3581. สี่สหายล่าดับมือปืนพระกาฬ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์เคยบอกกับผมว่าคนอย่างไพฑูรย์เป็นคนเดนตายน่าจะตายหลายหนแต่ก็ไม่ตาย คิดดูง่ายๆกระโดดลงแม่น้ำทั้งๆที่ติดโซ่ตรวนถ่วงน้ำหนัก ขนาดฮูดินีนักมายากลบันลือโลกยังจมน้ำตายเพราะไม่อาจจะปลดพันธนาการตัวเองได้ทันเวลา แต่ด้วยพระเวทสังข์ถ่วงที่หลวงพ่อเดิมประสิทธิ์ประสาทให้สามารถสะเดาะโซ่ตรวนให้หลุดออกได้สะดวกเพราะหากสะเดาะไม่ทันมีหวังตาย

เรื่องราวของเสือไพฑูรย์กระโดดน้ำทั้งโซ่ตรวนเป็นพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์อยู่หลายวันโดยเจ้าหน้าที่พยายามติดตามหาศพไพฑูรย์เพื่อยืนยันว่าตายเพราะตราบใดที่ยังไม่พบศพก็เป็นอันว่าปิดคดีไม่ได้ ไพฑูรย์บอกว่าช่วงเวลานั้นปลอดโปร่งที่สุดเพราะตำรวจกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ค่อนข้างจะปักใจเชื่อว่าไพฑูรย์ตายในน้ำ แต่ที่ไม่ลอยขึ้นมาเพราะโซ่ตรวนเป็นตัวถ่วงศพ

แต่เพื่อความไม่ประมาทได้ใช้การปลอมแปลงโฉมเพื่อความปลอดภัยของตนเอง เพราะถ้าใครพบเห็นและจำได้ความวิบัติจะมาเยือน ยกเว้นในถิ่นที่คุ้นเคยเท่านั้นจึงจะไม่ปลอมแปลงโฉม แต่ใช้เทคนิคการพรางตัวแบบรีบด่วนแทน ปัญหาใหญ่หลังจากการแหกคุกคือเงิน เพราะเงินนี่แหละที่จะทำให้การหลบหนีเป็นไปด้วยความเรียบง่าย เจ้าอำไพ เจ้าประจวบ กับหม่อมหลวงกำมะลอต่างก็ไม่ค่อยมีเงิน ก็นักเลงที่มิได้เป็นเจ้าพ่อ รายได้เลี้ยงตัวเองคือการเรียกค่าคุ้มครองจากบาร์และร้านค้าที่มีกิจการดี มีกำไร แต่ก็นั่นแหละ มันต้องเสี่ยงทั้งนักเลงด้วยกัน เสี่ยงกับเจ้าหน้าที่เพราะเจ้าของร้านค้าเหล่านั้นมีเส้นมีสายอยู่เหมือนกัน

ไพฑูรย์จะต้องปล้นเพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย แต่เลือกปล้นเฉพาะคนรวย แต่คนรวยที่ไพฑูรย์ทำการปล้นจะต้องเข้าข่ายดังนี้ รวยเพราะคดโกงเอาเปรียบ ทำนิติกรรมอำพราง เช่นให้ลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่าโดยไม่กรอกจำนวนเงินที่กู้ยืมในสัญญาพอลูกหนี้เซ็นชื่อแล้วจึงกรอกยอดเงิน ยืมเงินไปเพียง 50,000 พวกเขียนเป็น 100,000 บาท สัญญาจำนองธรรมดาแต่กลับทำเป็นจำนองขายฝาก เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ค่อยรู้กฎหมายก็ไม่ได้ไปไถ่คงส่งแต่ดอก พอเกินกำหนดพวกก็ยึดที่ พอเจ้าของที่ท้วงว่าจำนองเฉยๆ พวกเอาสัญญาจำนองขายฝากมาให้ดู

ร่ำรวยด้วยการค้าขายเอาเปรียบพวกชาวนา โกงตาชั่งข้าว โกงข้าวที่สีออกมาเป็นข้าวสารทั้งๆที่ได้กำไรตั้งแต่แกลบ รำข้าว
พวกร่ำรวยด้วยการซื้อขายชีวิตผู้อื่น เป็นซุ้มมือปืนรับจ้าง

ทำตัวเป็นเจ้าพ่ออะไรทำนองนี้ ไพฑูรย์ย้ำว่าเคยบอกหลายหนแล้วว่าเมื่อตอนได้รับพระราชทานอภัยโทษมีผู้ติดต่อให้ไปเป็นมือปืนรับจ้างหัวละ 3-500,000 แต่ไพฑูรย์ไม่เอาด้วย

ญาติของพี่เสงี่ยมคนหนึ่งถูกมือปืนรับจ้างบุกมายิงตายหน้าสำนักงานโยธาที่ตนเองเป็นเจ้าของ พี่เสงี่ยมให้ตำรวจสก๊อตออกหาเบาะแสด้วยเงินสูงพอสมควร ได้ข้อมูลทั้งตัวคนจ้างและมือปืนที่ยิงว่าอยู่ซุ้มใด พี่เสงี่ยมบอกว่างานนี้ภรรยาของญาติพี่เสงี่ยมให้เงินจำนวนเงิน 500,000 สำหรับใครก็ได้ที่เป็นคนจ้างวาน มือปืนคนยิง และเจ้าของซุ้มมือปืน พี่เสงี่ยมเรียกให้ไพฑูรย์กับสามสหายมาพบเพื่อปรึกษา พอฟังเรื่องจบไพฑูรย์กล่าวกับพี่เสงี่ยมว่า

“เงินไม่ต้อง ผมกับเพื่อนจะทำให้”
“ไม่ได้หรอกเปีย เขาให้เงินมา ฝากไว้ที่พี่ พวกเธอทำสำเร็จมาเอาเงินสดไปเลยคนละแสนกว่าบาทเชียวนา”

ข้อมูลแรก คนจ้างวานคือเถ้าแก่เล้า ผู้รับเหมาก่อสร้างงานโยธาให้กับกรมทางหลวง ที่ล่าสุดประมูลสร้างถนนแพ้บริษัทโยธาของญาติพี่เสงี่ยม จึงถูกหมายหัวจนส่งมือปืนมายิงดับ ซุ้มที่รับงานเป็นซุ้มกำนันวงศ์แปดริ้ว มือปืนที่ยิงชื่อจำนง หรือ “นง” เป็นหลานกำนัน เป็นมือปืนที่ดีที่สุดในซุ้ม รับงานครั้งละ 3-500,000 บาทแล้วแต่ความหินของงาน

ไพฑูรย์แบ่งงานให้เจ้าประจวบประกบตัวเถ้าแก่เล้า อย่าให้คลาดสายตาเพื่อให้รู้เส้นทางไปมาของเถ้าแก่เล้า เจ้าอำไพกับเจ้าหม่อมหลวงกำมะลอไปผลัดกันประกบกำนันวงศ์ ส่วนไพฑูรย์ออกตามล่าไอ้นง ทุกวันอาทิตย์จะมาพบกันเพื่อประเมินสถานการณ์ความคืบหน้า หนึ่งเดือนเต็มจึงสรุปได้ว่า

เจ้าประจวบทำแผนที่เส้นทางจากบ้านของเถ้าแก่เล้ามายังสำนักงาน “ลักซาวิศวกรรม” ที่ตลาดน้อย การลงมือทำคนเดียวไม่ได้เพราะเถ้าแก่เล้ามีมือปืนจากเยาวราชเป็นคนคุ้มกันสองคน

เจ้าอำไพกับหม่อมกำมะลอไม่มีแผนที่แต่บอกปากเปล่าว่า ปลอดภัยที่สุดคือการลงมือกลางทางระหว่างแปดริ้วกับบางปะกง และต้องลงมือพร้อมกันทั้งสี่คน สำหรับไพฑูรย์นั้นจะทำคนเดียวโดยทำเป็นเป้าหมายสุดท้าย เพราะการตามหามือปืนแบบไอ้นงนั้นไม่ใช่ของง่าย

เถ้าแก่เล้าเป็นเหยื่อรายแรก จุดที่จะลงมือคือหน้าสำนักงาน เพราะการป้องกันจะน้อยหรือไม่มีเลย ไพฑูรย์วางแผนไว้ว่าไพฑูรย์ เจ้าอำไพ กับหม่อมหลวงกำมะลอจะซุ่มคอยเข้าจู่โจมพร้อมกัน ส่วนเจ้าประจวบจะทำทีเป็นขอทานเพื่อคอยเป็นกองหนุน เจ้าประจวบปลอมเป็นขอทานไปนั่งอยู่สามวันก่อนวันนัดเพื่อมิให้เกิดความสงสัยหรือผิดสังเกต ถึงวันลงมือรถของเถ้าแก่เล้าแล่นมาจอดที่หน้าร้านลักซาวิศวกรรม มือปืนคนแรกลงจากรถกวาดสายตาดูว่ามีความผิดสังเกตหรือไม่ก่อนพยักหน้าให้มือปืนคนที่สองสะกิดให้เถ้าแก่เล้าเดินลงจากรถแล้วตามประกบหลัง ส่วนคนขับเดินอ้อมไปไขกุญแจเปิดร้าน

เป้าหมายชัดเจนไพฑูรย์ให้สัญญาณจู่โจมพร้อมกัน มือปืนจากเยาวราชจกปืนออกมาส่ายปากกระบอกปืนมายังไพฑูรย์กับสหายทั้งสองเสียงปืนดังกึกก้อง คนที่ผ่านไปมาวิ่งกันกระเจิง มือปืนคนแรกโดนกระสุนเข้าที่ลิ้นปี่ถึงกับทรุด เจ้าหม่อมหลวงกำมะลอกับเจ้าอำไพโดนแต่ไม่เข้า เพราะยันต์เก้ายอดคุ้มไว้ มือปืนคนที่สองตะโกนเป็นภาษาจีนว่า

“แหม แม้ ขื่อ เถ้าแก่ (รีบหนีไปเร็ว)”

ก่อนจะถูกยิงถล่มกลิ้งทูตกลายเป็นผี เถ้าแก่เล้าออกวิ่งหนีไปเข้าทางของเจ้าประจวบขอทานตาบอดล้วงมือลงไปในย่าม พอเถ้าแก่เล้าวิ่งมาใกล้ก็ลุกพรวดพราดส่องปืนใส่เถ้าแก่เล้าแล้วกระดิกไก เสียงเถ้าแก่เล้าร้องเป็นคำสุดท้ายก่อนลูกปืนของเจ้าประจวบจะทะลวงเข้าที่หัว

“ไอ่ย่าละก้า”

เถ้าแก่เล้ากับมือปืนคุ้มกันกลับนรกหมดแล้ว สี่สหายพากันแยกย้ายหลบหนีเพื่อมิให้ผิดสังเกต คนขับรถหมอบอยู่หน้าร้าน พอทุกอย่างเงียบแล้วจึงค่อยแจ้งตำรวจ หนังสือพิมพ์พาดหัวตัวไม้

“ยิงถล่มเจ้าพ่อตลาดน้อยพร้อมมือปืนคุ้มกัน ตำรวจยังไม่สรุปประเด็น”

ไพฑูรย์อ่านเนื้อข่าวแล้วหันไปหัวเราะกับสามสหายพร้อมกับพูดว่า

“ตำรวจสรุปประเด็นไม่ได้โว้ยว่าใครเป็นคนลงมือ ข่าวบอกว่าไอ้เล้ามีศัตรูเต็มไปหมด ตั้งแต่อั้งยี่ในเยาวราชไปจนถึงนักเลงในบ่อนแถวตลาดน้อยรับรองว่าเรื่องไม่มาถึงพวกเราหรอก ยิ่งพยานบอกว่าขอทานตาบอดสวมแว่นดำเป็นคนลงมือยิ่งไปกันใหญ่”
“ตาบอดตาใสต่างหาก”

เจ้าประจวบหัวเราะฮิๆ อย่างอารมณ์ดี

“ตาบอดยิงคนได้อย่างไรวะ ไอ้พวกเขียนข่าวก็มีอารมณ์ขันเหมือนกันนะ”

สี่สหายพักให้ข่าวเงียบก่อนออกเดินทางไปแปดริ้วเพื่อวางแผนสังหารกำนันวงศ์เจ้าของซุ้มมือปืน เจ้าอำไพกับหม่อมหลวงกำมะลอตกแต่งรถให้ดูคล้ายรถฉลามบกของทางหลวงโดยติดไฟแวบและสัญญาณไซเรน เอาไปจอดซุ่มไว้ตรงบริเวณที่เป็นทางผ่านของกำนันข้ามคืน สามคนใช้ปืนพกประจำตัว ส่วนเจ้าประจวบใช้ปืนกลสเตนเพื่อให้แน่ใจว่าจะถล่มกำนันวงศ์กับสมุนได้โดยไม่เสียเวลามากนัก

เช้าตรู่ท่ามกลางสายหมอก รถกำนันวงศ์แล่นเข้ามาในจุดสังหาร สี่สหายเตรียมพร้อม เจ้าอำไพเปิดไซเรนและหวอรถพุ่งออกไปขวางถนนทำทีเป็นขอตรวจค้น ไพฑูรย์ หม่อมหลวงกำมะลอ และเจ้าอำไพซุ่มกำบังรถ เจ้าประจวบพาดปืนกลสเตนกับตัวรถ กำนันวงศ์สั่งคนขับรถพุ่งแหกออกไปเสียงปืนกลสเตนดังติดต่อกันกระสุนเข้าที่บริเวณกระจกหน้าด้านคนขับเป็นกลุ่มแสดงให้เห็นความชำนาญของเจ้าประจวบ

รถคันดังกล่าววิ่งแฉลบตกไหล่ทาง ไพฑูรย์ หม่อมหลวงกำมะลอ กับเจ้าอำไพวิ่งเข้าไปที่รถ โดยมีเจ้าประจวบใช้กระสุนจากแม็กกาซีนสำรองยิงข่ม เสียงปืนดังสวนออกมาถากไพฑูรย์ไปจนซอกคอร้อนฉ่า เจ้าประจวบคุกเข่าประทับปืนยิงถล่มใส่รถยนต์จนพรุน เสียงปืนจึงเงียบ ไพฑูรย์กับสามสหายเข้าไปแจกกระสุนใส่อีกชุดจนแน่ใจแล้วจึงวิ่งกลับมาที่รถ ดึงไฟแวบออกกลายเป็นรถเก๋งธรรมดา วิ่งกลับกรุงเทพฯ รอฟังข่าวหนังสือพิมพ์พาดหัวตัวไม้ “รุมสังหารกำนันดังตายพร้อมสมุน หนึ่งในนั้นเป็นมือปืนร้อยศพหมายจับเพียบ”

ไพฑูรย์บอกว่าคราวนี้กำไร เพราะเจ้านงมือลั่นไกที่กะว่าจะตามเด็ดหัวเป็นคนสุดท้ายดันนั่งมาในรถเก๋งมรณะ เลยไม่ต้องเสียเวลาล่าให้ลำบาก เป็นอันว่าปิดบัญชี เงินห้าแสนแบ่งกันคนละแสน อีกหนึ่งแสนที่เหลือใส่บัญชีเจ้าหม่อมหลวงกำมะลอไว้เป็นทุนสำรองเมื่อเดือดร้อน เงินจำนวนนี้เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มีการปล้นพวกคนรวยเมื่อไพฑูรย์หนีการตามล่าแล้วขาดเงินก็ได้เงินนี้แหละไว้ใช้จ่ายเวลาเดินทางหลบหนี เป็นอีกครั้งหนึ่งที่สี่สหายร่วมมือกันกำจัดสวะสังคมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องเสียเวลารวบรวมหลักฐาน

ที่มา : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
รูปภาพ : จากหนังเรื่อง อตีตา

แอพเกจิ – AppGeji
——————————————————————————-

ติดตามเรื่องราวครูบาอาจารย์ได้เพิ่มเติมที่
แอพเกจิ Facebook: www.facebook.com/appgeji
Web Sit: www.appgeji.com
App Store (IOS): https://appsto.re/th/wlGScb.i

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: