3580. สัจจะไม่มีในหมู่โจร (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์มักพูดเสมอว่าคนเราไม่เคยโทษตัวเองเมื่อทำผิดพลาด มักหาทางโยนความผิดให้ไปตกกับสิ่งที่เป็นแพะ อันได้แก่ดวงชะตา ดวงดาวที่อยู่ในดวงชะตา โดยเฉพาะผู้ที่เกิดในโจโรฤกษ์ที่ดวงดาวจับกลุ่มกัน ดังเช่นตอนที่อหิงสกะมานพถือกำเนิดขึ้น เกิดฝนฟ้าคะนอง อสุนีบาตตกต้องหลังคาที่พักของท่านปุโรหิตผู้เป็นบิดา อาวุธในท้องพระคลัง อาวุธกวัดแกว่งกระทบกันดังกราวๆ เกิดประกายไฟพะเนียงแลบแปลบปลาบ

พอรุ่งเช้าท่านปุโรหิตได้เข้าเฝ้ากราบทูลให้พระเจ้าประเสนทิโกศลได้ทรงทราบว่าลูกชายถือกำเนิดท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนอง พระเจ้าประเสนทิโกศลจึงโปรดให้พระโหราธิบดีทำการผูกดวงบุตรชายของท่านปุโรหิต พระโหราธิบดีได้ถวายคำทำนายต่อหน้าพระที่นั่งว่า

“ขอเดชะพระอาญาไม่พ้นเกล้า ทารกที่ถือกำเนิด ณ เวลาเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ดวงดาวบนท้องฟ้าสถิตโจโรฤกษ์ ส่วนฤกษ์ล่างก็เป็นเพชฌฆาตฤกษ์ บ่งบอกว่าทารกผู้นี้เมื่อเติบใหญ่จะกลายเป็นมหาโจรผู้เข่นฆ่ามนุษย์อย่างปราศจากความปรานีเป็นร้อยเป็นพันคน สมควรให้นำทารกน้อยไปถ่วงน้ำเพื่อป้องกันเหตุร้ายในภายภาคหน้า”

พระเจ้าประเสนทิโกศลทรงมีพระราชดำรัสในมหาสมาคมว่า

“อันเราเป็นมหาราชผู้ปกครองแผ่นดินด้วยความมั่นคงในทศพิธราชรรม จะให้เราสั่งประหารเด็กทารกน้อยเพียงแต่เกิดในฤกษ์ดาวโจรเท่านั้นเป็นการมิสมควรแก่มหาราชาผู้ปกครองแผ่นดินโดยธรรม เราจะให้ชื่อเด็กทารกน้อยให้เป็นสิริกับดวงชะตา ก็ในเมื่อเขาเกิดมาเป็นผู้ “หิงสา”

เบียดเบียนชีวิตผู้คน เราจะให้ชื่อเด็กทารกน้อยว่า “อหิงสกะ” อันมีความหมายว่า “ผู้ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น” ให้ท่านปุโรหิตได้อบรมเลี้ยงดูให้ทารกน้อยผู้นี้ได้เติบใหญ่ขึ้นมาด้วยเมตตาธรรม ส่วนเหตุร้ายจะเกิดขึ้นตามคำทำนายหรือไม่นั้นยังมาไม่ถึง

อหิงสกะเติบโตขึ้นจนถึงวัยเรียน ท่านปุโรหิตได้ส่งไปเรียนวิชาการกับท่านทิศาปาโมก ณ ตักศิลานคร ก็บังเอิญว่าตัวทิศาปาโมกผู้เป็นอาจารย์เป็นโคแก่กินหญ้าอ่อน มีภรรยาอายุคราวลูกสาว จึงออกจะขี้หึง ส่วนอหิงสกะก็รุ่นหนุ่มหน้าตาดีและเรียนเก่งจนเพื่อนที่เดินทางไปเรียนด้วยกันเกิดอิจฉาว่า หากไม่ทำลายอหิงสกะมานพ ปล่อยให้สำเร็จวิชากลับไปราชสำนัก ไม่นานตำแหน่งขุนพลแก้วก็จักตกอยู่กับอหิงสกะมานพ ไพฑูรย์บอกว่า

“ดวงดาวหาได้ทำร้ายอหิงสกะมานพไม่ แต่เพื่อนนักเรียนต่างหากที่รุมทำร้ายอหิงสกะด้วยการใส่ความว่าอหิงสกะกับเมียสาวของอาจารย์แสดงกิริยาอาการด้านชู้สาวต่อกัน ตอนแรกท่านทิศาปาโมกไม่เชื่อ แต่หนักเข้าก็เหมือนเสาปักดินแน่นแค่ไหนถูกโยกบ่อยเข้าก็คลอน ท่านทิศาปาโมกเห็นจริงตามคำยุแหย่จึงได้วางแผนร้าย”

ท่านทิศาปาโมกได้นัดอหิงสกะมานพมาพบ ปรารภว่ามีวิชาสำคัญจะสอนแต่ผู้จะเรียนได้ต้องสังหารผู้คนที่เป็นชายให้ครบ 1,000 คนเมื่อได้ครบแล้วจะได้รับการถ่ายทอดวิชา ท่านทิศาปาโมกใช้แผนยืมดาบฆ่าคน โดยให้อหิงสกะมานพออกฆ่าคนให้ครบ 1,000คน หนึ่งในจำนวน 1,000 คนต้องมีผู้มีฝีมือสังหารอหิงสกะมานพลงได้ แต่ปรากฏว่ามีแต่คนที่ตายภายใต้คมดาบของอหิงสกะมานพเพิ่มจำนวนขึ้น อหิงสกะมานพฆ่าคนแล้วตัดนิ้วมือไว้ศพละนิ้ว ตากแห้งร้อยด้วยเชือกเถาวัลย์สวมคอแทนพวงมาลัย จึงมีฉายาใหม่ว่า “โจรองคุลีมาลย์”แปลว่า “โจรผู้มีนิ้วมือคนร้อยเป็นพวงมาลัยสวมคอ”

ฆ่าคนไปได้ 999 คนอีกคนเดียวจะครบ 1,000 คน นางพราหมณีผู้เป็นมารดาแห่งองคุลีมาลย์ได้ข่าวว่าพระเจ้าประเสนทิโกศลให้ขุนพลยกทัพใหญ่ออกไปล่าสังหารองคุลีมาลย์ผู้เป็นลูกชายเพื่อจะบอกให้หนีราชภัยไปโดยพลัน แต่องคุลีมาลย์กลับฉวยดาบไล่สังหาร สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเล็งข่ายพระญาณพบเข้าจึงเสด็จมาโปรดจนได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในที่สุด อย่างนี้ดวงดาวให้โทษหรือคนชั่วให้โทษกันแน่

ไพฑูรย์บอกว่า ถ้าไม่ลุแก่โทสะและความแค้นเคือง ต่อสู้ด้วยกฎหมายกับขุนตระเวนฯ ไม่ตั้งศาลเตี้ยไปท้าดวลปืนกับขุนตระเวนฯ ยิงขุนตระเวนฯ ตาย จนถูกตัดสินประหาร จะโทษดวงดาวหรือโทษตัวเอง ไพฑูรย์บอกว่า

“ผมโทษตัวเองครับดวงดาวบนท้องฟ้าทำอันตรายต่อชีวิตของผมไม่ได้ แต่ผมทำร้ายชีวิตตัวผมเองต่างหาก หากนย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำเด็ดขาด แต่ทุกอย่างสายไปแล้ว”

ไพฑูรย์บอกว่า งานที่ชิงชังที่สุดในชีวิตคือการรับจ้างฆ่าคน ไพฑูรย์ถือว่าเป็นอาชีพของผู้ที่มิใช่ลูกผู้ชาย เพราะคนที่ตนเองไปสังหารมิได้เป็นศัตรูหรือเคยทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ คนที่ตนเองไปสังหารไม่มีโอกาสได้ต่อสู้เพราะถูกลอบกัดจากผู้จ้องสังหารทีเผลอเคยมีเจ้าของซุ้มมือปืนมาติดต่อขณะที่กำลังหลบหนีคดี แต่ไพฑูรย์ไม่ยอมทำ โดยไพฑูรย์บอกว่าไม่อยู่ในความคิด เป็นเหตุให้เกิดเรื่องระหว่างไพฑูรย์กับหมวดมงคลเจ้าของซุ้มเทวา

หมวดมงคล เป็นอดีตนายทหารสารวัตรทหารบกยศร้อยตรี แต่ถูกให้ออกจากราชการเพราะทำร้ายผู้บังคับบัญชา ทั้งยังถูกดำเนินคดีอาญา พอพ้นโทษออกมาจึงมาเป็นมือปืนรับจ้างสังกัดซุ้มจ่าอเนกสามร้อยยอด รับงานจากปราณบุรี บางสะพานน้อย บางสะพานใหญ่ ไปจนถึงเขาสามร้อยยอด มีมือปืนในซุ้ม 5 คน รวมทั้งหมวดมงคลด้วย เมื่อจ่าอเนกถูกยิงตายคาซุ้ม ทุกคนพุ่งเป้าไปที่ซุ้มฝ่ายตรงข้าม จนไม่มีใครเฉลียวใจว่ามือปืนที่ยิงจ่าอเนกคือหมวดมงคลเพื่อขึ้นเป็นหัวหน้าซุ้ม

จ่าอเนกเป็นญาติห่างๆของไพฑูรย์รกรากเดิมเป็นคนจังหวัดตาก ไพฑูรย์เคยหนีไปซ่อนตัวอยู่ในซุ้มเทวาของจ่าอเนกก่อนจะออกเดินทางต่อไป เพราะอิทธิพลของจ่าอเนกนั้นพอสมควรไพฑูรย์หนีมาอีกครั้งจึงพบว่าจ่าอเนกตาย ตอนนี้มีหมวดมงคลมาแทนที่ เมื่อไพฑูรย์ไปที่ซุ้มเทวาหมวดมงคลจำไพฑูรย์ได้จึงให้การต้อนรับให้ที่ซ่อนตัว วันหนึ่งหมวดมงคลหิ้วเฮนเนสซี่มานั่งก๊งที่สถานที่ซ่อนตัวของไพฑูรย์ หลังจากร่ำสุราได้ที่แล้ว หมวดมงคลได้เสนองานทันที

“ไพฑูรย์นายก็เคยเป็นทหารเหมือนเราแล้วมันได้อะไร นายไม่ต้องหนีต่อไปมาเป็นมือปืนรับจ้างในซุ้มเทวาดีกว่า ฝีมืออย่างนายต้องครั้งละ 20,000 งานเบาถึงเวลาก็พกปืนซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปยิงเหยื่อตามรูปถ่ายแล้วกลับมารับเงิน ง่ายจะตายนายว่าไหม”

“พี่หมวดมงคล ในฐานะคนนับถือกัน ผมบอกพี่หมวดมงคลตรงๆว่า อาจ่าเคยเสนอให้ผมเป็นมือปืนรับจ้างแต่ผมไม่รับ ผมจะบอกกับพี่หมวดมงคลเหมือนที่ผมเคยบอกกับอาจ่าว่าผมรังเกียจอาชีพลอบกัดที่ไม่เคยให้โอกาสเหยื่อต่อสู้ พี่ก็ชายชาติทหาร การประกอบอาชีพมือปืนรับจ้างไม่ใช่อาชีพของลูกผู้ชายแม้แต่น้อย”

“เราเพียงแต่ปรารภเท่านั้น ไม่ได้จริงจังอะไรนักหรอก ไพฑูรย์ไม่สนใจก็แล้วไปว่าแต่ว่านายจะออกจากซุ้มเมื่อใดจะได้เตรียมการไว้ให้พร้อม”

“ผมไม่อยู่นานหรอกเกรงใจพี่หมวดมงคล”

หลังจากวันนั้นแล้วหมวดมงคลไม่เยี่ยมกรายมาอีกเลย ไพฑูรย์ยังคงใช้วิธีเดิม คือจะไม่อยู่ในบ้านพักเป็นเวลานาน จะนอนตอนหัวค่ำ พอดึกถึงค่อนแจ้งจะไปนอนนอกบ้านเพื่อป้องกันการจู่โจมของตำรวจหรือนักล่าเงินรางวัล เช้ามือวันหนึ่งตำรวจจากบางสะพานเข้าล้อมบ้านพักแต่ไพฑูรย์ออกไปจากบ้านพักพร้อมกับปืนคู่มือ ตำรวจจึงกลับไปมือเปล่า

ไพฑูรย์รีบออกจากบ้านที่กบดานไปหาจ่านาวินอดีตตำรวจสายสืบที่เคยไปที่ที่พักของท่านผู้มีพระคุณตั้งแต่ไพฑูรย์ยังเป็นคุณชายวรรณวิน เคยมาอาศัยกบดานที่บ้านพักที่จ่านาวินจัดให้เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากซุ้มเทวา จ่านาวินเห็นหน้าก็เอ่ยขึ้นว่า

“คุณชาย ผมเป็นห่วงแทบแย่ เมื่อเช้ามือตำรวจบุกจับเสือแหกคุกแต่คว้าน้ำเหลว ผมไม่คิดว่าจะเป็นคุณชาย สายของผมมาบอกว่า หมวดมงคลเป็นคนแจ้งให้ตำรวจมาค้น”

“ไอ้หมวดมงคลมันกล่อมให้ผมเป็นมือปืนรับจ้างในสังกัดซุ้มเทวา แต่ผมปฏิเสธและด่ามันจนเปิง มันจึงเอาคืน”
“คุณชายอย่าอยู่ที่นี่เลย ผมจะจัดให้เรือมารับเดินทางไปอยู่ที่ประจวบโน่น ผมมีญาติอยู่ที่นั่นจะปลอดภัยกว่าที่นี่”

ไพฑูรย์เล่าว่า ออกเดินทางไปอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ ทิ้งความแค้นความหลังออกเดินทางขึ้นไปจนสุดชายแดนใต้แล้วย้อนขึ้นเหนืออีกต่อหนึ่ง ไพฑูรย์บอกว่านี่แหละชีวิตมือปืนรับจ้างที่ใครก็ไม่กล้าคบด้วย เกรงว่าหากมีใครมาให้เงินสูงๆ ก็อาจยิงผู้มีพระคุณตายเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ร้ายแรง

คาถาภาวนาหัวใจหมี
เมื่อจะเข้าต่อสู้ให้ปลุกใจ ปลุกความกล้า ให้มีพลังเพิ่มขึ้น หัวใจหมีมี 4 ตัว
สะ สิ มิ ระ

โบราณบอกว่า “ฝอยท่วมหลังช้าง” ใช้ได้ตามแต่จะปรารถนาที่จะใช้ ทั้งเมตตาแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี ก่อนจะเรียนพระคาถาต่างในเพจแอดมินแนะนำใส่บาตรอุทิศส่วนกุศล ให้อาจารย์ไพฑูรย์และครูเจ้าของวิชาเลือกเอาวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันครู เหมาะสำหรับไหว้ครูหรือเรียนวิชาต่าง ๆจะขลังนักแล และหากจะไหว้ครูวันอื่นๆก็ไม่ได้นะครับต้องวันนี้โดยตรง ห้ามแต่งงาน หรือใช้ในกิจกรรมอันต่ำ

ที่มา : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
รูปภาพ : จากหนังเรื่อง อันธพาน คลองเมือง 2012

แอพเกจิ – AppGeji
——————————————————————————-

ติดตามเรื่องราวครูบาอาจารย์ได้เพิ่มเติมที่
แอพเกจิ Facebook: www.facebook.com/appgeji
Web Sit: www.appgeji.com
App Store (IOS): https://appsto.re/th/wlGScb.i

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: