2071. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน ของดีจากหมอดู

สวัสดีครับ ผมชื่อเต้ นะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับแม่ผมเองครับ

เมื่อปี 2552 ที่บ้านเราได้ซื้อบ้านหลังใหม่ ย่านอุดมสุขครับ ซึ่งบ้านนี้เป็นเหมือนทาวน์โฮมนะครับ ตอนนั้นเราย้ายกันเข้าไปทั้งครอบครัว มีพ่อ แม่ พี่ชายผมและผมครับ

ตอนนั้นเราย้ายกันเข้ามา ในขณะที่ทุกคนต่างวุ่นวาย ยังไม่ค่อยมีอะไรลงตัว แต่ที่ต้องรีบย้าย เพราะว่า แม่ของผม ไปดูดวงมา แล้วเค้าบอกว่าวันนี้เป็นวันดี ฤกษ์มงคล ให้รีบย้ายเข้าบ้านช่วงเวลานี้ซะ ย้ายเข้าพร้อมกับนำพระประธานเข้าบ้านวันและเวลาเดียวกันเลยนะ

ในวันที่ย้าย แม่ผมก็ทำตามนั้นทุกอย่าง โดยทุกคนต้องเดินเข้าบ้านทีละลำดับด้วยนะครับ (สำหรับตัวผม ผมมองว่าไร้สาระ ซึ่งผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเลยนี้อยู่แล้วด้วยครับ) พอเราทุกคนเข้ามาในตัวบ้านเสร็จ แม่ก้ทำนู้นนี่ ตามที่หมอดูแนะนำ แล้วก็ให้เราอยู่ในบ้านกันสักพัก หลังจากนั้น ทุกคนก็แยกย้าย ผมไปเรียน พี่ชายไปรีบแฟนที่สนามบิน ส่วนพ่อกับแม่ ไปดูงานกับลูกค้า

ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ แม่ของผม เป็นคนที่ต้องดุฤกษ์ทุกครั้ง แม้กระทั้ง วันและเวลาคลอดหลาน ที่เป็นลูกของพี่ชายผม และใครที่มาบอกแม่ว่า หมอดูคนนี้แม่น ไม่ว่าจะไกลใกล้ ถูกแพงแค่ไหน แม่ผมไปทุกที่เลย ที่สำคัญ แม่ผมเหมือนเป็นคนที่ชอบลองของด้วยว่า ที่นี่ของจริงหรือของปลอม เพราะถ้าปลอม แม่ผมก็ด่ากระเจิง ที่ผมบอกได้ละเอียดขนาดนี้ เพราะทุกครั้งที่แม่ไปดูดวง มักจะต้องมีผมไปด้วยทุกครั้ง เพราะผมต้องเป็นคนขับรถพาแม่ไป

แต่ก็อยากบอกทุกคนนะครับ ว่าหมอดูแม่นๆ เก่งๆ มีเยอะจริงๆ โดยเฉพาะตามต่างจังหวัด บางที่แม่นถึงขนาดที่บอกได้ว่า ผมมีปานแดงที่ก้นข้างซ้าย (ผมนึกในใจ แม้งแอบเข้าไปดู Ka-Ju ผมด้วยรึเปล่าวะเนี่ย)

และเรื่องของความสยองก็เกิดขึ้นครับ เมื่อมีคนมาแนะนำแม่ผมว่า มีหมอดูคนนึงเก่งมาก เป็นหมอสายเขมร ที่สำคัญ ค่าครูแล้วแต่ศรัทธา พอแม่ผมรู้เท่านั้นแหละ รออะไรหละครับ พุ่งนี้ผมก็ต้องโดดเรียนตามระเบียบ เพื่อไปดูดวงเป็นเพื่อนแม่

หมอดูคนนี้อยู่แถวนครนายกครับ ขับเข้าไปไกลมากกกกก แถมทางเข้าบ้านหมอดูเป็นเลนส์เดียวด้วย รถสวนกันไม่ได้ หน้าซอยจะมีคนของหมอดูคอย วอหากันเรื่องรถเข้าออก

วันนั้นที่ผมไป แม่ผมกับผม โดนหมอดูไล่กลับ เพราะเค้าบอกว่า ถ้าเมิงจะมาลองของ กูไม่ดูให้หรอก ผมนี่งงไปเลย เพราะผมไม่ได้คิดอะไร แต่แม่ผมนี่กลับน่าเสียแทน แลละในที่สุด ผมกลับแม่ก้ต้องกลับกันจริงๆ พูดง่ายๆ เสียเที่ยวนั้นเองครับ

อีกไม่กี่วันต่อมา แม่บอกให้ผมไปเป็นเพื่อนอีกที เค้าโทรนัดกับทางตำหนักแล้ว แต่รอบนี้เราไปกลับช่วงเย็นๆเลยครับ เพราะแม่บอกว่า เค้าให้เราเข้าไปดูช่วงขำๆ ในขณะที่ผมกับแม่กำลังขับรถเข้าไปนั้น ข้างๆทาง มันดูวังเวงแปลกๆ มันเงียบ และไม่มีไฟเลยสักดวง จากที่ส่วนตัวผมเป็นคนไม่ค่อยกลัว เพราะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ผมก้รู้สึกหวั่นๆเหมือนกัน

พอเราไปถึงตำหนัก แม่กับผมก้เดินเข้าไปยังตำหนัก ในนั้นมีอะไรไม่รู้ เต็มไปหมดเลย โดยเฉพาะกุมาร มีเป็นร้อยๆตัวเลยอะ (ไม่รู้ผมใช้คำเรียกถุกป่าวนะครับ หากผิดต้องขออภัย) แล้วอีกอย่างที่สะดุดตา คือมีเหมือนแท่นอะไรไม่รู้เป็นทรงกระบอก หัวมลๆ สีดำ แท่งใหญ่มาก และเต็มไปด้วยพวงมาลัย

เมื่อเริ่มดูดวง หมอดูคนนี้ก้พูดว่า “บ้านที่เมิงย้ายกันมาหนะ มีผีนะ เป็นคนจรจัดมาตายในบ้านคนนึง แล้วก้เป็นผี ผญ ที่ตายตอนก่อสร้างอีกคนนึง”
แว๊บแรกที่ผมรุ้สึกคือ ผมกับแม่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย เขารู้ได้ไงวะเนี่ย

ต่อด้วยเรื่องอื่นอีกมากมาย ที่หมอดูพูดออกมา โดยที่แม่กับผมไม่ได้ถามอะไรเลย แล้วเค้าก็จบด้วยคำพูดที่ว่า “กูแม่นมั้ยหละ” แม่ผมก้มน่าลงแล้วพูดว่า “แม่นจริงๆค่ะ”

หลังจากนั้น เค้าก็บอกว่า เค้ามีเรื่องจะคุยกับแม่ผมตามลำพัง ให้ผมออกไปข้างนอกก่อน คาวนี้หละครับ ผมก้ไม่รุ้เรื่องอะไรเลย ได้แต่ไปนั้งอยู่ในรถเป็น ชั่วโมงเลย แล้วสักพักก้เห็นแม่เดินกลับมา ตาแดงๆ เหมือนร้องไห้มา ผมก้ถามว่า มีอะไรป่าวแม่ แม่ตอบว่า “ไม่เป็นไรๆ”

ระหว่างทางกลับมา แม่ผมก้เหมือนจะพุดอะไรงืมงำมาตลอดทาง ผมได้ยินแต่ว่า เลี้ยวว้ายแล้วน้า ข้ามสะพานเล็กๆนะ ผมก็ไม่สนใจอะไร ได้แต่รีบขับรถกลับบ้าน เพราะเริ่มง่วงแล้ว

แต่คืนนั้น หลังจากที่ไปดูดวงมา ผมก้เข้านอนปกติ ผมฝันว่า มี ผญ ผมยาวๆ (เหมือนผีอีแพง) ยืนอยู่หน้าบ้านผม แล้วก้ลอยไปลอยมา ผมก็สะดุ้งตื่น แล้วก็คิดแค่ว่า คงฝันไป แล้วผมก็นอนต่อ

หลังจากนั้นมา แม่ผมก็ไม่ไปดูดวงที่ไหนอีกเลย แล้วก็บอกผมเสมอว่า เราได้ของดีมาแล้ว ไม่ต้องไปหาที่ไหนแล้ว ซึ่งตอนนั้นกิจการของครอบครัวผมก็ดีขึ้นจริงๆ ดีจนน่าตกใจ จนเดือนนั้น แม่ออกรถใหม่ให้ผมเลยทีเดียว
หลังจากนั้นอีก 3 เดือน มีอยู่คืนนึง ผมกลับมาบ้านดึก โดยคืนนั้นมีแม่อยู่ที่บ้านคนเดียว เพราะตอนนั้น พ่อผมไป ต่างประเทศ 2 เดือน ส่วนพี่ชายก้ขึ้นไปอยู่กับแฟนที่เชียงราย เพราะหลานเพิ่งคลอด แฟนพี่ชายเลยอยากขึ้นไปอยู่ที่บ้าน และก็ต้องสงสัยว่า ทำไมบ้านยังเปิดไฟอยู่ เพราะแม่เป็นคนที่ค่อนข้างนอนเร็วมาก 2 ทุ่มกว่าๆ แม่ก็จะขึ้นนอนแล้ว พอผมเข้ามาในบ้าน สิ่งที่เห็นตรงหน้าก็คือ แม่ผมเอามีกรีดแขนตัวเองเต็มไปหมดเลย แล้วก็ร้องไห้ พอเห็นผม แม่ก็ได้แต่ร้องแล้วบอกว่า “ช่วยแม่ด้วยๆ อีผีมันจะเอาแม่ไปอยู่ด้วย”

ผมเห็นแบบนั้น แทบช็อค เพราะไม่คิดว่าแม่ผมจะทำแบบนี้ ผมรีบวิ่งเข้าไปหาแม่ แล้วก็พยายามจะดึงมีดจากมือของแม่ออก แม่ผมก็หันมามองตาขวาง แล้วก็หัวเราะ พร้อมกับพุดเป็นภาษาอะไรไม่รู้ออกมา ฟังไม่รุ้เรื่องเลย แล้วก็หัวเราะต่อ ผมกับแม่ก็ดึงมีดกันไปมา แต่ตอนนั้นแม่ผมแรงเยอะมาก แล้วสุดท้ายแม่ก็ดึงมีดกลับไปได้ แล้วแม่ก็เอามีดแทงตัวเอง ต่อหน้าต่อตาผม ผมได้แต่แหกปาก ร้องเรียกให้คนช่วย แต่ว่าตอนนั้นที่บ้านผมย้ายเข้าไปอยู่ ยังไม่ค่อยมีใครย้ายมาอยุ่ เพราะยังเป็นหมู่บ้านที่เพิ่งสร้างใหม่ และมีคนย้ายเข้าๆออกๆบ่อยมาก

ในที่สุด แม่ของผมก็จากไป แม่ผมหยุดหายใจในขณะที่ผมกำลังหาแม่ไป รพ. หมอบอกว่า เลือดไหลมากเกินไป แล้วก็มีดที่แทงเข้าไป ไปโดนปอด

หลังจากเกิดเรื่อง พ่อก็บินกลับมาทันที และพี่ชายก็บินกลับมาเช่นกัน เพื่อที่จะจัดงานศพให้กับแม่ของผม
หลังจากจบงานของแม่ผม ผมกับพี่ชาย ก็บุกไปที่ตำหนักหมอดู ที่ผมไปกับแม่เป็นที่สุดท้าย แต่แล้ว สิ่งที่ผมเจอคือ บ้านเก่าๆ ที่มีคนอยู่เพียงคนเดียว ผมตรงเข้าไปเพื่อที่จะเอาเรื่องหมอดูคนนั้น ว่าทำอะไรกับแม่ผม เพราะหลังจากมาดูดวงที่นี่ แม่ผมก็ไม่ได้ไปที่ไหนอีก แล้วก็บอกว่าได้ของดีมา หมอดุเอาอะไรให้แม่ผม แต่แล้ว หมอดูที่ผมเจอวันนั้น กลับเรื่องเพียงรูปถ่ายที่ติดอยู่บนกำแพง เขาเพิ่งเสียไปได้ไม่กี่อาทิตย์ โดยคนที่อยู่ที่บ้านหลังนั้น (แม่ของหมอดู) บอกว่า ลูกของเค้าโดนคนหวังร้าย เอาผ้าถุงที่เปื้อนประจำเดือนมาคลุมหัว (พวกมันเข้ามา ทำเป็นเหมือนจะมาดูดวง) แล้วหลังจากนั้น ในตอนกลางคืน ลูกชายเค้าก็มีอาการเดียวกันกับที่แม่ผมเป็น แม่ของหมอดูบอกว่า ลูกของเค้าโดนอีผีหงพรายที่เลี้ยงมันไว้ช่วยคน มาเอาชีวิต ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะครับ ว่าผีหงพรายคืออะไร แต่ทำไมมันต้องมาเอาแม่ผมไปด้วย

แม่ของหมอดุก็บอกว่า ผีพวกนี้ ช่วยเราได้ดี หากเราคุมมันได้ หรือมีคนที่มีคาถาคุมมัน มันก้จะเชื่อฟัง แล้วช่วยเราทุกอย่าง แต่ลูกชายของเค้า ก้ไม่ได้จะให้หงพรายกับใครง่ายๆ คือใครที่จะเอาหงพรายไป จะต้องรู้คุณถึงคุและโทษของมันก่อนที่จะเอาไปอยู่แล้ว และแม่ของหนุ่มก้คงต้องรู้แล้วแหละ ถึงกล้าเอาไป

แม่ของหมอดูบอกให้ผมกลับไปดูที่บ้านนะ ว่าแถวๆน่าบ้านหรือประตูรั้ว มีขวดแก้วเล็กๆ ข้างในมีเส้นผม เศษดิน และน้ำมันสีเหลืองๆหรือเปล่า ถ้ามีให้เอาไปเผาที่วัดซะ เพราะไม่งั้น มันจะมาเอาคนอื่นไปด้วย

ผมกับพี่ชาย ก็ได้แต่ช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหมอดูเช่นกัน จนเรา 2 คนก็ไม่กล้าเอาเรื่องกับแม่ของเค้า เพราะในขณะที่เค้าพุด เค้าก้น้ำตาคลอๆตลอด ก่อนกลับ เค้าบอกว่า หนุ่มไม่ใช่แค่ครอบครัวแรกที่มาหาเค้า เค้าพูดเหมือนเสียใจ พร้อมกับบอกว่า เค้าอะอยากฆ่าตัวตาย แต่เค้าทำไม่ได้ เค้าต้องอยู่รับกรรมในสิ่งที่ลูกเค้าเคยช่วยคนอื่นในทางที่ผิด และสิ่งที่เค้ารับกรรมอยู่คือการตายทั้งเป็น ทั้งเสียลูก และยังต้องมารับหน้าแทนลูกที่ตายไปอีก

ผมกลับพี่ชายรีบกลับมาบ้าน และหาดูตามที่แม่ของหมอดูบอก ในที่สุด ก้ผพบขวดที่มีลักษณะเช่นนั้นจริงๆ ผมกับพี่ชายไม่รีรอ รีบเอาไปที่วัด และจัดการอย่างที่แม่ของหมอดูบอกทันที

ปัจจุบันนี้ บ้านหลังนี้ขายไปแล้วนะครับ เพราะหลังจากที่ผมไปจัดการเรื่องหงพราย คนในบ้านก็จะได้ยินเสียง ผญ มาร้องโหยหวยหน้าบ้านทุกคืน จนพ่อผมตัดสินใจขาย และย้ายมาอยู่ที่อยู่ในปัจจุบันนี้แทนครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : เรื่องหลอนสยองขวัญ
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: