3578. ผู้สืบทอดสายเลือดวีรชนค่ายบางระจัน (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์บอกว่าคนส่วนใหญ่มักอ้างคำว่า “ฟ้าลิขิต” มาใช้กับตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับตัวเองโดยพูดว่า “ทุกอย่างเป็นไปตามฟ้าลิขิต” แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ดีมักบอกว่าเป็นเพราะความสามรถของตัวเอง ฟ้าลิขิตสำหรับไพฑูรย์เขาบอกว่า

“ใช้สำหรับบุคคลสำคัญที่เกิดมาเพื่อทำงานใหญ่ที่คนธรรมดาทั่วไปทำไม่ได้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงพระราชสมภพมาเพื่อกอบกู้เอกราชของชาติไทยจากอุ้งมือมารแห่งพระเจ้านันทบุเรง ด้วยพระปรีชาสามารถทั้งด้านการวางแผนการรบและด้านการรบจนมีชัยชนะเหนือพม่าข้าศึก ทำให้กรุงศรีอยุธยาคงอยู่เป็นอิสรเสรีสืบมาอีก160 ปี จนมาเสียกรุงเมื่อปีพุทธศักราช 2310

“สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงพระราชสมภพมาในตระกูลชาวบ้านที่บิดาเป็นชาวจีน มารดาเป็นชาวไทย พระองค์กับทหารคู่ใจกองอาสาไทยจีนฝรั่งเพียง 500 นาย ตีแหกวงล้อมพม่าข้าศึกออกไปรวบรวมผู้คนยกกลับมาขับไล่ไอ้สุกี้พระนายกองถอยพ้นจากกรุงศรีอยุธยารวบรวมแผ่นดินที่แตกออกเป็น 6 ก๊กรวมเป็นหนึ่งเดียวที่กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร”

“พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเล้าเจ้าอยู่หัวบรมมหาราชาธิราชทรงพระราชสมภพมาเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ เอาแผ่นดินสยามรอดจากอุ้งมือสองมหาอำนาจอังกฤษและฝรั่งเศส ด้วยวิเทโศบายด้านต่างประเทศและทรงปลดปล่อยทาสที่เปรียบเสมือนสุนัขในสายตาของนายทาสให้เป็นไท โดยมิได้เสียเลือดเนื้อเหมือนสหรัฐอเมริกา”

“อย่างนี้ซีถึงจะเรียกว่าฟ้าลิขิตโดยแท้จริง”

ไพฑูรย์บอกกับผู้เขียนว่าที่ต้องมาเป็นอาชญากรที่มีคดีประหารสองคดี ติดคุกอีกเป็นร้อยปี มิใช่ฟ้าบันดาลแต่เป็นตัวเองนั่นแหละที่บันดาลให้ต้องเป็นอาชญากร เพราะหากไม่ลุแก่โทสะและโมหะไปฆ่าขุนตระเวนฯ เข้าคงไม่เกิดเรื่อง จึงไม่เคยคิดว่าเป็นฟ้าลิขิต ทุกหนแห่งที่หนีซอกซอนไปมีแต่ความลำบาก เงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว มีทางเลือกคือเอาชีวิตรอดให้ได้ทุกวิถีทาง หากแม้ตายก็ขอตายโดยมือกำด้ามปืนไว้ ตายด้วยฝีมือผู้ล่าจะไม่มีการเหลือกระสุนนัดสุดท้ายไว้ระเบิดหัวตัวเองแบบสุนัขจนตรอกเป็นอันขาด

เสือโคร่งเสือคนเป็นแบบเดียวกัน คือสู้ตาย เสือหลายตัวหระโจนสวนทางปืนเข้าหาพรานแบบว่าถ้าเอ็งพลาดกูจะขบขมองเอ็ง ถ้าเอ็งไม่พลาดเอ็งก็เอาหัวกูไปได้เลย ตำรวจจับไพฑูรย์ได้คราใดก็เอารางวัลไปแบ่งปันกันอิ่มเอมเปรมอุรา ส่วนไพฑูรย์เข้าคุกโดน 2-3 สลบ ขังเดี่ยวขังคุกมืดทุกครั้งเหมือนกัน

วัดโพธิ์เก้าต้น หรือที่รู้จักกันในนาม “ค่ายบางระจัน” เป็นแหล่งรวมวีรชนถึง 11 ท่านที่ลูกหลานรุ่นต่อมาได้สืบสายเลือดวีรชนมาจากเหล่าผู้กล้าแห่งบางระจัน จึงภาคภูมิใจในวีรกรรมของปู่ย่าตาทวดที่แผ่ซ่านอยู่ในสายเลือด

ไพฑูรย์เล่าว่าเมื่อคราวที่หลบไปอยู่ที่บ้านโพธิ์เก้าต้น ตอนนั้นยังไม่มีอะไรให้เห็นว่าเป็นบ้านบางระจัน นอกจากบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าเป็นสระน้ำกินน้ำใช้และน้ำมนต์ที่ท่าน พระอาจารย์ธรรมโชติ ได้เสกประพรมเป็นขวัญและกำลังใจแก่ชาวบ้านบางระจัน เพื่อต่อสู้กับพม่าข้าศึกจนตัวตายสิ้นทั้งค่าย

ทุกปีในวันที่ค่ายแตกบันดาลูกหลานที่สืบสายเลือดโดยตรงจะเลี้ยงพระใหญ่ หาบคอนอาหารมาถวายพระเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับปู่ย่าตาทวด พอตอนโพล้เพล้จะนำร่างทรงที่เป็นชายผู้สืบสายเลือดโดยตรงมาให้ดวงวิญญาณของปู่ย่าตาทวดได้ใช้ร่างเป็นตัวแทนออกมาพูดคุยกันเองระหว่างดวงวิญญาณและกับลูกหลาน

สำหรับภาษาที่ใช้ไพฑูรย์ว่าเป็นภาษาโบราณที่ไม่คุ้นหูแต่สื่อความหมายได้ชัดเจน บางคำต้องมีคนมาคอยแปลเสริมให้ไพฑูรย์ว่าแทบไม่น่าเชื่อว่าร่างแต่ละร่างดื่มสุราเถื่อนต้มเองเป็นไหๆ แต่ไม่เมาไม่พับไม่ลุกไปเข้าห้องน้ำห้องท่า บรรดาลูกหลานที่มานั่งเฝ้าผุดลุกผุดนั่งแต่ร่างทุกร่างนั่งดื่มสุราไม่ลุกไปไหนไม่มีใครเมา เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจวิญญาณทุกดวงคุยกันอย่างสนุกสนานบานใจคล้ายกับว่าปีหนึ่งได้กลับมาพบปะสังสรรค์กันอีกครา ไพฑูรย์แม้มิใช่คนพื้นที่แต่รู้สึกสนใจเรื่องราวเหล่านี้มากเป็นพิเศษ ได้รับเมตตาจากพ่อเฒ่าหาญ อดีตผู้ใหญ่บ้านให้การต้อนรับผู้เฒ่าหาญท่านผู้นี้เป็นผู้สืบเชื้อสายตรงมาจากนายจันหนวดเขี้ยว บอกกับไพฑูรย์ว่า

ทวดจันของเขาเป็นผู้ถูกยกย่องให้เป็นผู้นำค่ายบางระจัน เพราะเมื่อถึงงานเทศกาลอัญเชิญดวงวิญญาณประจำปี บรรดาผู้กล้าทุกดวงวิญญาณจะเรียกดวงวิญญาณทวดจันว่า “พี่จัน” ทุกคนเพราะมีความอาวุโสและฝีมือการซุ่มโจมตีพม่าข้าศึกเอาชนะด้วยกำลังคนที่เหนือกว่า แม้แต่ ขุนสรรค์ พันเรือง,นายทอง แสงใหญ่, นายทองเหม็น ล้วนให้ความเกรงใจ

ผู้เฒ่าหาญผู้นี้เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.โพธิ์เก้าต้น ที่มีผลการปราบปรามโจรผู้ร้ายมากมายตั้งแต่สมัยใช้หมวดกะโล่ติดตราราชสีห์ของกระทรวงมหาดไทยมาจนเกษียณ เป็นผู้ฟื้นฟูเรื่องดวงวิญญาณของผู้นำชาวบ้านบางระจัน สมัยเมื่อเป็นผู้ใหญ่บ้านโดยบวงสรวงขอความคุ้มครองเมื่อต้องไปปราบเสือเอิบ บ้านระหัด ที่เคยประกาศว่าจะเด็ดหัวผู้ใหญ่หาญโพธิ์เก้าต้นให้ได้หากโผล่หัวเข้ามาในเขตบ้านระหัด ผู้ใหญ่บ้านหาญก็เคยประกาศว่าวันใดเสือเอิบเข้ามาในเขตบ้านโพธิ์เก้าต้นเป็นไม่มีเงาหัว

เสือเอิบ พาสมุนมาลักพาตัว น.ส.กรอง บุตรสาวนายแม้น คหบดีบ้านโพธิ์เก้าต้น ทิ้งใบบอกไว้ว่าให้นำเงิน 100 ชั่ง (8,000 บาท) ไปไถ่ตัวลูกสาวคืนที่จุดนัดพบที่บ้านชันสูตร หากไม่นำเงินไปก็เตรียมรับศพกับไปได้เลยให้รอกำหนดวันนัดอีกทีหนึ่ง ผู้ใหญ่หาญถึงกับหนวดกระดิก คำรามลั่นว่า

“ไอ้เอิบมันกำเริบถึงกับมาเหยียบจมูกกูถึงบ้านโพธิ์เก้าต้น มึงกับกูต้องตายกันไปข้าง กูจะไม่ให้โอกาสมึงได้มอบตัว”

เสือเอิบส่งกำหนดวันนัดและสถานที่มาถึงนายแม้น ผู้ใหญ่หาญมองดูแผนที่แล้วไม่ว่าอะไรบอกกับนายแม้นว่าถึงเวลาก็เดินทางไปตามกำหนด ไม่ต้องห่วง ผู้ใหญ่หาญเอาชีวิตเป็นประกันว่าได้ลูกสาวคืน เงินก็จะไม่ต้องเสีย ก่อนวันนัดสามวันผู้ใหญ่หาญระดมลูกบ้านที่เคยออกทำงานล่าเสือและควายที่ถูกปล้นไปด้วยกันล้วนเป็นลูกหลานบรรพชนบ้านบางระจัน

ผู้ใหญ่หาญตักน้ำในสระวัดโพธิ์เก้าต้นขึ้นมาให้หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ มาทำน้ำมนต์ผสมน้ำอาบและประพรมตัวเพื่อเตรียมออกศึกเหมือนเมื่อครั้งวีรชนบ้านบางระจันออกศึก ผิดกัน แต่ว่าตอนนั้นมีพระอาจารย์ธรรมโชติเป็นประธานมิใช่หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่

ผู้ใหญ่หาญอ่านใจเสือเอิบว่าก่อนวันนัดสองวันจะยังไม่นำตัว น.ส.กรองไปยังจุดนัดพบ แต่จะให้สมุนไปคอยดูลาดเลา เมื่อพวกที่นำเงินค่าไถ่เดินทางมาเพื่อให้แน่ใจจึงจะนำตัว น.ส.กรองไปยังจุดนัดพบ แม้จะเป็นผู้ใหญ่บ้านโพธิ์เก้าต้น แต่ภรรยาของผู้ใหญ่หาญเป็นคนบ้านระหัดจึงรู้ทางหนีทีไล่ได้เป็นอย่างดี

ภรรยาผู้ใหญ่หาญบอกว่าชุมโจรของเสือเอิบอยู่ด้านใต้ของหมู่บ้าน ที่นั้นเคยเป็นบ้านพักมาก่อน แต่ต่อมาเจ้าของตายกลายเป็นบ้านร้างผีดุ เสือเอิบจึงบูรณะแล้วทำเป็นซ่องโจร ผู้ใหญ่หาญเลือกเดินทางตอนกลางคืน ตอนกลางวันหาที่นอนตามศาลาวัด แต่งตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาดาบคนละเล่ม (ชาวบ้านสมัยโน้นเวลาเดินทางจะมีดาบติดตัวไปด้วย) ส่วนปืนพกใส่ไว้ในย่าม

มาถึงบ้านเป้าหมายเวลาประมาณตีสอง ผู้ใหญ่หาญให้รอโดยสังเกตกลุ่มดาวหมา ว่าหากหัวกลุ่มดาวหันลงละก็ยามสี่ขาจะหลับใหลไม่ได้สติ พอได้เวลาผู้ใหญ่หาญปลุกทุกคนให้เตรียมพร้อมเคลื่อนที่เข้าหาบ้านเป้าหมายทันที ยามนั่งหลับยามกลายเป็นผีถูกเชือดคอตาย

บ้านพักของเสือเอิบกลายเป็นบ้านหลังใหญ่อยู่ตรงกลาง มีบ้านหลังย่อมปลูกอยู่สองข้าง มีไม้กระดานพาดเป็นทางเดินติดต่อกัน ผู้ใหญ่หาญแบ่งกำลังจำนวน 12 คนออกเป็นสามส่วน 3 คนแรกขึ้นบ้านหลังที่สามทางซ้ายมือ ส่วนผู้ใหญ่หาญกับพวกรวม 6 คนขึ้นบ้านพักเสือเอิบหลังใหญ่ตรงกลาง ก่อนบุกขึ้นไปผู้ใหญ่หาญหยิบลูกกระสุนดินของอาจารย์เหลืองฆราวาส ที่หากขว้างข้ามหลังคาบ้านใดคนในบ้านจะหลับใหลเหมือนถูกมนต์สะกด เสกด้วยคาถากำกับแล้วขว้างข้ามหลังคาบ้านก่อนบุกขึ้นไปพร้อมกัน

ผู้ใหญ่หาญเล่าให้ไพฑูรย์ฟังว่าขึ้นไปบนบ้านแล้วให้ทุกคนนอนหลับเป็นตาย ตัดหูมุ้งให้คลุมตัวยังไม่รู้สึกตัวแม้แต่นิดเดียว ผู้ใหญ่หาญให้จุดคบขึ้นก่อนร่ายคาถาถอนสะกด นั่นแหละทุกคนจึงรู้ตัวแต่สายไปแล้ว พอออกจากมุ้งมาก็หมดอิสรภาพเพราะปากกระบอกปืนของผู้ใหญ่หาญและพวกสะกดเอาไว้ เสือเอิบขบกรามกรอดร้องตวาดว่า

“ทุด นึกว่าแน่ เล่นทีเผลอสะกดพวกกู นี่หรือวะผู้ใหญ่หาญ คนเก่งแห่งโพธิ์เก้าต้น ที่แท้ก็ขี้ขลาดตาขาว”

ผู้ใหญ่หาญสวนกลับไปในทันทีด้วยเสียงดังพอๆกัน

“ได้ ไอ้หมาเอิบ มึงมันไม่ใช่เสือ เพราะลองได้จับตัวผู้หญิงมาเรียกค่าไถ่แทนการปล้นตามธรรมเนียมโจร กูจะฉะกับมึงตัวต่อตัว ขอเพียงมึงมอบกุญแจห้องขังอีกรองมาเป็นเดิมพันกับชีวิตกูแค่นี้จบ”

เสือเอิบหัวเราะด้วยความสะใจ โยนลูกกุญแจมาให้ผู้ใหญ่หาญ ผู้ใหญ่หาญพยักหน้าลูกน้องเก็บกุญแจไว้ ร้องบอกให้ได้ยินทั้งสามบ้านว่าคุมตัวพวกมันอยู่บนบ้านส่วนกูกับไอ้เอิบจะลงไปฉะกันที่ลานบ้าน ดาบเปลือยคมคนละเล่ม เสียงดาบปะทะกันดังติดต่อกัน สะเก็ดไฟกระจายออกมาจากการปะทะกันของดาบที่ตีจากเหล็กกล้า

ผู้ใหญ่หาญตกเป็นรองเพราะเสือเอิบหนุ่มกว่า แต่พลันก็มีเงาดำๆวูบเข้าหาแล้วไม่รู้ตัวอีกเลย พอมารู้ตัวอีกทีก็ยืนอยู่ปลายเท้าศพเสือเอิบที่คอขาดกระเด็นออกไปห่างตัวราวหนึ่งวา ไอ้กลม หนึ่งในอาสาสมัครเล่าว่า

“เห็นพ่อผู้ใหญ่ชวนเซไปข้างหลัง ยังคิดในใจว่าหากจำเป็นจะยิงเสือเอิบเพื่อป้องกันชีวิตผู้ใหญ่ แต่เห็นพ่อผู้ใหญ่หลับตาแล้วตะโกนว่า กูไอ้จัน หนวดเขี้ยว มาช่วยลูกหลานกูทำลายไอ้เศษเดนคนอย่างมึง สามเพลงมึงไปนรก พ่อผู้ใหญ่พูดทั้งที่หลับตากลับรุกไล่ไอ้เสือเอิบจนเสียหลัก มองแทบไม่ทัน ไม่รู้ว่าดาบฟันตรงไหนเหมือนถูกสะกด พอรู้สึกตัวก็เห็นไอ้เอิบยืนหัวขาดเลือดพุ่งเหมือนดอกไม้ไฟก่อนล้มลงนอนเหยียดยาว พ่อผู้ใหญ่จึงลืมตาขึ้น”

ข่าวผู้ใหญ่หาญบุกรังเสือตัดคอเสือเอิบคามือกระจายไปทั่ว นอกจากจะได้เงินรางวัลนำจับเสือเอิบแล้วยังได้แหนบประดับสิงห์ทองคำเป็นรางวัลแห่งความดี ซึ่งผู้ใหญ่หาญเก็บบูชาไว้บนหิ้ง เพราะเชื่อแน่ว่าได้มาเพราะวิญญาณพ่อจัน หนวดเขี้ยว บรรพบุรุษของตนเอง

ที่มา : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
รูปภาพ : จากหนังเรื่อง บางระจัน

แอพเกจิ – AppGeji
——————————————————————————-

ติดตามเรื่องราวครูบาอาจารย์ได้เพิ่มเติมที่
แอพเกจิ Facebook: www.facebook.com/appgeji
Web Sit: www.appgeji.com
App Store (IOS): https://appsto.re/th/wlGScb.i

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: