771. เครื่องรางพระเครื่องเป็นของคู่กันกับนักเลงสมัยก่อน

สมัยก่อนโจรกับเครื่องรางพระเครื่องเป็นของคู่กัน
สมัยที่เสือขาวจะถูกยิงเป้านั้น (เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติ***มโหดมากฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กแรกเกิด เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ “ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา”) หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า “มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร” เสือขาวตอนนั้นกำลังทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใดๆ ทำอันตรายเสือขาวได้เลย ปืนก็ยิงไม่ออก มีดก็แทงไม่เข้า

ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งซึ่งเป็นอาจารย์ของตัวเอง ตำรวจชุดไล่ล่าซึ่งประกอบด้วย ร.ต.อ.พจน์ รัตนดิลก จ่าบุญมี แก่นกระโทก จ่าดวง เดชชาติ ได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า “จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันจะเป็นการผิดศีล”

ตำรวจชุดไล่ล่าลาหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า “ถ้าจะสังหารไอ้ขาว จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ มีดหมอต้องเป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งหลวงพ่อโศกเป็นพระสหายของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน” สมัยก่อนนั้นมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปาคลองยังพอที่จะหาได้ไม่เหมือนในเวลานี้ ซึ่งหามีดหมอของท่านไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งหาได้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นของแท้หรือเปล่า เพราะของปลอมมีแยะเหลือเกิน ทำได้เหมือนของจริงจนแยกแยะไม่ออก เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวมันก็เกินพอที่จะทำให้เสือขาวถึงกับทรุดท้องทะลุแม้ว่าจะไม่ตายแต่ก็คางเหลืองสิ้นลายของคำว่า “จอมโจรหนังเหนียว” นับตั้งแต่บัดนั้น เสือขาวถูกพิพากษาโทษให้ประหารชีวิต (ยิงเป้า) ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก ทุกนัด ครับ

สุด ๆ ก็คราว ๆ สงครามอินโดจีน ที่สมรภูมิปอยเปต ทหารไทย สองนายลุกพรวดจากแนวป้องกัน เดินดุ่ม ๆ เข้าไปตัดลวดสนาม โดยที่ฝ่ายฝรั่งเศสก็ระดมยิงปืนกลหนักเข้าใส่ แต่ไม่ระคายผิว ทั้ง ๆ ที่ หมวกเหล็กทะลุเป็นรู แต่คนไม่ยักกะเป็นอะไร ล้มกลิ้งล้มหงาย แล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้

จนกองทัพฝรั่งเศสต้องล่าถอยทิ้งที่มั่นไป ทหารญวนที่โดนเกณฑ์มาก็กลัวทหารไทยมาก กรณีนี้ เท่าที่จำได้ ทหารไทย พก ผ้าถุงของแม่กับ ฟันของพ่อ ซึ่งเป็นเครื่องรางที่คนไทยโบราณถือว่า เป็นของสูง จริง ๆ มีพระแจกนะครับ ปลุกเสกโดยเกจิดังยุคนั้น 4 รูป คือ

หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
หลวงพ่ออี๋ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

มีนามเรียกว่า “จาด จง คง อี๋” แต่บางท่านก็บอกว่า ไม่ใช่หลวงพ่ออี๋ แต่เป็นอีกท่านหนึ่ง ก็ว่ากันไป ตะกรุดเเม่ทัพ หลวงพ่อกวยทหารไทยได้ ถูกส่งตัวไปรบที่ลาว ทั้งถูกยิงถูกเเทง เเต่ไม่ได้รับบาดเจ็บไดๆ พอสงครามลาวสิ้นสุดด้วยความลำพองใจในพุทธคุณ ตะกรุดเเม่ทัพของหลวงพ่อกวย ทหารที่เป็นลูกศิบย์หลวงพ่อกวย จากทหารทีั่รับใช้ชาติกลับมาเป็นโจรปล้นเสียเอง

สุดยอดความคงกระพันของ เจ้า กรมหลวงชุมพร

มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งขณะที่เสด็จในกรมกำลังเสวยน้ำจัณฑ์อยู่ที่วัง ได้มีคนเข้ามาทูลว่ามหาดเล้กของพระองค์ได้เกิดวิวาทกับพวกนักเลงใกล้ๆ กับวังนางเลิ้ง และน่ากลัวจะเพลี่ยงพล้ำ เพราะพวกนักเลงมีมาก พระองค์จึงรีบขี่ม้าออกไปช่วย เมื่อเสด็จถึงทรงเห็นว่าพวกนักเลงกำลังจะลงดาบฟันมหาดเล็กของพระองค์ พระองค์จึงได้กระโจนลงจากม้าขึ้นคร่อมมหาดเล็ก ดาบจึงฟังถูกหลังของพระองค์ดัง “บึ๊ก” พอดีพวกมหาดเล็กที่เหลือตามเสด็จมาทัน พวกนักเลงจึงได้หนีไป ว่ากันว่าที่พระวรกายของพระองค์ไม่ปรากฎว่ามีรอยคมดาบเลย ทรงปัดฝุ่นออกจากร่ายกายแล้วแย้มพระสรวลกับมหาดเล็กที่มีเรื่อง

ขอขอบคุณข้อมูลดุจาก ศิษย์มีครู
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: