3663. หลักการร่ายพระเวท (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ผู้เขียนเคยถามนักโทษชายเดช เพื่อนร่วมรุ่นเรือนจําบางขวางกับไพฑูรย์และสนิทสนมกันมาก โดยไพฑูรย์เคยบอกกับผู้เขียนว่าหากไม่เชื่อว่าเรื่องที่นำมาเสนอเป็นต้นฉบับหรือเรื่องเล่าที่ไพฑูรย์ได้เล่าให้ฟังแล้วไม่จริงก็ขอให้ไปถามอดีตนักโทษชายร่วมคุกกับไพฑูรย์ดูก็ได้ บ้านอยู่ที่ตำบลตลาดขวัญจังหวัดนนทบุรี

ผู้เขียนจึงได้เดินทางไปตามที่อยู่ที่ไพฑูรย์ได้บอกรายละเอียดไว้อยู่ในสวนลึกพอสมควรเมื่อไปถึงได้แจ้งความประสงค์ว่าจะมาขอคุยกับคุณลุงเดช ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามแนะนำมาลูกหลานบอกให้รอสักครู่หลังจากหายไป ไม่นานก็เข็นรถเข็นพานายเดชอดีตนักโทษชายออกมาจากด้านหลังบ้าน

ผู้เขียนเป็นฝ่ายยกมือไหว้เคารพผู้อาวุโสเป็นทุนไว้ก่อน

”คุณเป็นลูกหลานของไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามหรือเปล่าจึงมาขอพบผมไพฑูรย์อยู่ดีมีสุขเป็นฉันใด”

”ผมเป็นบรรณาธิการนิตยสารฉบับหนึ่งที่พี่ไพฑูรย์เขียนเรื่องลงไปเป็นตอนตอน พี่ไพฑูรย์บอกว่าหากผมไม่เชื่อว่าเรื่องที่ถูกเขียนออกมาหรือคิดว่าเป็นเรื่องแต่งให้มาถามอดีตนักโทษชายเดชตามที่อยู่ที่พี่ไพฑูรย์ให้ผมมา”

ผู้เขียนได้เริ่มสอบถามอดีตนักโทษชายเดชซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นนักโทษชายเดชเล่าถึงไพฑูรย์เอาไว้ว่า

ไพฑูรย์ที่ผมรู้จักเมื่อเขาถูกจับนำตัวกลับบางขวางเมื่อแหกคุกครั้งแรกผู้คุมให้ผมคอยดูแลพยาบาลเนื่องจากถูกซ้อมสามสลบและจากการตีด้วยกระบอกอย่างไม่มีความปราณีผมเอาเงินจากมุกของผมซื้อถั่วเขียวกับน้ำตาลทรายแดงมาต้มให้ไพฑูรย์กินแก้ช้ำในกินเข้าไปเพียง 3 วันไพฑูรย์อาเจียนออกมาเป็นโลหิตสีดำเป็นชามก๋วยเตี๋ยวมีกลิ่นเหม็นเหมือนเลือดเสียภายในออกมาไพฑูรย์กล่าวขอบคุณผมบอกกับผมว่า

”หนี้เงินหนี้ทองใช้คืนให้ไม่นานก็หมดแต่หนี้พระคุณเกื้อหนุนสุดชดใช้ได้หมด ไพฑูรย์จะใช้คืนให้จนหมด”

ฉายาสิงโตหินผมไม่อาจยืนยันได้ว่าใครเรียกสำหรับผม ผมเรียกว่าเปียแทนและไพฑูรย์ก็ชอบให้ผมเรียกอย่างนั้นวันหนึ่งๆไพฑูรย์ไม่ค่อยสุงสิงกับใครชอบนั่งอยู่คนเดียวมีอะไรผ่านไปผ่านมาหรือเกิดเหตุร้ายอะไรไพฑูรย์ไม่ยี่หระครับ คงนั่งเฉยๆจนมีนักโทษชายด้วยกันมาเรียกถึงจะไปตามที่ได้รับการขอร้องไม่ว่าจะเป็นการยกพวกตีกันในแบบแย่งข้าวกันกิน แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันนอน(น้องหนู) แย่งอู่กันนอน แย่งหมอนกันหนุน จึงจะไประงับก่อนที่ผู้คุมและหัวหน้าแดนจะมาบัญชาการปราบพวกนรกที่คิดว่าตัวเองใหญ่คับคุก

ไพฑูรย์เกลียดนักพวกฆ่าคนไม่มีทางสู้

ไพฑูรย์พูดน้อยพูดเมื่อมีความจำเป็นจริงๆเท่านั้นไม่พร่ำเพื่อเหมือนสิงโตหินจีนที่เฝ้าบันไดศาลเจ้าดูน่ากลัวแต่เคลื่อนไหวไม่ได้เท่าที่ผมเคยเห็นมากับตานั้นประมาณ 5 ศพแต่ละศพคนตายแบบไม่ต้องถึงมือหมอทุกรายไพฑูรย์เคยปรารภกับผมว่าเดชนายรู้ไหมว่าเราปวดร้าวหัวใจขนาดไหนหลังจากฆ่าคนมาแล้ว

โทสะเข้าครอบงำพอโทสะหมดไปแล้วเหลือแต่ความสำนึกผิดแต่ทุกอย่างสายไปแล้วฆ่าคนหนึ่งศพมีศัตรูเพิ่มขึ้นเป็นร้อยพ่อแม่ญาติพี่น้องลูกเมียของคนตายล้วนกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะฆ่าเราทุกวันนี้เราคิดว่าเมื่อเราออกจากคุกไปแล้ว เราจะรับมือญาติพี่น้องของคนที่เราฆ่าได้อย่างไร

”ผู้เขียนถามตรงๆว่าเรื่องราวเกี่ยวกับตุ๊กแกผี ผีป้อมยามและผีที่ไล่หลอกจนผู้คุมตกกระทะเคี่ยวน้ำตาลทรายเป็นเรื่องจริงหรือไม่อดีตนักโทษชายเดชตอบไม่ลังเลใจว่า จริงครับโดยเฉพาะเรื่องตุ๊กแกผีของนายเหล่ง เล่นเอานักโทษทุกแดนยอมอั้นอึอั้นฉี่ไม่ไปห้องน้ำเพราะกลัวจะจ๊ะเอ๋กับตุ๊กแกผีนักโทษชายเหล่งเสียงร้องของตุ๊กแกฟังเหมือนเสียงคนหัวเราะเรื่องจริงแท้แน่นอน”

ทั้งหมดที่ผู้เขียนได้เขียนมานั้นเพื่อให้ผู้อ่านที่ได้ติดตามมาแต่ต้นได้แน่ใจว่าสิ่งที่ปรากฏในทั้งจอมอาชญากรหมายเลข 1 และเกิดใต้ดาวโจรเป็นเรื่องจริงจากความทรงจำของไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามทั้งสิ้น สำหรับเกิดใต้ดาวโจรฉบับรวมเล่ม 1-2 นั้นผู้เพิ่งอ่านเรื่องเกิดใต้ดาวโจร ณ ปัจจุบันต้องการจะอ่านเรื่องราวที่หลากหลายย้อนในฉบับรวมเล่ม 1-2 ท่านจะสั่งซื้อได้ที่สำนักพิมพ์ เจ.เอ็น บุ๊คส์ ตามที่ระบุอยู่ไว้ในนิตยสารแปลกในราคาเล่มละ 99 (ไม่ต้องไปหาซื้อนะครับไม่มีใครขายแล้วแอดมินก็นำลงในเพจแล้วทุกตอน)

สำหรับท่านผู้อ่านที่ต้องการให้รวมพระคาถาของหลวงพ่อเดิมและของพระเกจิอาจารย์รูปต่างๆที่ไพฑูรย์ได้มอบไว้กับผู้เขียนและทยอยนำมาลงตีพิมพ์เป็นเล่ม ก็ขอแถลงว่ายังทำไม่ได้เพราะข้อมูลยังน้อยไม่พอที่จะรวมเป็นเล่มได้สำหรับท่านที่ขอให้นำคาถาอาราธนาหลวงพ่อเดิมที่ไพฑูรย์ได้นำมาเผยแพร่มาลงซ้ำอีกครั้งผู้เขียนได้นำมาลงซ้ำอีกครั้ง

คาถาอาราธนาหลวงพ่อเดิม

อิติสุคะโต พุทธสะโรเมนามะเต อาจาริโยเมภันเตอายัสสะมา อาจาริโยเมภันเตโหหิ

เป็นคาถาสำหรับอาราธนาดวงพระวิญญาณแห่งหลวงพ่อเดิมท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์พุทธสโรวัดหนองโพ แต่ก่อนจะมีการปรับการปกครองขึ้นอยู่กับอำเภอพยุหะคีรีปัจจุบันขึ้นอยู่กับอำเภอตาคลี เพื่อสถิตในวัตถุมงคลทั้งที่ท่านได้ปลุกเสกเองและสร้างขึ้นหลังจากท่านได้มรณภาพไปแล้วเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์

ท่านผู้อ่านหลายท่านบอกว่าคาถาที่ให้มานั้นจะรู้ได้อย่างไรว่ามีอานุภาพหรือไม่ข้อนี้ไพฑูรย์เคยพูดกับผู้เขียนถึงเรื่องนี้ว่าคาถาทุกบททุกคำนั้นพระเกจิอาจารย์ท่านได้คัดเลือกมาเป็นอย่างดีเพื่อมอบให้ศิษย์ไปสวดภาวนาป้องกันตัวแต่คาถานั้นจะมีอานุภาพหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้

1 การท่องบ่นอย่างชัดถ้อยชัดคำถูกต้องตามอักขรวิธีไม่สลับไปมาหรือขาดขาดหายหาย

2 คาบการภาวนาต้องถูกต้องตามหลักที่พระเกจิท่านได้กำหนดมาจะมากกว่านั้นได้แต่น้อยกว่าไม่ได้เป็นเด็ดขาด

3 พลังจิตความเชื่อมั่นในพระคาถาต่างๆอย่างมั่นคงตั้งแต่การร่ายพระเวทจนถึงการเข้าต่อสู้ทั้งนี้เพราะคาถาทุกอย่างจะมีอานุภาพมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการภาวนาที่กำกับด้วยพลังจิตจะมายืดเข้ายืดออกเหมือนหัวเต่าไม่ได้เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างมีหวังตาย

ไพฑูรย์อธิบายต่อไปว่าเมื่อจะเข้าต่อสู้การร่ายคาถาหรือภาวนาจะต้องทำด้วยจิตใจอันตั้งมั่นเช่นพระคาถาแคล้วคลาดต้องสร้างนิมิตในใจว่า แน่จริง ศัตรูฟันด้วยดาบคมขาววับให้มองดูให้กระจ่างแล้วปลุกตัวว่ามันบิ่นมันไม่มีคมปลายมันไม่แหลม ดินปืนมันเปียกปืนไม่ลั่น ปืนลั่นกระสุนไม่ถูก

ไพฑูรย์พูดแล้วเอามือตบลงไปที่หน้าอกด้านซ้ายอันเป็นที่ตั้งของหัวใจแล้วคำรามตาวาวโรจน์น่ากลัวว่า

”จิตนี่แหละโว้ยทำให้ทุกอย่างเป็นจริงจิตตัวเดียวที่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จจิตไม่มั่นจิตไม่คง จิตหลงเชื่อมั่ง ไม่เชื่อมั่งไม้คมแฝกมาถึงหัวคมมีดมาถึงตัวปลายมีดมาถึงตัว หัวกระสุนมาถึงตัวมีหวังเนื้อหนังเหวอะหวะ ปลายมีดทะลวงเข้าไปในภายใน ลูกปืนหายเข้าไปในตัวลงไปนอนในโลง”

ทุกครั้งที่ไพฑูรย์มีอาการเช่นนี้จะบอกว่า”ของขึ้น”อาการของขึ้นจะมีทุกครั้งที่จะเข้าต่อสู้หรือมีแรงกดดันจากสถานการณ์รอบตัว ผู้เขียนรู้แกวจึงไม่ค่อยตกใจเพียงแต่นั่งเฉยๆไม่ส่งเสียง ไม่นานทุกอย่างจะสงบและไพฑูรย์จะยิ้มก่อนจะพูดว่า

”ขอโทษนะ ของมันขึ้นเอาไม่อยู่จริงๆ ไม่ได้แสร้ง แก้ไม่หาย หากถูกกระตุ้นความรู้สึกละก็เป็นเรื่องเลยทีเดียว”

ไพฑูรย์มักจะมีอะไรแปลกๆมาเล่าให้ผู้เขียนฟังเสมอแม้แต่การที่บอกว่ากว่าจะมาถึงสำนักพิมพ์ได้ต้องหลบไอ้พวกที่คอยสะกดรอยไม่รู้ว่ามันจะสะกดรอยอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้เรื่องนี้ผู้เขียนเข้าใจเพราะชีวิตทั้งชีวิตของจอมอาชญากรผู้นี้วนเวียนกับการถูกล่าหวาดระแวงต้องหลบหลบซ่อนซ่อนพรางตัวต้องฆ่าคนเพื่อป้องกันตัวความหวาดระแวงกัดลึกเข้าไปในจิตใจจนกลายเป็นความหลอน

ไพฑูรย์จึงเขียนบรรยายในการเขียนเสมอว่า การที่ได้มาเขียนเล่าเรื่องชีวิตตัวเองไม่ต้องการให้ใครเอาเป็นตัวอย่างแต่ต้องการชี้ให้เห็นว่าอาชญากรรมทุกอย่างไม่เคยทำให้ใครได้ดีอาชญากรคือสิ่งที่สังคมไม่ยินดีต้อนรับแม้จะผ่านการรับโทษมาอย่างยาวนานแต่อาจญากรรมที่น่ารังเกียจที่สุดที่ไพฑูรย์เอ่ยถึงคืออาชญากรรมเกี่ยวกับการค้าขายยาเสพติดทุกรูปแบบ

ไพฑูรย์ใช้คำว่าเศษเดนมนุษย์ที่หาความร่ำรวยบนความทุกข์ยากของมนุษย์ทำให้คนเสพยาเปลี่ยนสภาพจากมนุษย์เป็นเดรัจฉานฆ่าได้แม้บุพการีที่เป็นผู้ให้กำเนิดเพียงเพื่อหาเงินมาเสพยา ตีชิงวิ่งราว ปล้นฆ่าข่มขืนด้วยอำนาจแห่งยา เสพติดบันดาลเป็นภัยสังคมอย่างร้ายแรงที่สมควรจะต้องปราบปรามแบบล้างบางและรุนแรง

คนพวกนี้หมดโอกาสกลับตัวเพราะแม้เข้าไปอยู่ในคุกก็ยังบงการ การค้ายาเสพติดมาจากในคุกดังที่ได้เห็นบนพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ซึ่งไม่ควรจะให้มีชีวิตอยู่สร้างความเดือดร้อนการตัดตอนคือสิ่งที่เหมาะสมยิ่งไพฑูรย์ย้ำกับผู้เขียน

*(การภาวนาพระคาถา1คาบเท่ากับ7จบ สวด7จบเท่ากับ1คาบจำไว้นะครับ)

*(ฝากถึงเด็กยุคใหม่ครับอย่าเข้าใจว่าการเป็นขี้ยาคือการเป็นนักเลง และการเป็นนักเลงก็ไม่ใช่อันธพาล )

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ภาพยนต์เรื่อง อันธพาล
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: