3667. สี่สหายดับเจ้าพ่อเกยชัยใต้ตอนแรก (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

สี่สหายดับเจ้าพ่อเกยชัยใต้ตอนแรก (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์ บอกว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้น ภูตผีปีศาจเกรงกลัวเพราะหลวงพ่อได้บรรจุด้ามมีดด้วยอาคมชั้นสูงทำให้มีดของหลวงพ่อกลายเป็นที่รวมของอาวุธร้าย 5 ชนิด จักรพระนารายณ์ วชิราวุธของพระอินทร์ ผ้าขาวของอาฬวะกะยักษ์ กระบองแห่งท่านท้าวเวสสุวัณ ดวงพระเนตรแห่งท่านพญายมราช ไม่ว่าจะเป็นภูตผีทั่วไป นายป่าช้า ผีตายโหงตายห่า ผีตายทั้งกลม ผีตายอดตายอยาก โขมดร้ายพรายน้ำ จระเข้เหราล้วนสยบให้กับมีดหมอหลวงพ่อเดิม

ในปีพุทธศักราช 2484-85 เรียกว่าปีน้ำท่วมกรุงเทพฯ น้ำบ่าจากแคว ปิง วัง ยม น่าน ผ่านพิจิตรมานครสวรรค์ไปนิมนต์หลวงพ่อเดิมนั่งเรือมาประกอบพิธีสะกดจระเข้เหราที่ปากบึงบอระเพ็ดด้วยมีหมอขีดผิวน้ำเป็นยันต์พระเจ้ายมโลก นะโม พุท ธา ยะ จุ่มใบมีดลงไปในน้ำแล้วร่ายพระเวทสะกดทำให้จระเข้เหราในบึงไม่อาจว่ายออกมาได้ เหมือนมีกรงเหล็กที่มองไม่เห็นมากั้นเอาไว้เป็นที่เล่าลือกันมาก

เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้คนมากันที่วัดขอให้หลวงพ่อเหยียบรอยเท้าบนผ้าขาวโดยเอาครามลงผสมน้ำนำมาทาที่ฝ่าเท้าหลวงพ่อก่อนเหยียบลงไปบนผ้า เอาไปเป็นผ้ายันต์ป้องกันภัยที่แพร่หลายมาก ก่อให้เกิดอภินิหารมากมายทั่วทั้งเมืองสี่แควมีรอยเท้าของหลวงพ่อเดิมประทับไว้บนผ้าขาวแพร่หลายไปทั่ว

จนวันหนึ่งๆหลวงพ่อเดิมต้องยกเท้าสองข้างขึ้นประทับรอยเท้าไม่ได้ว่างเว้น จนเมื่อว่างคนแล้ว หลวงพ่อจึงกล่าวกับศิษย์ใกล้ชิดว่า

“ชาวบ้านทำเหมือนฉันเป็นหนูถีบจักร ฉันใช้กรรมที่ฉันตกปลอกช้างเวลาไม่ได้ใช้งานอย่างไรล่ะ”

ผ้ารอยเท้าที่ไพฑูรย์ใช้ตั้งแต่มีสีครามสดใสจนซีดจางและเหลือเพียงรอยจางได้ป้องกันชีวิตไพฑูรย์ไว้หลายหนด้วยกันแม้เมื่อแหกคุกและหนีการตามล่า ผ้ารอยเท้าจะถูกเย็บติดกับด้านในปกคอเสื้อไว้เป็นประจำ เป็นเสื้อแขนยาวที่เป็นเสื้อคลุมภายนอกจนหลายครั้งที่คู่ต่อสู้สงสัยว่าไม่มีมีดหมอแต่ทำไมยิงไม่ออกก็เพราะฝ่ายตรงข้ามไม่เคยสำเหนียกว่าที่ด้านในปกคอเสื้อไพฑูรย์มีผ้ารอยเท้าหลวงพ่อเดิมอยู่ด้วย

หลวงพ่อเดิม พูดถึงรอยเท้าของท่านว่า “ฉันขัดชาวบ้านเขาไม่ได้ เขามาขอให้ประทับรอยเท้าให้ ฉันไม่เคยอวดอ้างหรือบอกว่ารอยเท้าฉันขลัง แต่เป็นเรื่องของชาวบ้านที่เขามีศรัทธามาขอ เมื่อเขาบากมาขอฉันก็ให้ตามที่เขาต้องการ ส่วนอภินิหารต่างๆเขาเล่าลือกันไปฉันไม่ได้เป็นผู้กล่าวขานก็หาไม่”

นี่คือหลวงพ่อเดิมที่ไพฑูรย์ยกให้เป็นสุดยอดพระเกจิที่เขานับถือประดุจพ่อคนที่สองเป็นหลวงพ่อเดิมที่แม้ต้องเสี่ยงชีวิตไปร่วมงานหล่อรูปหลวงพ่อจนปะทะกับตำรวจที่วัดหนองโพก็เคยเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังมาแล้ว

สำหรับเรื่องนี้ไพฑูรย์เล่าถึงการประทะกับเสือแด่นที่ตำบลเกยชัย จังหวัดนครสวรรค์

เหตุที่ไพฑูรย์ต้องไปที่เกยชัย เพราะญาติด้านผู้เป็นมารดาชื่อลุงปั้น ไปทำไร่ยาสูบอยู่ที่เกยชัยเหนืออันเป็นแดนที่เกิดตำนาน”ไอ้ด่างเกยชัย” จระเข้ที่ดุร้ายและเจ้าเล่ห์เป็นที่สุด ตอนนั้นศาลเจ้าไอ้ด่างเกยชัยยังอยู่มีหัวกระโหลกไอ้ด่างวางไว้เป็นอนุสรณ์ ปัจจุบันสูญหายไร้ร่องรอยไปแล้วได้รับบาดเจ็บจากการประทะกับเสือแด่น เสือแด่นคนนี้ ไม่ใช่คนเกยชัย แต่เป็นคนบ้านหัวแด่น อำเภอพยุหะคีรีนั่นเอง มาเติบโตที่เกยชัยเหนือ

เสือแด่นเริ่มจากการเป็นนักเลงหัวไม้ จนมาฆ่าอริตาย ถูกจับตัวไปขึ้นศาลถูกตัดสินจำคุก 20 ปีส่งมาเรือนจำบางขวางแต่หลบหนีระหว่างคุมตัวมาบางขวาง ว่ากันว่าเสือแด่นมีวิชาสะเดาะโซ่ตรวนที่เรียนมาจากหลวงพ่อเภา วัดหางน้ำสาคร รูดโซ่ตรวนออกแย่งปืนยิงตำรวจและผู้คุมตาย ออกไปรวบรวมสมุนออกทำการปล้นจะไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหม ลุงปั้นต่อสู้ถูกยิงปางตายเพราะลุงปั้นเป็นผู้ที่ไม่นิยมแขวนพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังติดตัว

ไพฑูรย์ได้รับจดหมายจากทางบ้าน ที่ส่งมายังบ้านของพี่เสงี่ยมที่นางเลิ้ง พ่อเป็นคนเขียนมา ตอนนั้นไพฑูรย์กบดานอยู่ในซ่องมหาภัยพ่อบอกว่าให้ช่วยขึ้นไปดูลุงปั้นที่บ้านเกยชัยเหนือ ที่ถูกปล้นถูกยิงบาดเจ็บเจียนตายไม่มีใครคอยป้องกันภัยมีแต่เมียและลูกที่ขวัญเสียจากการถูกปล้น

ไพฑูรย์บอกกับสามสหายว่า อั๊วจะไปเกยชัยเหนือ ไปแก้แค้นแทนลุงที่ถูกปล้นพวกลื้อจะไปด้วยไหม เจ้าอำไพบอกว่าไป เจ้าประจวบบอกว่าไปไหนไปกัน ส่วนเจ้าหม่อมหลวงลออ บอกว่าไม่ไปก็เสียคนนะซี

ปืนกลทอมสันถอดเป็นชิ้นพร้อมกระสุน 1 กระบอกเจ้าอำไพ มีปืนโคลท์ตราม้าขนาด .45 หนึ่งกระบอก เจ้าประจวบมีลูเกอร์ออโต้ หนึ่งกระบอกพร้อมกระสุน ส่วนเจ้าหม่อมหลวงกำมะลอมีเมาเซอร์ต่อด้ามไพฑูรย์มีพาราเบลั่ม หนึ่ง กระบอกโคลท์เอ็มพี .38 อีกหนึ่งกระบอก

ไพฑูรย์เล่าว่า

” ที่ต้องใช้ปืนออโต้คู่กับลูกโม่เพราะปืนออโต้นั้นต้องใช้สองมือในการขึ้นลำ หากแขนหักหรือบาดเจ็บเสียข้างหนึ่งก็หมดโอกาสได้ต่อสู้เพราะขึ้นลำไม่ได้แต่ปืนลูกโม่ใช้แขนและมือข้างเดียวเทปลอกกระสุนบรรจุและยิงได้สะดวกไม่มีการขัดลำเหมือนปืนออโต”

เดินทางด้วยเรือไปนครสวรรค์พักหาความสำราญหนึ่งคืนจึงไปเกยชัยเหนือไปพักบ้านลุงปั้น พอเห็นหน้าไพฑูรย์ลุงปั้นถึงกับน้ำตาซึมบอกว่า ”นึกแล้วว่าเปียต้องมาลุงคิดว่าตายเหมือนกันยิงมันไม่ออก มันเลยสวนมาสามนัด เข้าท้องสองนัด อีกนัดเข้าหัวไหล่ ต้องแกล้งตายจึงรอดมาได้ก่อนถอยมันบอกว่า”

“เสือแด่นถอยโว้ย” ถึงได้รู้ว่าเป็นมัน

ไพฑูรย์บอกลุงปั้นว่าไม่ได้มาคนเดียว มีเพื่อนมาอีก3 คน กะว่าจะมากวาดล้างชุมโจรให้เกลี้ยงเกลา ลุงปั้นบอกว่าไม่ง่ายเพราะมันอยู่เกยชัยใต้ หูตาราวกับสับปะรด ผลีผลามเข้าไปละก็มีหวังเจอของหนัก แต่ไพฑูรย์บอกว่าหากจะลงมือต้องวางแผนให้ดีไม่งั้นเสียฤกษ์หมด สี่สหายไปเดินดูลาดเลาที่ตลาดเกยชัยใต้เพื่อหาข่าว

การหาข่าวไพฑูรย์ออกหน้าไม่ได้เพราะมีหมายจับติดตัวอยู่ อาจพลาดถูกจับ เจ้าหม่อมหลวงกำมะลอใส่เครื่องประดับล่อตาทำตัวเป็นพ่อเลี้ยงปางไม้มาจากลำปาง ใช้จ่ายเงินอย่างเจ้าสำราญโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงโสเภณีด้วยแล้วหากถูกใจเป็นจ่ายมือเติบ

ไพฑูรย์นั้นรู้ดีว่าโจรร้ายจะต้องมีนางนกต่อฝังตัวอยู่ในซ่องโสเภณีเพื่อรอโอกาสให้มีแขกรวยๆมาก้อร่อก้อติกหว่านเสน่ห์เพื่อหาทางล่อไปให้ทางหัวหน้าโจรปล้นเอาทรัพย์สินหรือเรียกค่าไถ่ ส่วนเจ้าประจวบทำตัวเป็นขี้ข้าติดตามอารักขาพ่อเลี้ยงตามต้อยๆทำตัวเด๋อๆด๋าๆเหมือนบ่าวเศรษฐีบ้านนอก เจ้าอำไพคอยวนเวียนดูลาดเลาอยู่ห่างๆสามวันก็ได้เรื่อง เมื่อเจ้าหม่อมหลวงลออมาบอกว่า

“ได้การแล้ว ในซ่องป้าแต๋วมีนกต่ออยู่สองตัว ตัวหนึ่งชื่ออนงค์ คนนี้ชอบหลอกเศรษฐีไปให้ผัวแมงดาลอกคาบแล้วพากันหลบไปพักหนึ่งพอเรื่องเงียบก็กลับมาใหม่ ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อสะอิ้ง รายนี้อันตราย เป็นนกต่อของโจรก๊กเสือแด่นคอยหลอกล่อเอาเหยื่อไปให้เสือแด่นปล้นทรัพย์และเรียกค่าไถ่ หรือไม่ก็ฆ่าโยนศพที่ควักเครื่องในออกแล้วถ่วงหินลงไปในน้ำรับรองไม่มีลอยอืดขึ้นมาให้เห็น จะเอาอย่างไรดี”

ไพฑูรย์บอกให้เจ้าหม่อมหลวงลออไปขึ้นห้องกับสะอิ้งให้ตายใจ จากนั้นจึงแกล้งกินเหล้าแล้วเมาดิบมาบอกความเป็นความมาว่าเป็นพ่อเลี้ยงชื่ออินสม อยู่ปางไม้สัมปทานที่ลำปางลงมาเก็บเงินค่าซุงที่ปากน้ำโพตอนนี้กำลังจะกลับรอแพซุงที่ล่องลงมาปากน้ำโพอีกสามแพเพื่อตรวจนับและสั่งงานจึงจะกลับ

เจ้าหม่อมหลวงลออทำตามอย่างแนบเนียนการพล่ามเพราะเมาเหล้าทำให้สะอิ้งสั่งความฝากไปกับสมุนโจรก๊กเสือแด่นที่คอยมาสอบถามว่ามีหมูอ้วนๆมาให้เชือดหรือไม่ ให้เสือแด่นรู้ว่ามีพ่อเลี้ยงอินสมมามั่วอยู่กับสะอิ้ง ให้เสือแด่นวางแผนว่าจะให้พาไปส่งที่ไหนดี

เสือแด่นได้ทราบความจากปากลูกน้องก็แลบลิ้นเลียปากแผลบ บอกให้ประกบไว้ให้ดีวางแผนรัดกุมแล้วจะบอกกำหนดเวลาและสถานที่อีกครั้งหนึ่ง

ไพฑูรย์สั่งเจ้าหม่อมหลวงกำมะลอให้ทำทีเป็นติดนางสะอิ้งให้สมบทบาท ส่วนเจ้าประจวบติดตามใกล้ชิดแบบเด๋อๆด๋าๆต่อไป ส่วนเจ้าอำไพให้เพิ่มความเข้มงวด ในการวนเวียนดูลาดเลาให้ถี่ขึ้นเพื่อความปลอดภัย ด้วยเชื่อแน่ว่าเสือแด่นคงจะดำเนินการกับเจ้าหม่อมหลวงลออในคราบพ่อเลี้ยงอินสมในไม่ช้านี้

การคุมเชิงระหว่างไพฑูรย์กับสามสหายร่วมตายกับเสือแด่นโดยมีสะอิ้งเป็นสะพานกำลังเข้มข้น เจ้าหม่อมหลวงลออเอาแหวนทองคำหัวทำด้วยทับทิมให้สะอิ้งไปหนึ่งวง เป็นแหวนที่ได้มาจากการปล้นพวกคนรวยเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น เป็นการเร่งความโลภของสะอิ้งให้เร่งรัดเสือแด่นให้ลงมือเร็วขึ้นเพื่อมิให้เสือแด่นสามารถวางอุบายได้อย่างรัดกุมเพื่อง่ายแก่การที่สี่สหายจะร่วมกันเล่นงานเสือแด่นให้จังหนับโดยเฉพาะไพฑูรย์บอกกับลุงปั้นว่าจะเอาชีวิตเสือแด่นมาช่วยสมานแผลให้กับลุงปั้นให้จงได้แม้ลุงปั้นจะไม่ต้องการ

โดยไพฑูรย์ให้เหตุผลว่ายิ่งเสือแด่นอยู่นานเพียงใดจะมีผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของเสือแด่นเพิ่มมากขึ้น

(อ่านตอนจบ ได้ในตอนหน้าครับ อิอิ )
.
(หากแฟนเพจท่านใดมีเรื่องราวของอาจารย์ไพฑุรย์นอกเหนือจากที่ทางเพจเคยลงไว้หากมีจิตศรัทธาต้องการจะเผยแพร่ความรู้ไว้เป็นวิทยาทานก็สามารถinboxเข้ามาทางเพจได้นะครับ)

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก : สองยาม
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: