6065. ตำนานจริงของเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
ทุกๆครั้งที่คนแวะมาเยี่ยมเมืองเซี่ยงไฮ้ หรือไม่ประสบพบหน้าผมมักจะถามผมเสมอว่า เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้มีจริงไหม และละครเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงใช่ไหม นั่นเป็นคำถามที่ผมต้องไปหาประวัติเจ้าพ่อตัวร้ายผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามมาเล่าสู่กันฟัง
เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ยุคสุดท้ายคือ เจ้าพ่อในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สองและก่อนสงครามเอเชียบูรพาที่ญี่ปุ่นจะบุกประเทศจีนและเมืองเซี่ยงไฮ้ ในปี 1939 ซึ่งมีอยู่ด้วยกันสามคนคือ ตู้เยว่เซิน(杜月生) จางเส่าหลิน(张啸林) และ หวางจินหลง(黄金荣)
สามเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ผู้ยิ่งใหญ่นี้เป็นผลผลิตที่โดดเด่นในอาณาเขตเมืองเก่า อาณาเขตกึ่งอาณานิคมและย่านไหว้ทัน (the Bund) ผันตัวเองจากผู้มีฐานะยากจน รวบรวมสมัครพรรคพวกที่โง่เขลา นักเลงโกงอันธพาลต่างๆ คัดเลือกขึ้นมาเป็นเจ้าพ่อปกครองท้องถิ่น กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในนครเซี่ยงไฮ้พร้อมกับความมั่งคั่งทางการเงินและอำนาจในเขตย่านเมืองเก่าของนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีพี่ใหญ่ที่ชื่อว่า หวางจินหลง
เจ้าพ่อโคตรโกง หวางจินหลง
ในปี 1900 เขตสัมปทานในอาณานิคมฝรั่งเศสขยายตัว ถนนในพรมแดนพื้นที่สัมปทานฝรั่งเศสขยายตัวมากกว่าสองเท่า เพื่อเสริมสร้างกฏหมายและความเป็นระเบียบในเขตฝรั่งเศส สถานกงสุลฝรั่งเศสจึงเปิดรับสมัครตำรวจ 120 ตำแหน่งเพื่อดูแลเขตสัมปทานในเซี่ยงไฮ้ หวางจินหลงจึงเข้ามาสมัครเป็นตำรวจกับเขาด้วย ในเวลานั้นเขาอายุ 22 ปี
ในวันที่หวางจินหลงรับตำแหน่งเขาเดินทางไปที่วัดเฉินหวางเมี่ยวจุดธูปขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตั้งแต่แปดโมง จากนั้นเดินทางไปทำงานณ.สถานีตำรวจเขตสัมปทานฝรั่งเศส หวางจินหลงติดตามเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสทำหน้าที่เก็บภาษีที่ดิน ภาษีโรงเรือน และยังข้ามไปยังเขตสัมปทานฝรั่งเศสใหม่เพื่อจัดทำเลขที่และทะเบียนบ้าน ทั้งเขายังมีส่วนในการปราบปรามเจ้าของที่ดิน เกษตรกร และเจ้าของกิจกรรมขนาดเล็กที่ไม่ยอมย้ายตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส เป็นผลให้เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสพอใจในผลงานของเขา และเลื่อนตำแหน่งของเขาให้สูงขึ้น
หวางจินหลงได้เข้าไปดูแลเขตท่าเรือสือหลิ่วปู้(十六铺) ซึ่งอยุ่ถัดจากไหว้ทัน (the Bund) การแต่งตัวของเขาเปลี่ยนไป วันๆเข้าโรงน้ำชา พูดจาหยอกล้อและรวบรวมข่าวกรองจากชาวบ้าน ใช้สมองในการทำงาน เขาใช้ขโมยจับขโมย สายลับจัดการสายลับ และรายงานให้เขาทราบ และทำลายคนที่จะเป็นภัยต่อเขา นอกจากนี้เขายังสร้างความประทับใจในการหลอกลวงชาวบ้านโดยการจับขโมยเพื่อเพิ่มศักดิ์ศรีของเขา
มีอยู่ครั้งหนึ่งร้านค้าทองฝั่งตรงข้ามสถานีตำรวจของฝรั่งเศสทองคำแท่งได้หายไป เจ้าของกิจการร้อนใจเป็นอันมาก มีคนแนะนำให้หวางจินหลงเป็นผู้สืบสวน เจ้าของร้านทองจึงเข้าไปแจ้งสถานีตำรวจและระบุชื่อหวางจินหลงให้เป็นพนักงานสอบสวน น่าแปลกใจอย่างยิ่งหวางจินหลงยังไม่ทันเดินทางออกจากโรงพัก ขโมยก็นำทองที่หายกลับมาคืนเจ้าของ ทำให้หวางจินหลงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว ที่แท้เป็นแผนที่หวางจินหลงวางไว้เพื่อโปรโมทตัวเองและหลอกผู้บังคับบัญชาตัวเอง
ในไม่ช้าหวางจินหลงได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายปราบอาชญากรรม แต่ในระหว่างการดำรงตำแหน่งของเขาเขาปราบปรามคดีใหญ่ๆได้ไม่กี่คดี อีกครั้งหนึ่งเลขานุการกงสุลฝรั่งเศสและภรรยาไปเที่ยวที่ทะเลสาปไท่หู (太湖) โดนโจรจับลักพาตัวไป กงสุลใหญ่จึงส่งหวางจินหลงไปช่วย หวางจินหลงส่งลูกน้องของเขา อาซื่อ และอาเหมยไปเจรจากับโจรทะเลสาปไท่หูจนปล่อยตัวออกมาได้อย่างง่ายดาย
อีกคดีหนึ่งเลขาธิการเมืองฝูเจี้ยนนำภาพวาดเก่าหกกล่องเดินทางมาเซี่ยงไฮ้ เมื่อขึ้นจากท่าเรือก็ถูกโจรขโมยไป ทางการจึงส่งหวางจินหลงช่วยติดตาม ไม่ถึงครึ่งวันหวางจินหลงนำภาพวาดเหล่านั้นกลับคืนมา หวางจินหลงค้นพบสูตรสำเร็จของชีวิตที่เขาภูมิใจมาก
คดีคลี่คลายการลักพาตัวบาทหลวงคาทอลิกฝรั่งเศส ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสแต่งตั้งหวางจินหลงเป็นถึงอธิบดีชั้นเหรียญทอง ทางกรมตำรวจฝรั่งเศสเลื่อนเขาขึ้นเป็นจเรตำรวจพร้อมด้วยบริวารคุ้มกันถึง 8 คน ตั้งแต่นั้นหวางจินหลงหยิ่งผยองกลายเป็นเจ้าพ่อปกครองท้องถิ่น
ตั้งแต่วันแรกที่หวางจินหลงกราบไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเฉินหวางเมี่ยว จนถึงเขามีอำนาจขึ้นเป็นเจ้าพ่อแก็งค์ชิง ในเวลานั้นแก็งค์ชิงเป็นแก็งค์ใหญ่ที่ครอบครองเขตไหว้ทันมากที่สุด ในยุคที่เป็นสีเทานี้หวางจินหลงใช้ลูกสมุนของเขาทำธุรกิจค้าขายฝิ่น เปิดบ่อนคาสิโน และร่วมกับพันธมิตรเปิดสนามแข่งหมา จนกลายเป็นเจ้าพ่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเขตไหว้ทัน หวางจินหลงทำงานเป็นมือกฎหมายในกรมตำรวจนานถึง 20 ปีจนถึงวันเกิดครบรอบ 60 ปีของเขาเขาลาออกแต่กรมตำรวจได้ว่าจ้างแต่งตั้งเขาเป็นที่ปรึกษากรมตำรวจสืบต่อมา
ตู้เยว่เซิน (1888-1951) เป็นเจ้าพ่อที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเซี่ยงไฮ้เจ้าพ่อแก็งค์ชิง เดิมชื่อ “เยว่เซิน” (月生) จากนั้นเปลี่ยนเป็น “หมิงย้ง” (名镛) ภายหลังใช้ชื่อ “เยว่เซิน” (月笙) เกิดในมณฑลเจียงซู (江苏)แถบชวนซา (川沙) ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเขตผู่ตง นครเซี่ยงไฮ้ เมื่ออายุ 4 ปีพ่อแม่ตายกะทันหันถูกเลี้ยงโดยแม่บุญธรรมและลุงของเขา อายุ 14 ปีเข้าไปหางานทำในย่านสือหลิ่วปู้ ฝึกงานขายผลไม้ซึ่งเป็นธุรกิจของหงหยวนเซิน(鸿元盛) ฝึกการโกง เล่นพนัน คบค้ากับอันธพาล จากนั้นทำงานเป็นเสมียนในร้านขายผลไม้ของ พานหยวนเซิน (潘源盛)
หลังจากนั้นคารวะเข้าแก็งค์ชิงกับเฉินสื่อชาง (陈世昌) เฉินสื่อชางเป็นอันธพาลที่ดูแลเขตเสี่ยวตงเหมิน ในแก็งค์ชิงเฉินสื่อชางมีลำดับอยู่ที่ชั้น ทง (通) ในขณะที่ตู้เสว่เซินอยู่ในลำดับอู้ (悟) จากความสัมพันธ์กับเฉินสื่อชาง ตู้เสว่เซินได้มีโอกาสเข้าพบหวางจินหลงในคฤหาสน์ของหวางจินหลง ความฉลาดแกมโกงและการมองคนทะลุของตู้เสว่เซิน ทำให้เป็นที่ยอมรับและชื่นชมของหวางจินหลง หัวหน้าตำรวจสอบสวนในบังคับฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในธุรกิจมืด กลายมาเป็นเพื่อนสนิทร่วมกันประกอบธรกิจค้าขายฝิ่น ร่วมกันบริหารบ่อนคาสิโนหนึ่งในสามแห่งที่เปิดในเขตสัมปทานฝรั่งเศส ชื่อ อี้กงซิงจี้เล่อปู้ (—公兴俱乐部)
จากการทำงานร่วมกับหวางจินหลงฝิ่นของพวกเขามีประสิทธิภาพสูงสุดในการขนส่ง เดือนกรกฎาคม 1925 ตู้เยว่เซินพร้อมตำรวจและขุนศึกที่อยู่เบื้องหลังจัดตั้งบริษัทผูกขาดการค้าขายฝิ่น ชื่อ บริษัท ซันซิน (三鑫公司) โดยเป็นการร่วมทุนกับอีกสองเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ในยุคนั้น คือ หวางจินหลง และ จางเส่าหลิน ในปีเดียวกันตู้เยว่เซินดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์หอการค้าทั่วไปในเขตสัมปทานฝรั่งเศส ประกาศเก็บภาษีคนจีนที่ทำธุรกิจในเขตสัมปทานฝรั่งเศส ในสามเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้มีคำกล่าวว่า “หวางจินหลงโลภ จางเส่าหลินชอบตีฟัน ตู้เยว่เซินรู้จักใช้คน”
แน่นอนเมื่อเปรียบเทียบกับหวางจินหลง และ จางเส่าหลิน ตู้เยว่เซินเป็นคนฉลาดกว่าที่ประสานความสัมพันธ์และจัดการกับมาเฟียกลุ่มต่างๆและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับขุนศึกกลุ่มต่างๆ นำเงินใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆและเป็นการเปิดทางสะดวกในการค้าฝิ่น เขาสะสมความมั่งคั่งขึ้นเรื่อยๆ นำเงินร้อนเหล่านี้มาตีสนิทนักการเมือง นักหนังสือพิมพ์ และหล่อเลี้ยงกระดูกสันหลังของแก็งค์ซึ่งไม่มีอะไรจะมี
ตู้เยว่เซินยังซื้อใจคน เขาทำมาหลายปีในการซื้อยารักษาโรคส่งไปแจกจ่ายชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตผู่ตงโดยการแจกฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติในเมืองเซี่ยงไฮ้หรือพื้นที่ใกล้เคียงเขาจะออกหน้ามาจัดระเบียบและบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวบ้าน เขามีภาพพจน์ของการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ใช้แรงงานรวมทั้งไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงาน เขาเปลี่ยนแปลงภาพพจน์การแต่งตัวของเจ้าพ่อนักเลงอันธพาลที่ชอบสวมแหวน ม้วนแขนเสื้อขึ้น มาเป็นการใส่สูทแบบตะวันตก กิริยาสุภาพนุ่มนวล เขาเป็นคนที่มีศิลป คนที่มีชื่อเสียงในสังคมยุคนั้นอย่างนักวิชาการไท่เหยียน (太炎) ดารายอดนิยม หยางตู้ (杨度) และนักกฎหมายฉินเหลียงคุย (秦联奎) ต่างเป็นแขกผู้มีเกียรติของเขา ทำให้ฐานะในสังคมของตู้เยว่เซินเพิ่มขึ้น
เดือนเมษายน 1927 ตู้เยว่เซิน หวางจินหลง และจางเส่าหลินจัดตั้งสมาคมองค์กรณ์จีนเพื่อช่วยเจียงไคเช็คปราบปรามแก็งค์ขวานเหล็ก คืนวันที่ 11 เมษายนเขาวางแผนฆ่าผู้นำแรงงานหวางเส่าฮวา(汪寿华)และออกคำสั่งให้อันธพาลเข้าปราบปรามผู้ใช้แรงงาน ตู้เยว่ซินได้รับการหนุนหลังจากเจียงไคเช็ค(蒋介石,เจียงเจ่ยสือ)ซึ่งตั้งรัฐบาลกลางอยู่ที่เมืองนานจิง เขาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทัพอากาศสำรองของคณะกรรมการที่ปรึกษากระทรวง ถึงแม้จะเป็นตำแหน่งลอยๆ แต่เขาถูกมอบหมายให้รับผิดชอบปรับปรุงสภาพทางสังคม
เดือนกันยายนปีเดียวกันเป็นที่ปรึกษาของสำนักงานชั่วคราวกิจการทั่วไปเขตสัมปทานฝรั่งเศสด้านตะวันออกไกล ปี 1929 ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสำนักงานชั่วคราวกิจการทั่วไปเขตตะวันออกไกลซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของคนจีนในเขตสัมปทานฝรั่งเศส ปี 1929 ตู้เยว่เซินจัดตั้งธนาคารเกี่ยวข้องกับการทำอุตสาหกรรมการเงินในเซี่ยงไฮ้ ผ่านทางนักการเงินสวี่ซินหลิ่ว (徐新六) เฉินกวางฟู (陈光甫) และ ถังโส่วหมิน (唐寿民) ธุรกิจการเงินของเขาเฟื่องฟู
ปี 1930 ตู้เยว่เซินซื้อที่ดินที่บ้านเกิดของเขา 50 หมู่เพื่อก่อสร้างวัดขนาดใหญ่ วันที่ 8-10 มิถุนายน 1931 จัดพิธีบูชาที่บ้านเกิดเรียกว่า “พระเจ้าเสด็จสู่โลก” มีกองเกียรติยศเข้าร่วมถึง 5,000คนแห่แหนจากที่พักของเขาในเขตสัมปทานฝรั่งเศสไปจนถึงวัดที่สร้างที่บ้านเกิด เลี้ยงโต๊ะ 1,000 ตัวสามมื้อทั้งสามวัน มีบุคคลสำคัญเข้าร่วมอย่างมากมาย คือ เจียงไคเช็ค ประธานาธิบดีจีนสมัยนั้น สยงสื่อฮุ่ย (熊式辉) ผู้บัญชาการรักษาความสงบภายใน จางฉวิน (张群) นายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ และบุคคลอื่นๆในรัฐบาลจีนและเซี่ยงไฮ้ เป็นงานเลี้ยงที่ฟุ่มเฟือยมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ปี 1932 สถานะของตู้เยว่เซินมั่นคงอย่างถาวร
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1933 ตู้เยว่เซินทำพิธีฉลองตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ของผู้มีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติซึ่งเป็นองค์กรณ์เอกชน จากการรักษาและยึดคุณธรรม การสร้างความเชื่อถือและไว้ใจซึ่งกันและกัน การทำประชาสงเคราะห์ และการภักดีต่อชาติซึ่งแท้จริงคือ องค์กรณ์มาเฟีย ตู้เยว่เซินรับเกียรตินี้จากการเริ่มต้นกิจการมาเฟียที่มีลูกน้อง 130 คน ปี1937 เขามีลูกน้องกว่า 500 คนกระจายไปทั่วในสำนักงานใหญ่พรรคก๊กหมินตั่งเซี่ยงไฮ้ เทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ วงการสื่อมวลชน วงการภาพยนตร์ และวงการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเขา ปี 1934 ตู้เยว่เซิน ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมท้องถิ่น
เดือนกรกฎาคม ปี 1937 กองทัพจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นบุกตีสะพานมาร์โคโปโล เดือนสิงหาคมญี่ปุ่นเปิดการรุกตีสถานที่ 8 แห่งในเมืองเซี่ยงไฮ้ครอบคลุมพื้นที่หนึ่งในสามของเมือง ประชาชนเซี่ยงไฮ้และทั้งประเทศรุกขึ้นต่อต้านอย่างกล้าหาญ ประชาชนต้องการการขับเคลื่อนต่อต้านญี่ปุ่น ตู้เยว่เซิน เข้าร่วมขบวนการต่อต้านญี่ปุ่น เป็นประธานของขบวนการ และประธานคณะกรรมการ เขามีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมส่งบำรุง จัดหาผ้าขนหนูผืนใหญ่ บุหรี่ อาหารกระป๋อง ส่งไปแนวหน้า เขาได้รับอุปกรณ์สื่อสารที่จำเป็น รถหุ้มเกราะสำหรับตำแหน่งนายพลของเขา ตู้เยว่เซินเป็นผู้แทนของกองทัพที่แปดจีนเพื่อส่งกำลังบำรุงให้กองทัพ จากการนำวัตถุปัจจัยจากต่างประเทศส่งมอบให้กองทัพที่แปด อาทิหน้ากากกันแกส เป็นต้น
เมื่อเมืองเซี่ยงไฮ้แตกตู้เยว่เซินปฎิเสธที่จะยอมแพ้ญี่ปุ่น ในเดือนพฤศจิกายน 1937 เขาหนีไปฮ่องกง เขาใช้ความสัมพันธ์ในองค์กรณ์มาเฟียดำเนินธุรกิจของเขาต่อ เขาทำหน้าที่ในฐานะรองประธานสภากาชาดจีน กรรมการถาวรและประธานคณะทำงานเมืองเซี่ยงไฮ้เกี่ยวข้องในหน่วยสืบราชการลับ วางแผนสังหารผู้ทรยศต่อชาติและกิจกรรมอื่นๆซึ่งเขาถนัดและมีชื่อเสียงในเซี่ยงไฮ้ เขาให้ความช่วยเหลือกองทัพจีนสีบความลับและใช้มีดสังหารนายกเทศมนตรีจอมปลอม ฟู่ไขว้อัน (傅筷庵) ปี 1940 เขาจัดตั้งคณะกรรมการปฎิวัติประชาชนซึ่งอยู่ภายใต้พรรคก๊กหมินตั่งจากการสนับสนุนของแก็งค์เจ้าพ่อในจีน ตู้เยว่เซินเป็นผู้นำซึ่งที่จริงคือเจ้าพ่อตัวจริงของแก็งค์ทั้งหลาย
เดือนธันวาคม ปี 1941 หลังการระเบิดของสงครามมหาสมุทรแปซิฟิก ตู้เยว่เซิน ย้ายไปอยู่เมืองฉงชิ่งเพื่อสร้างการพัฒนากองกำลังสนับสนุนในแนวหลัง เขาจัดตั้งบริษัททรัสต์การค้าชื่อว่า บริษัทถองจี (通济公司) จัดทำการแลกเปลี่ยนสินค้าในพื้นที่เขตข้าศึกยึดครองและในเขตไม่ใช่สนามรบหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง หลังจากชัยชนะในการทำสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ในเดิอนกันยายน 1945 ตู้เยว่เซินเดินทางกลับมาเมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้มากที่สุด ในตอนนี้แก็งค์มาเฟียถูกปฎิเสธและปราบปราม กองทัพก๊กหมินตั่งเข้าควบคุมอย่างเปิดเผย บทบาทของแก็งค์มาเฟียต่างไม่เป็นสิ่งสำคัญอีกต่อไป เดือนธันวาคม ปี 1946 มีการเลือกโฆษกสภาเซี่ยงไฮ้ ตู้เยว่เซินได้รับการเลือกตั้งโดยผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับเลือกโดยมีคะแนนสูงสุดแต่พรรคก๊กหมินตั่งไม่สนับสนุนเขา ดังนั้นเมื่อเขาได้รับเลือกจึงลาออกทันที หลังจากนั้นเขาทุ่มเทให้กับธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้า ธุรกิจการเงิน การขนส่ง วัฒนธรรม การศึกษา สื่อสารมวลชน การพัฒนาอุตสาหกรรม โดยมีตำแหน่งหลากหลายเป็นประธาน ประธานคณะกรรมการ กรรมการผู้จัดการ เป็นต้น
ปี 1948 เจียงไคเช็คเพื่อจะจัดการกับวิกฤตการณ์การเงินส่ง เจียงจิงกั๊ว (蒋经国) มาดำเนินการปฎิรูปตลาดหลักทรัพย์ที่เซี่ยงไฮ้ ออกใบรับรองเงินหยวนทอง ออกกฎหมายการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ทองและเงินสามารถแลกเปลี่ยนเป็นใบรับรองเงินหยวนทอง ตู้เว่ยพิง (杜维屏) บุตรชายตู้เยว่เซินไม่เต็มใจปฎิบัติตามถูกเจียงจิงกั๊วจับตัวไปติดคุกเป็นเวลา 6 เดือน ตู้เยว่เซิน เข้าใจสถานการณ์ที่สิ้นหวังในเมืองเซี่ยงไฮ้ เดือนเมษายน 1949 กองทัพปลดแอกประชาชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รับชัยชนะและพร้อมจะเข้ายึดครองเมืองเซี่ยงไฮ้ทุกเมื่อ เดือนพฤษภาคม ตู้เยว่เซินพร้อมทั้งครอบครัวของเขาอพยพไปฮ่องกง
วันที่ 16 สิงหาคม 1951 ตู้เยว่เซิน เสียชีวิตที่ฮ่องกงจบฉากชีวิตเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้คนสุดท้ายในวัย 63ปีศพของเขาถูกย้ายไปฝังที่กรุงไทเปเพื่อเป็นเกียรติที่เคยช่วยเหลือพรรคก๊กหมินตั่งของเจียงไคเช็ก
จางเส่าหลิน (1877-1940) มีชื่อเล่นว่า อาฮู (阿虎,ไอ้เสือ) ชื่อเดิมว่า เสี่ยวหลิน (小林) ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น หยิน (寅) บ้านเกิดอยู่ที่สื่อซีจวนเฉียว (慈溪庄桥ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเขตเจียงเป่ย) ปีที่ 23 ยุคกว่างซีราชวงศ์ชิง (ปี1897)ย้ายไปอยู่เมืองหางโจว ช่วงปีแรกของความเกียจคร้านและการต่อสู้ทำให้มีปัญหาสุงสิงกับอันธพาลท้องถิ่น เข้าศึกษาสถาบันการทหารสำหรับเยาวชนทำให้รู้จักกับ จางจ้ายหยาง (张载阳)
ในระหว่างปีแรกๆของสาธารณรัฐประชาชนจีนรู้จักกับอันธพาลหลี่หยินชิง (季云卿) ในเขตสัมปทานอังกฤษ หลังจากกราบคารวะเข้าแก็งค์ชิงกับฟ่านจิงเชิง (樊瑾丞) ผู้อาวุโสของแก็งค์ก็นับถือสาบานเป็นพี่น้องกับหวางจินหลงและตู้เยว่เซิน นั่นคือจุดเริ่มต้นของสามเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ในนครเซี่ยงไฮ้
ในปี 1920 ทั้งสามร่วมหุ้นกันเปิดบริษัท ซันซิน(三鑫公司) เพื่อค้าขายฝิ่น ทำธุรกิจโสเภณีอย่างบ้าคลั่ง ปี 1927 จัดตั้งกองทัพอันธพาลก่อเหตุร้ายไปทั่ว ก่อตั้งสมาคมองค์กรณ์จีน จัดตั้งมือสังหารเก็บผู้นำกรรมกร และเข้าปราบปรามกรรมกรที่ประท้วง ได้รับการแต่งตั้งจากเจียงไคเช็คเป็นผู้บัญชาการทางทะเลและอากาศในกระทรวงที่ปรึกษาเช่นเดียวกับตู้เยว่เซิน
ในปี 1932 ได้รับการแนะนำจากตู้เยว่เซินให้ดำรงตำแหน่งกรรมการในบอร์ดของสมาคมแลกเปลี่ยนสิ่งทอเบาแห่งเซี่ยงไฮ้ หลังจากเกิดสงคราม จางเส่าหลินจัดตั้งองค์กรณ์ใต้ดินในชื่อว่า “สมาคมเอเชียใหม่เพื่อสันติภาพ” เพื่อจะซื้อจตุปัจจัยส่งให้ข้าศึกซึ่งทำกำไรให้อย่างมหาศาล
ในปี 1939 ร่วมกับรัฐบาลเมืองเจ้อเจียงจัดตั้งนายกเทศมนตรีหลอกซึ่งถูกลอบสังหารโดยเยาวชนพรรคก๊กหมินตั่ง
ในเดือนมกราคมจางเส่าหลินถูกฆ่าแทงตายที่เซี่ยงไฮ้โดยหลินห้วย (林怀)องครักษ์ของเขาที่ถูกซื้อตัว
ภาพยนตร์เรื่อง “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” ซึ่งเราชื่นชอบและติดตามกันซึ่งมี สวี่เหวินเฉียง ฟงฉิงฉิง และติงลี่ ตัวละครฟงจิ้นเหยา ซึ่งเป็นพ่อของฟงฉิงฉิง มีเค้าโครงมาจากประวัติของตู้เยว่เซินนี่เองครับ จากคนที่ไม่มีอะไรแถวชวนซาในเขตผู่ตงซึ่งกลายเป็นสถานที่สร้างดีสนี่ย์แลนด์เซี่ยงไฮ้จะเปิดในไม่กี่ปีนี้ กลายเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ที่ยืนยง คงมีคนอยากแวะไปดูบ้านเกิดของเจ้าพ่อแน่นอน
คงจะไม่มีใครมาถามประวัติเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้จากผมอีกนานเลย…
ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง