2063. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน ช่วยกูที

สวัสดีค่ะ เรื่องที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย วิญญาณ

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอน เราเรียน ปวช ปี 1. เราชื่อ จี้ เราเรียนสายอาชีพ ช่างก่อสร้าง (เรานิสัยออกแมนๆ คบเพื่อนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ไม่ใช่ทอมนะ) เรามาเช่าหอกับเพื่อนๆ มีทั้งเพื่อนเรียนที่เดียวกัน เพื่อนต่างโรงเรียน เพื่อนของเพื่อนๆๆ เรียกง่ายๆ “รวมมิตร” เลยแหละค่ะ พวกเราเช่าห้องติดๆกัน บางวันพวกเพื่อนๆมานั่งห้องเรา บางวันเราไปนั่งห้องมัน สลับกันบ้างไรบ้าง เราสนิทกับเพื่อนทุกคนอยู่เป็นทุนเดิมก่อนเรียนช่างอยู่แล้ว เราจับกลุ่มกินเบียร์ เล่นเกมส์ หรืออาจมีสิ่งผิดกฎหมายบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่พวกเราไม่เคยก่อเรื่องทะเลาะกับใครนะคะ อยู่กันแบบสันโดษ

วันนั้นคือ วันที่26 สิงหา 2551 เราก็นั่งจับกลุ่มกันปกติ แต่มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น พวกเราอยู่ในห้องทั้งหมด 8 คน ได้ยินเสียงฝีเท้า เดินแบบลากเท้า อย่างช้าๆ ผ่านหน้าห้องเราไป แล้วเดินวนกลับไปกลับมา เรานั่งพิงประตูอยู่เราได้ยินก่อนใครเพื่อน เราจึงบอกให้เพื่อนๆเรา เงียบเสียงและเงี่ยหูฟัง เสียงนั้น สรุปว่า ทุกคนได้ยินเหมือนกันค่ะ!! ต่างคนต่างหันหน้ามองหน้ากัน และ สงสัยว่าเสียงฝีเท้านั้น เป็นเสียงเดินของใครกัน นั่งฟังกันอย่างตั้งอกตั้งใจ ประมาณ 4-5 นาที เราว่ามันแปลกมาก ที่จะมีใครมาเดินอยู่หน้าห้องเราเพราะ ทางเข้าหอทั่งลึกทั้งมืด ถ้าใครไม่ตั้งใจมองแถบจะไม่รู้ว่าตรงนี้เป็นห้องพักมีแค่ทางเข้าทางเดียวเล็กๆ มืดๆ ในตอนนั้น เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ถ้าใครจะมาหาเราที่ห้อง เค้าคงเคาะประตูแล้วมั้ง ???

ในใจของพวกเราคิดว่า คงเป็นตำรวจ มาซุ่มจับรึป่าวว่ะ!! กลัวหนักเข้าไปอีก. เราเลยตกลงว่า จะให้ “ไอ้อาร์ม” เพื่อน ผช ในกลุ่มของเรา ปีนดูทางร่องด้านบนของ ส่วนเราจะก้มดูทางร่องข้างใต้ประตู เราให้สัณญาณ นับ1-3 แล้วดูพร้อมกัน เมื่อเสียงฝีเท้านั้นเดินเข้ามาใกล้ประตูหน้าห้อง เราจึงก้มดูพร้อมกัน “1 2 3 !! ตำรวจ..จ..” เพื่อนทุกคนต่างตกใจจะวิ่งหาที่ซ่อนกัน รวมถึงเรา

“เห้ยพวกมึง กูล้อเล่น 555 ไม่เห็นมีใครเลยว่ะ” เมื่ออาร์มพูดจบ สักพักเสียงนั้นก็เดินลากมาหยุดที่หน้าห้อง แล้วก็เงียบหายไปค่ะพอดูเวลา ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ในความเชื่อของพวกเรา การที่เที่ยงคืนพอดี ไม่ควรออกจากบ้านไปไหน ต้องให้พ้น ไปสัก 1-2 นาทีก่อน

“อ้าวเห้ย…นี่มันเข้าวันเกิดกูแล้วหนิหว่า” ซึ่งวันที่ 27 ส.ค. เปนวันเกิดของเราพอดี เราจึงตกลงกับเพื่อนๆว่า พรุ่งนี้จะมีเลี้ยงวันเกิดนะ เราเลยขอตัวนอนก่อน เพราะพรุ่งนี้เช้าเราจะใส่บาตร

พอสักพัก พวกเพื่อนๆ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่คนที่แปลกที่สุด คือ ไอ้อาร์มที่อาบน้ำแต่งตัวซะหล่อ และบอกว่าคืนนี้อยากกลับไปนอนที่บ้าน (ซึ่งโดยปกติ มันเป็นคนติดเพื่อนมาก และไม่ชอบนอนบ้าน แม่มาตามก็ไม่ค่อยกลับ)

ซึ่งในกลุ่มเรา จะมีเพื่อนชื่อ นัท ที่บ้านอยู่ใกล้ๆกับอาร์ม นัท เลยจะแวะไปส่งอาร์มที่บ้าน และในขณะที่เราล้มตัวลงนอนไปได้ไม่นาน ก็มีเสียงโทรศัพท์ดัง ” มึงไปช่วยไอ้อาร์มหน่อย ไอ้อาร์มถูกยิง แถวๆ หลังวัด” เป็นเสียงของนัท ที่พูดไปเสียงสั่นไป พร้อมกับพูดต่อว่า “ไอ้อาร์มมันนั่งซ้อนมอไซค์กู มันโดนวัยรุ่นดักยิง กระสุ่นโดนหลังมัน มันเลยหล่นจากรถแต่ยังไม่หมดสติ กูจะจอดช่วยมัน แต่พวกที่ตามยิง มันตามมาติดๆ มากัน 8 คน กูเลยขับรถหนีมาก่อน แล้วรีบโทรหามึง มึงไปดูมันหน่อยนะ” ตอนนั้นเองเราก็ตกใจนะคะ มือสั่นทำอะไรไม่ถูก จะออกไปดูก็กลัว เพราะไม่รู้ คนที่ตามยิง มันยิงด้วยเรื่องอะไร

เราเลยตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ ตอนนั้นในห้องเรามีเพื่อนอยู่ด้วยอีก 2 คนนะคะ แต่ที่ไม่กล้าออกไป เพราะด้วยความกลัวและตกใจค่ะ “ปัง ปัง ปัง มึง ช่วยกูด้วย” ในขณะที่เราทุกคนกำลังตกใจกันอยู่นั่น ก็มีเสียงเหมือนคนวิ่งมาจากหน้าหอ แล้วมาเคาะประตูห้องเรา
เห้ย..!! นั่นเสียงไอ้อาร์มหนิหว่า เราเลยเปิดประตูออกมา “ไหนไอ้อาร์มหละ” เอก เพื่อนที่อยู่กับเราพูดขึ้นมา ด้วยเสียงที่เราได้ยิน พวกเราจึงคิดว่า อาร์มคงไม่เป็นอะไรมากแน่นอน จึง ต่างพากันเดินหาทั่วหอ และเราก็เริ่มรู้สึกแปลกๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะ แต่ไม่กล้าพูดอะไรออกไป จนสุดท้าย พวกเราตัดสินใจเดินหากันไปเรื่อยๆตามทางเข้าหอ จนไปถึงหน้าถนนใหญ่ทางเข้าหอค่ะ

สิ่งที่เราเห็นอยู่นั้นคือ มีคนมากมาย กำลังมุงดูอะไรสักอย่าง จู่ๆก็มีป้าคนนึงที่อยู่หน้าหอเรา แก ก็เดินมาพูดกับเราว่า ” หนูๆ ใช่เพื่อนหนูหรือเปล่าที่ถูกยิงหนะ เห็นเค้าเอาพาขาวมาคลุมศพแล้วนะลูก”
พวกเราตกใจมากค่ะ แล้วก้ได้แต่รีบวิ่งกันไปดู พระเจ้า สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราคือผ้าขาว ที่กำลังคลุมร่างของ ผช คนนึงอยู่ เลือดท่วมตัวเต็มไปหมด กระสุนกะโหลก ทะลุเบ้าตา

ซึ่งเราเป็นคนไปเปิดดู เอง. เพราะเราไม่เชื่อ ว่าจะเป็นอาร์มจริงๆๆ เพราะมันไม่เคยมีเรื่องกับใคร เงียบๆ ไม่เอาเรื่องใคร. ทำไม ถึงต้องเป็นอาร์มด้วยว่ะ

หลังจากนั้น ตำรวจก็พาพวกเราไปสอบปากคำจนเช้า แล้วมาส่งเราที่หอ พอเราเดินเข้ามาในห้อง พวกเราก็นึกได้ว่า ” แล้วมะคืน..ใครมันเคาะประตู ” ใช่ค่ะ !! นั่นคือวิญญาณ ของเพื่อนเราเอง. จิตสุดท้ายของเค้า คงนึกถึงพวกเรา แต่คงไม่รู้ว่าตัวเองนั้นตายเสียแล้ว มันทำให้พวกเราเชื่อสนิทใจว่า วิญญาณนั้นมีอยู่จริง ๆ
และมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราจำได้มาถึงทุกวันนี้ ว่า วันเกิดเราคือวันตายของเพื่อน ซึ่งก่อนที่มันจะตาย มีลางสังหรณ์มากมายเกิดขึ้น

ลางสังหรณ์แรก คือ มีนกแสกมาเกาะอยู่หน้าหอ ตาแดงกล่ำ เราว่านี้มันเป็นลาง หรือจะมีใครตายป่าวว่ะ. ?? อาร์ม มันหัวเราะ และมันก็ไล่นกแสกตัวนั้น. แต่นกตัวนั้นก็ไม่บินไปไหน ได้แต่จ้องมองมาทางมัน จนถึงรุ่งเช้าเช้ากว่าจะบินหายไป

ลางสังหรณ์ที่ 2. หลังจากเจอนกแสกแล้ว วันนั้นมันอาบน้ำอยู่ มีคนมาเคาะประตูห้องน้ำ และเรียกชื่อมัน อาร์ม ๆ แล้วมันก็ขานรับทันที เพราะนึกว่า น็อต เพื่อนที่อยู่ห้องด้วยกันมาเรียก พอมันถามว่ามีอะไร. ไม่มีเสียงตอบรับ !! มันจึงเปิดประตู วิ่งออกจากห้องน้ำ ไปถามน็อตว่า เรียกมันหรือป่าว แต่น็อตมันหลับอยู่และไม่ได้แกล้ง

ลางสังหรณ์ที่ 3 ก็คืนก่อนที่มันจะตาย มีคนมาเดินอยู่หน้าห้อง เดินไปเดินมา เราคิดเองนะคะ ว่าคงเป็นคนที่จะมารับมันไปแน่เลยค่ะ

ปล.ผู้ต้องหาที่ยิงอาร์ม หลังจากที่ถูกจับได้และถูกสอบสวนจึงทราบสาเหตุว่า จำอริผิดคน และ เรื่องนี้ลงข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 28 สิงหา 2551

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : เรื่องหลอนสยองขวัญ
ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : TheHouse
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: