1407. โคนสมอยอดขุนพล (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ประสบการณ์จริงเผาไม่ไหม้
พ.ศ. 2480 ดิฉันมีอายุได้ 30 ปี อยู่กับพ่อแม่พี่สาวและสามีพร้อมหน้ากันหมดที่อาคาร 4 ราชดำเนินพ่อของดิฉันมีภรรยา 2 คนเมียหลวงคือคุณแม่ของดิฉันและแม่คนที่สองก็คือคุณน้าจําเนียรคุณพ่อมีบุตรกับคุณแม่ของดิฉัน 5 คนเป็นผู้หญิง 3 คนผู้ชาย 2 และมีกับคุณน้าจำเนียร 2 คนเป็นผู้ชายทั้งสองคน

คุณพ่อคุณแม่ท่านเป็นคนดีมีใจเมตตาต่อเพื่อนบ้านใกล้เคียงและญาติมิตรคุณแม่ของดิฉันกับคุณน้าจำเนียรก็รักใคร่กันมากเหมือนพี่น้องกันไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันเลยงานบ้านก็แบ่งกันทำ ส่วนเงินทองที่คุณพ่อท่านได้รับเงินเดือนมาท่านก็จะนำมามอบให้คุณแม่ของดิฉันแล้วคุณแม่ของดิฉันก็จะแบ่งให้คุณน้าจําเนียรเมียน้อยของคุณพ่อ

ในครอบครัวของเรามีความสุขมากในส่วนตัวของคุณพ่อนั้นท่านชอบไปเที่ยวป่าหาเครื่องยามาผสมสำหรับท่านเล่นแร่แปรธาตุปี 1 ท่านจะต้องเข้าป่าหาเครื่องยามาเตรียมไว้มีเบ้าดินมีเครื่องสูบทำเหมือนหินตู้พระธรรมมีเพื่อนของคุณพ่อมาทำพิธีบูชายกเครื่องเสวยแล้วก็ผสมเครื่องตะกั่วทองแดงและแผ่นทองคำลงไปในเบ้าพอใส่ไฟแล้วก็นั่งสูบกันดิฉันและแม่กับพวกพี่น้องก็ไม่ค่อยสนใจกับคุณพ่อนักเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของผู้ให้กำเนิด

และในปลายปีนั้นเองคุณพ่อของดิฉันก็ล้มเจ็บกระเซาะกระแซะเรื่อยมาพวกลูกๆก็คอยเฝ้าปรนนิบัติท่านมิได้ขาดพร้อมทั้งคุณน้าจำเนียรและแม่ของดิฉันอยู่มาวันหนึ่งตอนกลางวันที่ดิฉันได้เข้าไป คอยเฝ้าคุณพ่อและได้เอาข้าวต้มกับไข่เค็มไปป้อนท่านก่อนที่ท่านจะอ้าปากรับประทานข้าวต้มดิฉันได้เห็นท่านคายของสิ่งหนึ่งออกจากปากของท่านแล้วท่านก็หันมาอ้าปากรับข้าวต้มจากดิฉันกินจนหมดชามแล้ว ท่านก็พูดว่า
ลูกเอ๋ย…พ่อคงอยู่อีกไม่นานหรอก

ฉันใจหายวาบพูดว่าพ่อทำใจให้ดีๆนะค่ะลูกเห็นคุณพ่อยังแข็งแรงดี

แล้วท่านก็หันหน้ามาหาดิฉันแล้วเอามือลูบหัวของดิฉันแล้วบอกว่าลูกไปทำธุระเถอะพ่อจะนอน แล้วดิฉันก็เห็นคุณพ่อท่านยกมือเอาของที่ท่านคายออกมาตอนกินข้าวต้มเอาใส่อมไว้อย่างเดิมฉันจึงเลี่ยงออกมาข้างนอกเห็นพวกลูกๆของดิฉันกำลังเล่นกันอยู่

ต่อมาจนถึงวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2480 คุณพ่อของดิฉันก็จากโลกนี้ไปด้วยความสงบยังความเศร้าใจให้กับคุณแม่และคุณน้าจำเนียรก่อนที่คุณพ่อของดิฉันจะหมดลมคุณพ่อยังมีสติดีได้ร้องสั่งดิฉันว่าถ้าพ่อตายแล้วลูกจงรีบไปที่วัดราชนัดดา เด็ดดอกเทียนที่ต้นสูงๆ ดอกเล็กๆมาใส่มือพ่อด้วยนะลูก พ่อจะได้ไปไหว้พระจุฬามณี

ดิฉันทำตามคำสั่งของคุณพ่อก่อนที่สัปเหร่อจะเอาคุณพ่อลงในหีบในมือของคุณพ่อที่พนมก็มีตอกเทียนที่ท่านสั่งไว้ทุกประการ คุณแม่ได้ไปติดต่อตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดพระพิเรน ทร์ทำพิธีสวดเสร็จก็เผาทันที

แต่น่าอัศจรรย์เผาเท่าไหร่ศพของคุณพ่อก็ไม่ยอมไหม้เพียงแต่ข้างหีบไหม้หมดทั้งสองข้าง ส่วนตัวของคุณพ่อนั้นยังไม่ยอมไหม้ จนสมภารท่านถามแม่ของดิฉันว่า
‘’โยมญาติของผู้ตายมาไม่พร้อมกันหรือ…โยมผู้ชายจึงไม่ไหม้ไฟถ่านตั้ง 6 ถัง
ครึ่งแล้ว’’

แม่ของดิฉันจึงตอบแทนว่า ‘’มาหมดเจ้าค่ะพระคุณเจ้า’’

เอ…ทำไมถึงไม่ยอมไหม้มีอะไรในตัวผู้ตายหรือเปล่า

เอ…ยังไงก็ไม่ทราบเจ้าค่ะแต่เมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่แกก็ชอบเดินป่าเป็นประจำและรับราชการเป็นนายทหารพรานของรัชกาลที่ 6 ด้วยเจ้าค่ะ

ทันใดนั้นดิฉันก็นึกถึงของสิ่งหนึ่งที่คุณพ่ออมไว้เมื่อตอนที่ดิฉันป้อนข้าวต้มให้ท่านท่านได้คายออกมาใส่ฝ่ามือ พอรับประทานข้าวต้มอิ่มก็เอากับเข้าอมไว้ใหม่

ดิฉันจึงบอกกับแม่ว่าเห็นคุณพ่ออมอะไรไว้ก็ไม่รู้อยู่ในปากของท่านทางแก้มขวาเมื่อท่านได้ยินดิฉันพูดเช่นนั้นจึงบอก เออ..ท่าจะจริง แล้วพระคุณเจ้าท่านก็พาแม่และดิฉันไปที่เตาเผาไปชักศพออกมา

เมื่อสัปเหร่อดึงคุณพ่อออกมาแม่ก็ร้องไห้โฮ ดิฉันก็ร้องไห้ด้วยความรักและคิดถึง ท่านเจ้าคุณจึงบอก…ว่าแล้วไหมล่ะ ก่อนที่จะล้วงลงไปในปากคุณพ่อ เพื่อดูว่าจะมีอะไรอยู่ในปาก

ดิฉันจึงขอขมาศพคุณพ่อแล้วบอกกับศพคุณพ่อว่าพ่อขาขอให้ลูกเถอะของของคุณพ่อนะลูกจะเอาไว้ให้หลานปุ๋ย สำหรับติดตัว แล้วดิฉันก็เอามือล้วงลงไปในปากของคุณพ่อก็พบของสิ่งหนึ่งเป็นเม็ดกลมๆดำเหมือนนิลถักไว้ด้วยลวดทองคำอย่างประณีตท่านเจ้าคุณจึงให้ดิฉันแบมือให้ท่านดูโดยที่ท่านมิได้แตะต้องแล้วบอกว่า

เออ…ที่เขาเรียกว่าของดีล่ะวะถึงได้เผาไม่ไหม้ เองเป็นลูกคนที่เท่าไหร่ล่ะแม่ของดิฉันจึงบอกว่าเป็นคนที่สามเจ้าค่ะแล้วท่านก็บงการให้สัปเหร่อเอาศพของคุณพ่อเข้าเตาอบใหม่

โหมไฟพักเดียวศพของพ่อก็มอดหมดตอนที่ดิฉันได้ของดีจากปากของคุณพ่อนั้นพวกน้องๆและพี่ๆไม่มีใครรู้เรื่องเลยเพราะเขาเหล่านั้นมัวออกไปหาของกินกันที่หน้าวัดหมดแม่จึงให้ดิฉันเป็นผู้รักษาของนี้ไว้

เมื่อพ.ศ. 2501 ลูกชายของดิฉันก็ถูกเกณฑ์ทหารดิฉันจึงได้ไปดูการเกณฑ์ที่วัดราชบพิธเมื่อเห็นลูกชายถูกดี 1 ประเภท 1 และทางการทหารเขาเรียกกักตัวดิฉันใจหายหมดแต่ก็อดที่จะภูมิใจและดีใจที่สุดที่ลูกชายจะได้เป็นทหารหาญของชาติได้มีโอกาสได้รับใช้ชาติและบ้านเมืองดิฉันจึงเข้าไปหาลูกชายและมอบเงินไว้ให้ใช้แล้วสอนว่าอย่าหนีราชการนะลูกน๊ะเมื่อคิดถึงแม่ถึงเวลาเขาก็ให้มาหาแม่

ลูกชายฉันตอบว่า แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกแล้วผมจะไปหาแม่แต่เวลานี้ยังไม่รู้ว่าเขาจะส่งผมไปอยู่ที่กรมไหนเพราะจะต้องไปจับสลากอีกแล้ววันอาทิตย์ผมจะไปหาแม่แล้วดิฉันก็พาน้องๆที่ไปด้วย กลับมาบ้านต่อมาหลายวันลูกชายของดิฉันก็มาหาแม่ในเครื่องแบบของสีเขียวขี้ม้าและมาบอกว่าเขาได้อยู่ที่ ม. พันหนึ่ง ร.อ.สนามเป้าถ้าแม่จะไปหาผมให้บอกยามประตูว่าขอเยี่ยม พลฯประเสริฐ ศิริเทียน อยู่ บ.ก.พันและลูกก็ได้จดไว้ให้เรียบร้อย

ลูกชายดิฉันเป็นทหารจนครบเกณฑ์ก็ไม่ยอมออกกลับสมัครต่อไปอยู่หน่วยโดดร่มเมื่อลูกดิฉันไปโดดร่ม ดิฉันจึงมอบของดีที่ได้มาจากปากของคุณพ่อดิฉันให้กับลูกชายไปใช้ โดยตักเตือนให้มีเมตตาจิตต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์เดรัจฉานที่มันร้องขออาหารจากเรากินไม่ได้ ลูกชายของดิฉันก็รับรู้และรับของเอาไปอมไว้แบบคุณตา

หลายปีต่อมาลูกชายของดิฉันก็ได้แฟลตอยู่ที่ถนนดินแดงพร้อมด้วยภรรยาของเขาและลูกชายลูกหญิงที่แยกครอบครัวไปดิฉันก็พลอยสบายใจด้วยและคงอยู่กับลูกสาวของดิฉันที่สะพานวันชาติในตรอกพระสุรีย์

อยู่มาวันหนึ่งลูกสะใภ้วิ่งกระหืดกระหอบมาเรียกแต่เช้าประมาณก่อนหกโมงบอกให้รีบไปที่แฟลตเพราะเขาได้กินเหล้าเข้าไปมากจนหมดสติและจุดบุหรี่คีบไว้ในมือ ส่วนตัวของลูกสะใภ้พอเห็นผัวเมามากก็โกรธหอบเอาลูก 3 คนไปบ้านของเขาที่คลองตันพระโขนงต่อมารุ่งขึ้นเช้าจึงกลับมาที่แฟลต เห็นมุ้งหมอนที่นอนไฟไหม้หมดเหลืออยู่เฉพาะที่ตัวของเขานอนเป็นรอยรูปร่างตัวเขานอนอยู่แล้วไฟก็ยังไม่ยอมดับยังรุกอยู่

ที่นอนหมอนมุ้งไม่มีเหลืออยู่เลย พอดิฉันไปถึงห้องก็ตรงเข้าเขย่าตัวที่ตัวลูกชายแล้วเรียกชื่อว่า ปุ๋ย!..ปุ๋ย! เอ็งนอนยังไงลูกฝืนไฟไหม้ที่หลับที่นอนหมดแล้ว ดิฉันก็คลำดูที่กระเป๋าหน้าอกเสื้อ ก็พบของดีที่ได้ให้ไว้อยู่ในกระเป๋าของลูกชาย ขำก็ขำในการเมามายของลูกชาย นี่ดีน่ะเป็นเรื่องแปลกที่คนข้างนอกไม่มีใครรู้มิเช่นนั้นแล้วจะต้องโดนคดีทางตำรวจอีกด้วย และเวลานี้ของดีนั้นก็ยังอยู่ที่ดิฉันเคยเอาไปให้ผู้เฒ่าดูเขาบอกว่านี่แหละ….โคนสมอ ยอดขุนพล องค์เท่าหัวแม่มือของดิฉัน และได้เก็บรักษามาจนทุกวันนี้

*ทั้งนี้แอดมินก็หารูปประกอบไม่ได้เพราะไม่รู้จักหน้าตาพระเหมือนกันหากแฟนเพจท่านใดรู้จักและพอมีรูปประกอบ แบ่งปันมาให้ชมด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : คุณวุฒ พุทธศิลป์ (รูปภาพในบทความเป็นเพียงภาพประกอบไม่มีส่วนเกียวข้องกันบทความใดๆทั้งสิ้น)
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: