องทำร้ายร่างกายข้าพระพุทธเจ้าชุบเลี้ยงให้เป็นหัวหน้าฝ่ายปราบปรามอันธพาลในคุก ในคุกจึงมีความสงบเรียบร้อยพระพุทธเจ้าข้าฯ”

พระราชดำรัสให้พระธัมรงค์ลงไปเอาตัวน.ช.ผู้นี้มาเพื่อต้องทดลองให้ประจักษ์ว่ามีความสามารถมีอิทธิฤทธิ์คงกระพันชาตรีจริงหรือไม่และจะสามารถทนคมพระแสงของเราได้หรือไม่

ถ้าสามารถอยู่ยงคงกระพันชาตรีเราอาจจะเรียกและนับถือว่าเป็นอาจารย์แต่ถ้ามันเป็นอาจารย์ปลอมก็จะตัดคอเอาหัวเสียบประจานหรือถ้ามันกำแหงหาญก็ให้ลงอาญาทันที 8 สถาน

ยันต์ดอกบัวตูมดอกบัวบานเป็นเครื่องหมายของหลวงพ่อหลุ่น ปัญญาวุฒิโทสำนักได้มอบตำหนักให้หลวงพ่ออาจารย์ภู่ สุขดำเกิง อาจารย์ภู่มอบให้พี่เสงี่ยม นาดวาทินเป็นลำดับตามอายุยุคสมัย เป็นพระอาจารย์ที่เผยแพร่เกียรติคุณแห่งพระคาถาจนผู้ได้รับวิชานี้ไปต่อสู้ต่ออริราชหลายยุคหลายสมัยและก็ยังคงมีอนุภาพที่สามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ในเวลาออกสู่สมรภูมิ

พระธำมรงค์จึงรีบมาหา น.ช.ทองสุขโดยด่วนและบอกว่าเสด็จในกรมหลวงชุมพรมาประทัพลับพลาหน้าคุก ดํารัสถามว่าอาจารย์สักยันต์ดอกบัวตูมบัวบานมีตัวตนอยู่หรือไม่เพราะทหารเรือชั้นพลทหารชั้นนายเรือตรีชั้นนาวาเกือบครึ่งกองทัพมาสวามิภักดิ์สยบตัวเป็นลูกศิษย์ให้คนคุก

ถ้ามันเป็นคนดีมีวิชาจริงเรื่องอะไรมันจะมาติดคุก เสด็จในกรมฯต้องการมาดูตัว ดำรัสว่าถ้าเก่งจริงจะยกมือไหว้และยอมสยบเป็นลูกศิษย์ถ้าไม่มีคุณวุฒิก็จะตัดคอมันเสียบประจานหรือทรมานลงทัณฑ์8 สถานในกฎมณเฑียรบาลก็ให้มันเลือกเอา

น.ช. ทองสุขแต่งตัวเรียบร้อยแล้วออกมาก็ก้มกราบแทบพระบาทเสด็จในกรมฯ น.ช.ทองสุขถวายบังคมขอเดชะอาญาไม่พ้นเกล้า ข้าพระพุทธเจ้า น.ช. ทองสุข ศาลทหารตัดสินเรื่องทำร้ายร่างกายถูกจำคุก 4 ปี 6 เดือนใต้เบื้องยุคลบาทมีพระราชประสงค์สิ่งใดโปรดประทานดำรัส อาญาไม่พ้นเกล้า พระพุทธเจ้าข้า

เสด็จในกรมฯดำรัสให้ถอดเสื้อเผยให้เห็นหน้าอกและทั้งตัวของ น.ช.ทองสุกเต็มไปด้วยอักขระเลขยันต์และมีดอกบัวตูมอยู่ที่ตีนเต่าผม เสด็จในกรมฯทรงเอาพระขรรค์ชี้ถามว่าดอกบัวที่อยู่บนยอดนั้นมันอะไรกันวะ

น.ช.ทองสุขกราบทูลดอกบัวนี้เป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์ของปรมาจารย์ผู้เป็นเจ้าตำรับพระเวทย์และเป็นเครื่องหมายให้ลูกศิษย์ที่สักอาจารย์เดียวรู้จักและได้ทำเพื่อป้องกันไม่ให้ฆ่ากันเองพระพุทธเจ้าข้าฯ
เสด็นใจกรมฯพระราชดำรัสถามว่ามึงสักสินั้น มึงเชื่อถือว่า ป้องกันคมมีดและลูกปืนได้จริงหรือ

น.ช. ทองสุขตอบ เป็นเช่นนั้นพระพุทธเจ้าข้าฯ
เสด็จในกรมฯดำรัสว่าตั้งแต่มึงสักมาเคยได้ต่อสู้กับศัตรูที่มีมีดมีปืนบ้างไหม น.ช.ทองสุขสนองตอบพระราชดำรัสว่า
ข้าฯพระพุทธเจ้าถูกคมอาวุธมาหลายสิบครั้งแต่ไม่เคยจดและบันทึกไว้ข้าฯพระพุทธเจ้าเป็นคนมีสติวิปริตบ้าบ้าบอบอแต่ถือของพวกไสยศาสตร์ขึ้นเพราะเมื่อเล็กๆได้เคยถูกสุนัขบ้ากัด เมื่ออยากกินเหล้าก็ท้าให้นักเลงฟันถ้านักเลงฟันตามขาตามแขนได้เหล้าเพียงแก้วเดียว ถ้าฟันที่คอได้เหล้าขาว 1 ขวด พอได้อาศัยดอกบัวอภินิหารย์ช่วยให้ได้กินเหล้าทุกวัน นี่เป็นวาจาจริงของข้าฯพระพุทธเจ้า

เสด็จในกรมฯพระราชดำรัสถามว่าใครเป็นครูบาอาจารย์ ข้าฯพระพุทธเจ้าสักมาตั้งแต่อายุ 12 ขวบโดยหลวงพ่อหลุ่นเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทให้ ก่อนที่ข้าฯพระพุทธเจ้าจะสักข้าฯพระพุทธเจ้ายังได้เห็นพวกกองทัพ 4 เหล่ามาขอสมัครเป็นลูกศิษย์มากมายท่านสักให้ทุกคนไม่เลือกว่าจะเป็นคนดีหรือคนร้ายค่ายกครูเงิน 6 บาทพร้อมด้วยดอกไม้ธูปเทียนพอสักแล้วอาจารย์ก็จะใช้ให้คนเอาหอกพุ่งโดยยืนห่างกับคนพุ่งประมาณ 1 เมตรพุ่งขึ้นที่อกและด้านหลังจนเป็นที่ประจักษ์ข้าฯพระพุทธเจ้าเห็นจึงมีความเลื่อมใสศรัทธาสืบมาตั้งแต่บัดนั้น

เสด็จในกรมฯพระราชดำรัสว่า เออ…มึงเคารพนับถือไสยศาสตร์ซึ่งมีอำนาจอันมหัศจรรย์ลึกลับ ซึ่งยังไม่มีมนุษย์คนไหนพิสูจน์ได้ สำหรับเรื่องที่มึงพูดมานั้นก็ยังเป็นที่ระแวงสงสัยของกูอยู่
คอของมึงจะสามารถรับคมพระขรรค์ชัยของกูซึ่งผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วและเป็นพระแสงที่สร้างด้วยทองคำสัมฤทธิ์เงินนาก แร่ตะมูสังขวานรล้วนแต่เป็นของอาถรรพณ์สามารถสกัดกั้นฟาดฟันทุกคนที่มีเครื่องรางของขลังให้ไปสู่ความตายได้

น.ช.ทองสุขกราบทูลว่าพระเวทอภินิหารดอกบัวตูมบัวบานนี้แม้ว่าจะเป็นพระแสงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ไม่อาจที่จะได้โลหิตของข้าฯพระพุทธเจ้ามาให้แมลงวันกินเพียงแค่อิ่มเดียวได้
เสด็จในกรมฯพระราชดำรัสว่ามึงกล่าวเช่นนี้เป็นที่ถูกใจกูนักเอาล่ะถ้ามึงถึงคราวที่จะต้องสิ้นชีวิต ก็ขอให้วิญญาณของมึงเข้ามาสิงอยู่ในพระแสงของกูนี่และกูจะตัดหัวมึงเสียบประจานในความผิดข้อหาแสดงตนอุตริมนุษย์ธรรมไม่มีความรู้มาหลอกลวงว่ามีความรู้ น.ช.ทองสุขถือดอกไม้ธูปเทียนแล้วก็นำมาใส่อุ้งมือแหงนหน้าดูฟ้า แล้วก็มานั่งขัดสมาดหลับตาท่องบ่นพระเวทย์ประมาณ 5 นาที น.ช.ทองสุขก็ลุกขึ้นกราบถวายบังคมทูลแด่พระบาท

แล้วนอนตะแคงเอาคอรองเขียงไม้ที่พระธำมรงค์จัดมาให้เสด็จในกรมฯยกเงื้อพระแสงแล้วก็ดำรัสว่าอย่าจองเวรจองกรรมต่อกันเลย แล้วพระองค์ก็ฟันลงไปที่คอ น.ช.ทองสุขด้วยกำลังแรง 3 ครั้ง น.ช.ทองสุขก็ลุกขึ้นกราบถวายบังคม

เสด็จในกรมฯทรงนับถือและเรียก น.ช.ทองสุขว่าอาจารย์แล้วก็ให้น.ช.ทองสุขสักยันต์บัวตูมบัวบานให้ น.ช.ทองสุข ก็ถามวันเดือนปีเกิด เสด็จในกรมฯ

เมื่อรู้ข้างขึ้นข้างแรมแล้วก็จะสักดอกบัวตูมบัวบานเสด็จในกรมฯสนเท่ห์ก็ถามว่าทำไมถึงต้องสักบัวตูมบัวบานด้วย น.ช. ทองสุขกราบทูลว่าคนเกิดข้างแรมสักดอกบัวตูมคนเกิดข้างขึ้นสักดอกบัวบานข้าฯพระพุทธเจ้าข้า

เสด็จในกรมฯก็จัดหาเงิน 6 บาทมายกครู ส่วนโทษของ น.ช. ทองสุข นั้นเสด็จในกรมฯยื่นเรื่องราวขอรับตัวไปอยู่บ้าน เพราะคดีของ น.ช. ทองสุขเป็นคดีต่อสู้ทำร้ายกันแต่น.ช.ทองสุขมีอภินิหารยันต์ดอกบัวตูมบัวบานคุ้มตัวและเชื่อจึงไม่อาจที่จะทำร้ายน.ช.ทองสุขได้

แต่งตั้งให้ น.ช. ทองสุขเป็นจ่าตรี จนรับราชการเป็นถึงพันจ่าเอกทหารเรือเมื่อเสด็จในกรมฯสิ้นพระชนม์ชีพด้วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ น.ช.ทองสุขจึงลาออกจากทหารเรือมาเข้าสังกัดกองทัพบกขึ้นจากเรือมาอยู่บก น.ช. ทองสุขก็ได้รับสานุศิษย์เป็นทหารบกอีกครึ่งกองทัพ

น.ช.ทองสุขอยู่บ้านเลข..ที่ คุณไพบูลย์หัวหน้าบก. นิตยสารอาถรรพ์อยากจะได้เรื่องราวเกี่ยวกับคนที่มีวิชาคงกระพันชาตรี ข้าพเจ้าเรียกแกว่าพี่สุขท่าน บ.ก.อยากได้ประวัติคนเก่า ข้าพเจ้าจึงได้มาหาที่สุขที่บ้านดังกล่าว ต่อไปจะพาท่านไปพบเสด็จในกรมฯไปลองฤทธิ์กับหลวงพ่อทองวัดเขากบจังหวัดนครสวรรค์มีอาถรรพ์อภินิหารอันมหัศจรรย์เหลือเชื่อแต่เป็นเรื่องจริงจะปรากฏข้อเขียนของข้าพเจ้าเมื่อไหร่นั้นแล้วแต่ท่าน บ.ก.จะสนองประสงค์ท่านผู้อ่านขอบคุณสวัสดี

***เพิ่มเติมครับ****
พระขรรค์โสฬส ตามตำนานกล่าวว่าเป็นพระขรรค์ที่”หลวงปู่ศุข” วัดปากคลองมะขามเฒ่า สร้างให้กับ””กรมหลวงชุมพรฯ “ โดย “หลวงปู่ศุข” ปลุกเสกข้ามพรรษา ที่ตัวพระขรรค์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จารึกอักขระและเลขยันต์ประจำตัวของ “หลวงปู่ศุข”

พระขรรค์โสฬสทั้ง 7 เล่มนั้น 1 เล่มอยู่ที่ “เสด็จในกรม” อีก 1 เล่มอยู่ที่ “หลวงปู่ศุข” และอีก 5 เล่ม “เสด็จในกรม” ได้ถวายให้กับพระบรมวงศานุวงศ์ ในขณะที่พระขรรค์ประจำตัวพระองค์ของ “เสด็จในกรม” นั้น มีผู้พบเห็นพระองค์อัญเชิญเป็นศาสตรวุธประจำตัว โดยเฉพาะในขณะทรงเดินทางออกทะเล

ความอัศจรรย์ของ “พระขรรค์โสฬส” มีมากมายสามารถใช้ได้สารพัดนึก มีความคงกระพัน แก้ไขป้องกันคุณไสย์ ทำน้ำมนต์ไล่ภูตผีปีศาจ และที่สำคัญเป็นมหาอุดที่ปกป้องคุ้มครองอันตรายได้ทั้งหมู่คณะ
(ขออภัยที่ไม่มีรูปพระขรรค์โสฬสและยันต์ดอกบัวตูมบัวบานของจริงในยุคนั้นหากใครมีนำมาแบ่งปันด้วยครับ)

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: