807. อ.ณรงค์ฤทธิ์ ไชยคีรี ผู้หยั่งรู้อนาคตกาล

อ.ณรงค์ฤทธิ์ ไชยคีรี ผู้หยั่งรู้อนาคตกาล
อ.ณรงค์ฤทธิ์ ไชยคีรี เป็นทายาทคุณพ่อชุม ไชยคีรี ท่านเป็นบุตรคนที่สอง ในบรรดาลูกทั้งหกคน และมีท่านเพียงคนเดียว ที่มุ่งมั่นศึกษาวิชาไสยศาสตร์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ อายุเพียงแปดขวบ เสกหนูกับแมวไม่เป็นศัตรูกัน กินข้าวจานเดียวกันดั่งรูป

เมื่อท่านอุปสมบทแล้ว ได้เดินทางไปเรียนกรรมฐาน จากหลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม ในสายพระอาจารย์มั่น ล้วนยกย่องว่าหลวงพ่อสมชาย มีพลังจิตอันมหัศจรรย์ ครั้งแรก ที่อ.ณรงค์ฤทธิ์เดินทางไปหาหลวงพ่อสมชาย เมื่อไปถึงที่วัด พระลูกวัดได้บอกว่า หลวงพ่อสมชายรับกิจนิมนต์ไปกรุงเทพฯ เดินทางไปสักยี่สิบนาทีเห็นจะได้ อ.ณรงค์ฤทธิ์เลยกำหนดจิต อธิษฐานว่า ถ้ามีวาสนาต่อกัน ขอให้ได้พบในวันนี้ด้วยเถิด ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้เข้าพรรษา ถ้าวันนั้นไม่พบ ท่านต้องไปจำพรรษาที่อื่น คงไม่ได้เป็นศิษย์อาจารย์กัน

แต่เป็นเรื่องอัศจรรย์ รถที่หลวงพ่อสมชายโดยสารไป เกิดยางแตก หลวงพ่อสมชายจึงออกมายืนนอกรถ รถที่อ.ณรงค์ฤทธิ์นั่งมา เห็นหลวงพ่อสมชาย จำได้จึงรีบจอดรถ อาจารย์จึงเดินไปไหว้ท่าน ขอฝากตัวเป็นศืษย์ ซึ่งหลวงพ่อสมชายก็ยินดีรับท่านเป็นศิษย์ เมื่อท่าน ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อสมชาย จึงเหมือนพยัคฆ์ติดปีก ทำให้วิชาไสยศาสตร์ท่านเข้มขลังขึ้น และญาณหยั่งรู้ท่านแจ่มใสขึ้น

มีอยู่วันหนึ่ง มีศิษย์ผู้หญิงคนหนึ่งมาหาท่านที่บ้าน มาร้องห่มร้องให้ ว่าสามีตัวดีลูกศิษย์อาจารย์ ไปมีเมียน้อย เธอจึงถามว่าจะทำอย่างไรดี อ.ณรงค์ฤทธิ์กำหนดจิตดูแป๊บเดียว ก็บอกว่าไม่ต้องทำอะไร ทำเอาศิษย์ผู้หญิงอึ้ง ถามอาจารย์ว่า ไม่ต้องทำอะไรเลยเหรอ อ.ณรงค์ฤทธิ์ยิ้มอย่างเมตตา บอกว่าไม่ต้องทำอะไร เพราะวันนี้เดือนนี้ (อ.ได้ระบุวันเดือนปีไว้) จะกลับมาเอง เมื่อศิษย์คนนั้นได้ยิน ก็กลับไปรอแฟนแบบใจจดใจจ่อ ก่อนหรือหลังสักสองวันที่กำหนด แฟนได้เลิกกับเมียน้อย กลับมาอยู่บ้านจริง คลาดเคลื่อนนิดหน่อย

อ.ณรงค์ฤทธิ์ ได้ทำนายวงการไสยศาสตร์ไว้ว่า ต่อไปวงการไสยศาสตร์ จะยิ่งเจริญ จะยิ่งมีคนนิยมเป็นวงกว้างยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า เมื่ออ.กฤษณะได้ยิน ก็อดค้านในใจไม่ได้ ว่าขนาดเดี๋ยวนี้คนยังไม่ค่อยเชื่อเลย แล้วต่อไปมันไม่ยิ่งกว่านี้เหรอ แต่ปัจจุบันยอมรับแล้ว ช่วงสองสามปีนี้ เป็นยุคทองวงการไสยศาสตร์จริง มีอาจารย์เกิดขึ้นมากมาย บางที่ในซอยเดียวกัน มีตั้งสามสี่สำนัก

อ.ณรงค์ฤทธิ์ มักบ่นกับลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเสมอว่า ให้เร่งๆฝึก ต่อไปถ้าอาจารย์ไม่อยู จะไปพึ่งพาใครได้ ตอนนั้นอ.กฤษณะได้ฟังก็เฉยๆ เพราะอาจารย์โตกว่า แค่สิบกว่าปี ยังไงก็ได้พึ่งกันไปจนแก่แหละ แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก ท่านก็จากไปด้วยวัยยังไม่ควร นับว่าท่านคงรู้ล่วงหน้า ว่าท่านอายุไม่ยืนนัก ท่านจากไปด้วยวัยเพียง๕๒ปี นับว่าเป็นการสูญเสียเพชรเม็ดงาม ในวงการไสยศาสตร์เม็ดหนึ่งทีเดียว

ศิษย์สายวัดสะพานสูง

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: