1450.เมื่ออาจารย์บ้ารับลูกศิษย์บ้า
เมื่ออาจารย์บ้ารับลูกศิษย์บ้า
หลังจากหลวงพ่อสุน วัดบางปลาหมอ มรณะภาพแล้ว หลวงพ่อปานจึงแสวงหาครูบาอาจารย์ มานึกได้ ว่าหลวงพ่อสุ่นกล่าวถึงหลวงพ่อเนียม วัดน้อย อยู่บ่อยครั้ง ท่านจึงดั้นด้นไปกราบหลวงพ่อเนียม เมื่อเข้าไปในบริเวณวัด พบพระภิกษุชราองค์หนึ่งกวาดลานวัดอยู่ นุ่งผ้าอาบน้ำฝนขมุกขมัว แต่มีผ้าอีกผืนนึงคล้องคอไว้ พอหลวงพ่อปานท่านเห็นก็เดาว่าองค์นี้ น่าจะเป็นหลวงพ่อเนียม เพราะตามวินัยของสงฆ์ พระห้ามเปลือยกายท่อนบน ท่านจึงวางร่มถอดรองเท้า สมัยโบราณเวลาพระผู้น้อยไปไหว้พระผู้น้อยไปไหว้พระผู้ใหญ่ ของที่ถืออยู่ในมือต้องวางหมด และต้องถอดรองเท้าด้วย เมื่อไปไหว้พระองค์นั้น พระองค์นั้นหยุดการกวาดลานวัด ถามว่า”มึงมาไหว้กูทำไม” หลวงพ่อปานจึงถามว่า”ท่านใช่หลวงพ่อเนียมไหม” พระองค์นั้นจ้องหน้าหลวงพ่อปานเขม็งพร้อมกับบอกว่า”กูชื่อเนียม แต่ไม่ได้เป็นหลวงพ่ออะไร แล้วมึงมาหากูทำไม” หลวงพ่อปานจึงบอกว่า”ผมอยากมาเรียนวิชากัมมัฎฐานกับท่าน” พระองค์นั้นถลึงตาจ้องหลวงพ่อปานพร้อมกับกับตวาดว่า”กรรมถงกรรมฐานกูไม่รู้จักหรอก แถวนี้ใครๆเขาก็เรียกกูว่าพระบ้าทั้งนั้น” หลวงพ่อปานเห็นท่าไม่ดีจึงยกมือไหว้ท่าน แล้วเดินจากมา เดินไปหาพระลูกวัด ก็เพื่ออาศัยนอนสักคืน
พอตอนเช้า พระวัดน้อยนั่งฉันเช้ากัน หลวงพ่อเนียมท่านแยกฉันองค์เดียว ใครจะไปฉันกับท่านได้ มีหมามีแมวล้อมตัวท่าน ท่านฉันคำ ก็ป้อนหมาบ้างแมวบ้างคำ (ในชีวิตของแอดมิน เคยเห็นเกจิองค์หนึ่ง เป็นอย่างนี้เหมือนกัน เกจิองค์นั้น คือหลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง) พอหลวงพ่อปานไปกราบท่าน ท่านเหมือนของขึ้น ด่าว่าหลวงพ่อปาน สาดเสียเทเสืย ลามปามถึงพ่อแม่หลวงพ่อปาน หลวงพ่อปาน ท่านก็อดทน ถือเสียว่าคำด่าครูบาอาจารย์เป็นคำให้พร จนพระที่ให้ท่านพักเมื่อคืน มาฉุดท่านกลับ พร้อมกับพูดว่า”เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”