3572. อาถรรพ์แห่งอาคมประตูทองต้องปิดตาย (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์มักเตือนผู้เขียนเสมอว่า ในฐานะที่เป็นผู้ที่เคารพในหลวงพ่อเดิมด้วยกันและเชื่อถือในเรื่องเครื่องรางของขลังด้วยกันว่า อย่าเปิดประตูทองให้ศัตรูด้วยการด่าแม่เป็นเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีของดีขนาดไหนหากด่าแม่เขาแล้วความคงกระพันมหาอุดจะหายไประยะหนึ่ง เปิดช่องว่างให้ศัตรูจู่โจมถึงชีวิตได้ในพริบตา

เสือแก่นร้องกวางยิงกับไพฑูรย์ เสือแก่นถือว่ามีคดขนุนหรือเม็ดขนุนทองแดงที่คาถาคัดของทำอะไรไม่ได้ ถูกยิงจนหนังไหม้ไม่ระคายผิว ด้วยความโกรธผสมความเจ็บจึงตะโกนด่าแม่ไพฑูรย์ ไพฑูรย์ยิงสวนทันทีเข้าทุกนัด แม้คดขนุนจะเป็นของดีตามธรรมชาติยังไม่อาจป้องกันคนที่ด่าแม่คนอื่นได้ โกรธแค้นแค่ไหนอย่าด่าแม่ศัตรูเด็ดขาด ตายสถานเดียวเท่านั้น

หลวงพ่อเดิมก็เคยกำชับไพฑูรย์ถึงเรื่องนี้ว่า “อย่าเปิดประตูทอง” ไพฑูรย์บอกว่าด่าแม่คนอื่นเป็นของไม่ดี แม่ใครๆก็รัก แม่เป็นของสูงในชีวิตลูกแล้วไปลบหลู่ด้วยคำหยาบถือว่าผู้นั้นสมควรตาย แม้คดที่ดีตามธรรมชาติคัดไม่ออกยังเปิดออกเองเหมือนรายเสือแก่นร้องกวาง อีกอย่างหนึ่งคือเครื่องรางของขลังเป็นของสูง อย่าได้ลบหลู่ดูถูกหรือวางไว้ในที่ต่ำ จะไม่ดีแก่ตัวเอง อย่าข้ามกรายเป็นเด็ดขาดจะถือว่าไม่เคารพ อีกอย่างหนึ่งพระเครื่อง,เครื่องรางของขลัง เวลาจะมีเพศสัมพันธ์จะต้องอาราธนาออกจากตัวไปแขวนไว้เสียก่อน อย่าได้ใส่ติดตัวไว้เป็นเด็ดขาด ของจะเสื่อมหมดต้องระวังให้มาก

ในชีวิตนี้ไพฑูรย์บอกว่าเคยพบกับเสือไทยเพียงครั้งเดียวตอนที่หนีไปอยู่กับญาติของหม่อมหลวงลออที่เขายี่สาร ตอนนั้นเสือไทยยังอาละวาดปล้นพวกเศรษฐีที่รีดนาทาเร้นคดโกงคนจน เป็นที่ต้องการของตำรวจ ญาติของหม่อมหลวงลออพาไพฑูรย์ไปอาศัยอยู่กับเสือไทยโดยมิได้บอกว่าเป็นใคร

เมื่อไพฑูรย์ไปอาศัยอยู่ด้วยจึงรู้ว่าเป็นเสือไทย อายุแก่กว่าไพฑูรย์ ไพฑูรย์จึงเรียกว่าพี่ไทย เสือไทยถามว่าเป็นศิษย์อาจารย์ใด
ไพฑูรย์บอกว่ามอบกายถวายชีวิตให้หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ เสือไทยบอกว่าพี่เป็นศิษย์หลวงพ่อพุ่มวัดบางโคล่ ได้วิชามาสองอย่างคือวิชาพรหมพันหน้า ภาวนาคาถาแล้วทำให้จำหน้าไม่ได้ ใช้เวลาจวนตัวต้องแหกด่านตำรวจ กับวิชาเสกหุ่นพยนต์ผ้าเช็ดหน้า

เสือไทยเล่าให้ฟังว่าตอนพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อพุ่ม เสือไทยรู้ก็ทั้งรู้ว่าตำรวจไปล้อมจับเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสีย เสือไทยก็ต้องมาร่วมงานศพแน่ โดยนั่งเรือเร็วมาจอดซุ่มที่ท่าน้ำแล้วเดินเท้าเข้าไปร่วมงาน ภาวนาคาถาพรหมพันหน้าเดินผ่านตำรวจเข้าไป ตนเองจำหน้าตำรวจได้หลายคนเพราะเคยยิงกันมาแล้ว

แต่ตำรวจเหล่านั้นจำไม่ได้ เรียกได้ว่าเดินเฉียดไปจนแทบจะชนเพราะคนมางานกันแออัดมาก ร่วมเผาศพหลวงพ่อพุ่มแล้วก็เดินกลับออกไปก็ผ่านตลอดไปอีกจนถึงทางลงท่าน้ำ จะด้วยเหตุใดไม่รู้ได้ ตำรวจนายหนึ่งได้เรียกให้หยุดแต่เสือไทยไม่หยุด ตำรวจอีกหลายนายได้ยินเสียงจึงพากันวิ่งมา เสือไทยยิงสกัดก่อนวิ่งไปกระโดดลงเรือที่จอดรออยู่ คนขับพาหนีไปทันที

อีกครั้งหนึ่งที่บ้านแพ้วนำกำลังไปปล้นบ้านเศรษฐีถูกตำรวจซ้อนกลเกิดปะทะกันแบบว่าเสียฤกษ์จึงสั่งไอ้เสือถอย เสือไทยเล่าว่าทุกครั้งที่ต้องปะทะกับตำรวจ หากสั่งไอ้เสือถอยให้ทุกคนรู้ว่าให้แยกกันหนีอย่าหนีไปทางเดียวกัน ตำรวจจะได้กระจายกำลังกันตามล่าทำให้ไม่สามารถใช้กำลังกดดันได้

เสือไทยหนีไปตามลำพังตำรวจห้านายตามหลังมาติดๆ เสือไทยหมอบอยู่ในพุ่มไม้ควักผ้าเช็ดหน้าออกมาขมวดปมที่มุมผ้าภาวนาขณะขมวดปมแล้วภาวนาคาถาทำจิตใจให้แน่วแน่อธิษฐาน ทิ้งผ้าไว้ตรงที่หมอบแล้วรีบหนีทันที ตำรวจจะมองเห็นเป็นคนซุ่มอยู่จึงไม่กล้าบุกเข้ามา ต้องค่อยๆโอบล้อมเข้ามาพอถึงที่ที่กะว่าจะพบตัวก็จะเจอแต่ผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น

ไพฑูรย์บอกว่าเสือไทยมิได้เอ่ยถึงคาถาที่ใช้ เพียงแต่บอกว่าเป็นของเฉพาะตัวให้ใครไม่ได้ ทำให้ไพฑูรย์ระลึกถึงพระเวทสังข์ถ่วงที่ให้ใครไม่ได้เช่นกัน

หลวงพ่อเดิมท่านมีวาจาสิทธิ์นัก ในชีวิตของท่านนั้นมีเพียงครั้งเดียวที่สร้างวัตถุมงคลคู่กับพระเกจิอื่น นั่นคือเหรียญคู่หลวงพ่อเดิมหลวงพ่อคล้ายออกที่วัดเขาพนมรอก เรื่องมีอยู่ว่า หลวงพ่อเดิมรับนิมนต์หลวงพ่อคล้ายวัดเขาพนมรอกให้ไปเป็นประธานสร้างโบสถ์

หลวงพ่อเดิมท่านสร้างโบสถ์ที่ใดจะสร้างขนาดพอประมาณไม่ใหญ่โต ท่านตีผังเอาไว้รอเวลาที่จะกลับมาดำเนินการสร้าง แต่หลวงพ่อคล้ายท่านเห็นว่าเล็กเกินไปจึงให้ช่างขยายผังออก พอหลวงพ่อเดิมมาเห็นเข้าท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่พูดว่า

“ขยายผังเสียใหญ่โตอย่างนี้เมื่อใดจะสร้างเสร็จเล่า ฉันกลับไปทำที่อื่นดีกว่า”

ปรากฏว่าหลวงพ่อคล้าพยายามหาหนทางทุกวิถีทางแต่ไม่สำเร็จ จนที่สุดต้องให้ช่างตีผังตามแบบที่หลวงพ่อเดิมกำหนดไว้แล้วไปนิมนต์หลวงพ่อเดิมมาเป็นประธานใหม่ หลวงพ่อเดิมเห็นผังเป็นแบบเดิมแล้วจึงบอกว่าถ้าอย่างนี้ละก็เสร็จแน่ เพียงหนึ่งปีโบสถ์วัดเขาพนมรอกก็เสร็จ ในงานผูกพัทธสีมาวัดเขาพนมรอกหลวงพ่อคล้ายขออนุญาตสร้างเหรียญคู่ หลวงพ่อเดิมอนุญาต กลายเป็นเหรียญคู่ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้

ไพฑูรย์เล่าว่าประตูเล็กๆที่เปิดไปสู่วัดบางแพรกใต้ที่เรียกว่าประตูผีออก เป็นประตูที่ใช้ในการนำศพนักโทษประหารที่ไม่มีญาติมาขอรับออกไปเก็บไว้รอญาติมารับ กลางคืนไม่มีใครกล้าผ่านมาใกล้เพราะเล่าลือว่าผีดุ ก็จะไม่ดุได้อย่างไรในเมื่อเป็นผีนักโทษประหารที่ถูกประหารทั้งที่มีความกลัว ความห่วงหาอาลัยคนที่อยู่เบื้องหลัง ดีแต่ว่าหลวงพ่อช่วงวัดบางแพรกใต้ท่านสะกดวิญญาณเอาไว้ไม่ให้อาละวาดไม่อย่างนั้นพระเณรอยู่กันไม่ได้

หลวงพ่อช่วงท่านเป็นเจ้าอาวาสวัด หากท่านไม่มีกิจนิมนต์อื่นมักจะมาเทศนาโปรดนักโทษประหารก่อนเข้าหลักประหารเสมอ นักโทษประหารฟังท่านเทศนาแล้วน้ำตาไหลทุกคน เพราะท่านเทศน์เรื่องกุศลและอกุศลกรรม การทำใจในการที่จะถูกประหารเพราะเหตุมันมีผลจึงทำให้ถูกประหาร ให้ทำจิตแน่วแน่ เข้าหลักประหารแล้วอย่ากลัว ให้ภาวนาว่า พุทธัง สรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ จะได้ไม่ตกไปในอบายภูมิ

คราใดที่มีการเล่าลือว่าผีนักโทษประหารเฮี้ยน หลวงพ่อจะลงมาเดินจงกรมแผ่เมตตาให้แก่วิญญาณนักโทษประหารให้สงบ รายไหนไม่มีญาติมารับศพทางเรือนจำจะฝากศพให้หลวงพ่อทำการฌาปนกิจศพ หลวงพ่อก็จะทำให้ตามต้องการนำอัฐิไปลอยน้ำให้ไปผุดไปเกิด

ประตูผีออกเป็นประตูเหล็กหนาปิดตายตลอดเวลายกเว้นเวลาเอาศพนักโทษประหารออกไปวัดบางแพรกใต้เวลาจะเปิดต้องไปรับกุญแจจากตึกอำนวยการมาไข เสร็จธุระแล้วจึงนำมาคืน เพราะเป็นจุดอ่อนหากใครจะแหกคุกก็อาจใช้จุดนี้ได้ ยามที่เข้าเวรอยู่บนหอคอยด้านที่เป็นที่ตั้งของประตูผีออกมักถูกผีหลอกโดยทำเสียงเป็นประตูเปิดเข้าเปิดออก เอาไฟฉายส่องดูก็ไม่มีอะไร ตอนหลังจึงต้องตามไฟไว้หนึ่งดวงเพื่อความปลอดภัย

พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ในบางขวางน่าสนใจไม่น้อย เพราะรวมความเป็นมาของเรือนจำเครื่องมือเครื่องใช้ในการทรมานแบบจารีตนครบาล รวมทั้งดาบเพชฌฆาต และหมูที่มีหน้าเหมือนคน แม้แต่ตะกร้อเอาคนใส่ข้างในให้ช้างเตะก็มีแสดงเอาไว้

สำหรับไพฑูรย์แล้วเขาบอกว่าเป็นบ้านหลังที่สองเพราะเวลาอยู่ในบางขวางเป็นเวลานานจนได้รับพระราชทานอภัยโทษในที่สุด เป็นสถานที่ที่นำเอาเหตุการณ์จริงที่ผ่านมาเขียนเป็นหนังสือชื่อ จอมอาชญากรหมายเลขหนึ่ง เป็นหลักฐานแห่งความจำ

คาถาพระคุณบิดาป้องกันภัย (หลวงปู่ภู จันทเกสโร วัดอินทรวิหาร)
ตั้งนะโม 3 จบก่อนจึงร่ายพระคาถาว่า
โอพ่อ โอพา โอมา มามิ มาพ่อ

ก่อนนอนไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ในป่า หรือแม้แต่ถ้ำเถื่อนเรือนร้าง แม้แต่ในป่าช้าให้สวด 9 จบ น้อมระลึกถึงคุณบิดาว่าหากปราศจากการสร้างของบิดาแล้วหรือจะมีลูกอยู่ในครรภ์ของมารดา พ่อคือผู้สร้าง แม่คือผู้รักษาประคับประคองชีวิตลูกจนลืมตาดูโลก

ไพฑูรย์ว่าแต่ไม่ยักกะมีใครแต่งเพลงสรรเสริญพระคุณพ่อ มีแต่เพลงสรรเสริญพระคุณแม่ที่ขึ้นต้นว่า “แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง” หลับนอนจะไม่ฝันร้ายเหมือนมีคุณพ่อมาคอยรักษาชีวิต

ไพฑูรย์นั้นมักมีเรื่องมาเล่ามีคาถามาฝากผู้เขียนอยู่เป็นประจำ ด้วยความผูกพันเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิมด้วยกัน ไพฑูรย์ทันชีวิตหลวงพ่อ แต่ผู้เขียนไม่ทันแต่ได้ไปแต่งงานกับสาวหนองโพจึงเท่ากับไปเป็นลูกหลานหลวงพ่อเดิมมาจวบจนทุกวันนี้

นี่คืออีกส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ออกจากปากของไพฑูรย์ที่ผู้เขียนได้นำมาถ่ายทอดผ่านสายตาของท่านตลอดมาจนถึง ณ ปัจจุบัน ซึ่งต้องขอกราบขอบพระคุณที่ทุกท่านได้ติดตามอ่านเป็นประจำ เป็นกำลังใจให้พยายามฟื้นความทรงจำนำมาเขียนเป็นลำดับไปจนกว่าท่านผู้อ่านจะเลิกติดตามอ่าน โดยเฉพาะคาถาพระคุณพ่อนี้ผู้เขียนพบโดยบังเอิญ โดยจดพระคาถาสอดไว้ในหนังสือพระกิตติคุณหลวงพ่อเดิมแล้วหาไม่เจอไม่รู้ว่าไปซุกไว้ที่ไหน พอเจอก็เปิดดูพบคาถาที่จดไว้เลยนำมาบันทึกไว้กันลืม

ผู้ที่เรียนวิชาอาคมหรือแขวนพระเครื่องราง ของขลังต่างๆพึงจำไว้ให้ดีประตูทองนี้ไม่ควรเปิดเด็ดขาด แต่ปัจจุบันนี้คนยุคนี้กลับนำมาด่ามาล้อกันจนเป็นเรื่องปกติ คนสมัยก่อนจะพูดจะกล่าวอะไรแต่ละคำต้องแน่วแน่ไม่พูดพล่อยๆ ทำอะไรท่องคาถาอะไรจึงได้ขลังจริงเหนียวจริง คนยุคนี้พูดอย่างทำอย่างด่าพ่อล้อแม่จนเป็นเรื่องปกติความขลังในวิชาอาคมทั้งหลายจึงได้เสื่อมไปตามกาลเวลา

สำหรับคาถานี้ใครอยากจะเรียนก็เรียนได้ครับแนะนำให้ใส่บาตรวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันครูเหมาะแก่การเรียนวิชาอาคมต่างๆ เมื่อใส่บาตรแล้วอธิษฐานอุทิศให้อาจารย์ไพฑูรย์และครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาเพื่อขอประสิทธิ์วิชาจะขลังนักแล

ซึ่งแอดมินได้รวมตำนานทั้งหลายไว้ในเพจนี้หมดเเล้วหวังว่าเรื่องราวทั้งหลายจะช่วยเสริมศรัทธาในพระพุทธศาสนาแก่ทุกท่านและทำให้ท่านได้เห็นความจริงแห่งสัจจะธรรม ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว

(ของดีของขลังทั้งหลายกันได้ทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือกันตาย ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ทุกคนไม่ว่าใครก็ต้องตายต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักทั้งนั้น ไม่มีสิ่งใดเป็นของเราไปได้ตลอดถาวรพึ่งทำกรรมดีไว้มากๆเถิด จะได้มีความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า)

ที่มา : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

แอพเกจิ – AppGeji
——————————————————————————-

ติดตามเรื่องราวครูบาอาจารย์ได้เพิ่มเติมที่
แอพเกจิ Facebook: www.facebook.com/appgeji
Web Sit: www.appgeji.com
App Store (IOS): https://appsto.re/th/wlGScb.i

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: