2060. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน ตำนานผีต้นไทร

“ก้อย” เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากไทรสยอง

ก้อยอยู่บ้านคนเดียวเกือบทุกคืนค่ะ พ่อไปต่างจังหวัด แม่มีอาชีพขายประกันเป็นรายได้เสริม พี่สาวก็ไปอยู่หอพักใกล้ที่เรียนแถวรังสิต ก้อยเป็นลูกสาวคนเล็กเรียน ม.ปลาย

หมู่บ้านชานเมืองไม่เปลี่ยวหรอก มีตลาดนัดใกล้ๆ บ้านอาทิตย์ละสองวัน พุธกับเสาร์ เริ่มห้าโมงเย็นไปสองทุ่มกว่าๆ บางวันก้อยไปเดินดูเหมือนกันเพราะไม่ห่างบ้านนัก

หนุ่มสาวไปเดินกันหนาตา บางวันแทบเบียดกันน่าสนุกดี มีทั้งของสดของแห้ง หมู เนื้อ ปลา หอยแครงแมลงภู่ อาหารสำเร็จรูปและน้ำพริกต่างๆ ใส่ถุงไว้เรียบร้อย ร้านส้มตำ น้ำตกและหมูปิ้ง ปีกไก่จะมีคนมุงมากกว่าเพื่อน เครื่องใช้ต่างๆ เครื่องสำอางและซีดี วิทยุ นาฬิกาถูกๆ ของเด็กเล่นก็มีค่ะ

จากบ้านก้อยไปตลาดนัดมีที่ดินว่างๆ สองสามแปลง เนื้อที่ราว 100 ตารางวา มีหญ้าขึ้นสูง ไม้ล้มลุกและพันธุ์ไม้เลื้อย ชาวบ้านมักง่ายเอาของใช้เก่าๆ มาทิ้ง ทั้งวิทยุ เทป ทีวี ตู้พังๆ จักรยานเด็กเล่น กรอบรูปและเก้าอี้ขาหัก กองเกลื่อนกลาด รถขยะก็ไม่ยอมเก็บไปด้วย

มีแปลงหนึ่งดูน่ากลัว ข้างในมีดงตะขบสูงๆ หลายสิบต้น ริมรั้วทั้งสองข้างมีกล้วยกับกอไผ่ แต่ด้านหน้ากลับมีต้นไทรสูงมาก รากย้อยคล้ายเป็นม่านลงมาเกือบระดินแน่ะ มีผ้าแพรสีสวยๆ มาพันมากขึ้นทุกที เขาลือว่าให้หวยแม่น เวลาเดินผ่านรู้สึกเย็นหลังชอบกล บางวันสะบัดใบซู่ซ่าจนสะดุ้ง แต่บางวันเงียบกริบราวมีนัยน์ตาจ้องมองนิ่งๆ น่าสยองจังค่ะ

กลางคืนยิ่งน่ากลัวเพราะมีแต่ความมืดทึบ บ้านสองข้างปิดประตูรั้วตลอด…ก้อยเดินผ่านต้นไทรต้องยกมือไหว้ทุกที…ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่! จริงมั้ยคะ?

วันเกิดเหตุก้อยไปตลาดนัด ไปดูคนดูของแก้เหงาค่ะ ใส่กุญแจบ้าน ล็อกประตูรั้วรอบคอบ นุ่งยีนส์สวมเสื้อยืด พกเงินติดตัวไปราวสามร้อยบาท ไม่คิดไปซื้อเครื่องสำอางถูกๆ นะคะ…กลัว! คิดว่าจะซื้อขนมน้ำแข็งกับผลไม้เท่านั้น

หน้าหนาวค่ำเร็ว แต่แผงต่างๆ เปิดไฟสว่างไสวต้อนรับลูกค้าหนาตา เขาต่อไฟจากตึกแถวเดือนละ 20 บาท เห็นรถขายเสื้อผ้าแขวนเสื้อกันหนาวโชว์ ทั้งใหม่เอี่ยมและมือสองชักขายดีแล้ว ราคา 60-70 บาทถึงร้อยกว่าบาท คนซื้อไปใช้จะรู้หรือเปล่านะว่านอกจากซักรีดปกติแล้ว ต้องต้มฆ่าเชื้อโรคอีกต่างหาก

อีกอย่าง…เจ้าของเดิมจะตายไปแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้? ก้อยไม่กล้าซื้อใช้หรอก กลัวค่ะ! ยกเว้นเสื้อใหม่ๆ สวยๆ ถึงจะแพงหน่อยก็ยังดีกว่าถูกเจ้าของตามทวง… ผีหลอกน่ะซี!

เด็กสาวรุ่นเดียวกับก้อย 3-4 คนกำลังซื้อเสื้อกันหนาว…แหม! เธอนุ่งขาสั้นจู๋ก็มี ขายาวก็เอวต่ำเกือบคืบแน่ะ สวมกางเกงยืดก็มี ใส่สายเดี่ยว เสื้อยืดคับติ้ว…พวกเธอคงคิดว่ามาซื้อของใกล้ๆ บ้าน ถึงโป๊หน่อยก็คงไม่มีอะไรมั้ง?

ที่หัวมุมมีร้านชำ วัยรุ่นกับพวกมอเตอร์ไซค์นั่งดวดเหล้ากันสองโต๊ะเกือบสิบคน น่าแปลกที่คุยกันเงียบๆ แต่นัยน์ตาลุกวาวน่ากลัว จ้องมองมาที่กลุ่มพวกเราเขม็ง…หื่นชัดๆ!

ไฟถนนเริ่มเปิดแล้ว กำลังเลือกเสื้อผ้าเพลินๆ เพราะติดใจแบบและสี หันไปอีกทีก็ใจหาย ผู้คนบางตาลง แต่นัยน์ตาจากพวกขี้เมายังจ้องมาเหมือนเดิม ก้อยซื้อเสื้อได้ตัวหนึ่งแล้วรีบกลับบ้าน…นึกห่วงพวกสาวๆ ที่ไม่ระแวงซักนิด

ใกล้ถึงต้นไทร ก้อยนึกอยากโทร.หาแม่ แต่อย่าดีกว่า เอาไว้เข้าบ้านก่อนเถอะ…นึกสังหรณ์ยังไงไม่รู้ หันขวับไปมองก็เห็นผู้ชายสองคนเดินตามหลังมา!

ก้อยเร่งฝีเท้ามันก็เร่งตามจนกระชั้นเข้ามาทุกที…ใจงี้สั่นไปหมด พอถึงต้นไทรก้อยออกวิ่งเลยค่ะ ได้ยินเสียงมันวิ่งตามมาติดๆ ก้อยกลัวจนเกือบร้องไห้…เผ่นพรวดเข้าประตูบ้านไม่คิดชีวิต ตามด้วยเสียงร้องโหยหวน โอ๊ย! กลัวแล้ว…อย่า…

ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ในห้องรับแขก ยกมือกุมอก ถุงเสื้อหล่นไปตอนไหนไม่รู้ ก่อนจะตะลึงตัวแข็ง…ก้อยใส่กุญแจบ้าน ล็อกประตูรั้วไว้เรียบร้อยแล้วนี่นา ก่อนจะไปตลาดนัดน่ะ แต่ทำไมมันผลักเข้ามาได้ง่ายๆ ล่ะ? ใครมาเปิดประตูไว้ก่อน…ตอนนี้ก้อยก็อยู่ในบ้านกับคนแปลกหน้าน่ะซี!

โอ๊ย! กลัวจนขนหัวลุก อยากร้องไห้ ได้ยินเสียงลงบันไดช้าๆ ดังกระหน่ำเข้าไปถึงหัวใจ แทบจะปล่อยโฮแล้วค่ะเมื่อหันไปมอง…โธ่! แม่น่ะเองที่กลับมาถึงบ้านก่อนก้อย อารามกลัวสุดขีดจนไม่ได้สังเกตรถแม่ด้วยซ้ำไป

ส่วนวัยรุ่นที่ตามก้อยมาน่ะหรือคะ? รุ่งขึ้นเขาเล่ากันว่าพวกนั้นโดนผีต้นไทรหลอกจนร้องลั่นๆ ก้อยเชื่อว่ามีเจ้าที่คุ้มครองก้อยอยู่นะคะ แต่ก็ไม่วายขนหัวลุกหรอกค่ะ!

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : คอลัมภ์ขนหัวลุก หนังสือพิมพ์ข่าวสด
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: