1011. อิทธิฤทธิ์มีดหมอสาลิกา “หลวงพ่อเดิม” ช่วยชีวิต จอมพล ป.พิบูลสงคราม

หลวงพ่อเดิม พุทธฺสโร วัดหนองโพ นครสวรรค์
จอมพล ป.พิบูลสงครามกับมีดหมอหลวงพ่อเดิม

หลังจากที่หลวงพิบูลฯ(ตำแหน่งในขณะนั้น)ถูกนาย ยัง ไล่ล่าเอาชีวิต แต่แคล้วคลาดไปได้ ทางนายทหารคนสนิทได้ปรารภกับท่าน ว่าท่านมีชีวิตอยู่ในระหว่างความเป็นความตายเสมอ อย่ากระนั้นเลยจะต้องหาเครื่องรางที่มีอานุภาพสูงมาให้ท่านไว้ติดตัว ในที่สุดก็ตกลงกันว่า จะไปขอให้หลวงพ่อเดิมบรรจุมีดหมอสามกษัตริย์ให้กับท่าน

มาถึงตอนนี้ก็คิดว่า ท่านนั้นต้องออกทำงานเป็นประจำ มีดหมอที่ให้ทำนั้นต้องมีขนาดเล็กใส่กระเป๋าได้สะดวก

นายทหารคนสนิทของหลวงพิบูลฯ ได้เดินทางไปยังวัดหนองโพเพื่อติดต่อกับกรรมการวัดเพื่อสั่งทำมีดหมอสามกษัตริย์ ทางกรรมการวัดได้บอกระเบียบว่าต้องสั่งทำและวางเงินไว้หนึ่งชั่ง(80 บาท) ในสมัยนั้นเงินหนึ่งชั่งมากมายเหลือเกิน เพราะข้าวเปลือกราคาเกวียนละ 28 บาทเท่านั้น ก็ตกลงกันเรื่องขนาดมีด ทว่ามีดที่ทางวัดมีนั้นขนาดใหญ่แม้จะเป็นขนาดปากกาก็ยังไม่เหมาะ จึงได้ปรึกษาให้ตีมีดขนาดจิ๋วที่เรียกว่ามีดสาริกาขึ้นมาพิเศษ คือรวมปลอกแล้วขนาดสองนิ้วกว่าๆ สำหรับที่กันนั้นขอให้ใช้แผ่นทองคำรีดเพื่อลงอักขระสอดกำกับเอาไว้ เมื่อตกลงกันได้ทางวัดนัดว่าอีกสองเดือนกลับมารับ

มีดเล่มนี้เดินลายเป็น ทอง นาก เงิน อย่างสวยงาม และแผ่นตะกรุดทองคำที่ลงอักขระนั้นได้สอดไว้และส่วนที่โผล่ขึ้นมาตีพับไว้นอกกั่นอย่างสวยงาม ช่างทำสุดฝีมือเพราะทางผู้สั่งบอกไว้ว่าจะทำไปให้หลวงพิบูลสงคราม

หลวงพ่อเดิมท่านก็ปลุกเสกให้อย่างเต็มที่ เมื่อเสร็จแล้วก็นำกลับมากรุงเทพฯ และมอบให้กับท่าน ท่านรับมาดูด้วยความพอใจ เพราะฝีมือการทำละเอียดสวยงามและมีขนาดเล็ก ท่านให้คนเย็บผ้ากำมะหยี่หุ้มไว้มีปากรูดเปิดปิด เวลาท่านจะออกจากบ้านก็จะใช้เข็มกลัดติดไว้ในกระเป๋าเสื้อด้ายซ้ายตลอด

จะขอเอ่ยถึง นายลี (ขอสงวนนามสกุล) คนสำคัญ นายลีเป็นคนขุขันธ์ เคยรับราชการทหาร เมื่อปลดประจำการได้เข้ามาเป็นคนสวนของบิดาหลวงพิบูลฯ และต่อมาได้เข้ามาเป็นคนรับใช้ในบ้านของหลวงพิบูลฯ ท่านรักใคร่และเมตตามากเพราะถือเป็นข้าเก่า เต่าเลี้ยง และประกอบกับขณะนั้นท่านเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ศัตรูทางการเมืองมีมาก จึงต้องหาคนที่ไว้วางใจมาขับรถ จึงให้นายลี มาขับรถส่วนตัว ให้เงินเดือนไม่รวมเบี้ยเลี้ยงพิเศษเดือนละ 25 บาท ทั้งยังได้จัดพิธีแต่งงานให้เป็นฝั่งเป็นฝาอีกด้วย

แต่อยู่ดีๆนายลี ก็หายออกไปจากบ้านโดยไม่มีร่องรอย หลวงพิบูลฯก็ร้อนใจแต่คิดว่าคงไปเยี่ยมบ้าน ในที่สุดนายลีก็กลับมา ท่านจึงเรียกไปสอบถาม นายลีตอบว่าไปเที่ยวภูเขาทองแล้วก็เพลินไปกับเพื่อนคนบ้านเดียวกัน จากวันนั้นมานายลีเปลี่ยนไปเป็นคนละคน กินเหล้าจนเมามายทุกวันและมีอาการเหม่อลอยอีกด้วย แต่ท่านก็ไม่ได้ใส่ใจคงไปไหนมาไหนกับนายลีเหมือนเดิม

จากบันทึกของกรมตำรวจระบุไว้ว่า วันที่ 9 พ.ย.2481 เวลาประมาณ 19.00 น. หลวงพิบูลฯมีราชการจะต้องไปงานเลี้ยงข้าราชการทหารไปต่างประเทศ จึงได้อาบน้ำเตรียมตัวจะไปงาน

ท่านกำลังแต่งตัวใส่เสื้อแขนยาวเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้ใส่กางเกง กำลังหวีผมอยู่หน้ากระจก ในกระเป๋าเสื้อนั้น มีมีดหมอสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเดิมกลัดอยู่เรียบร้อย

พลันหูได้ยินเสียง แป๊ก จึงหันกลับไปดู ก็เห็นนายลี ยืนถือปืนจ้องมาที่ท่าน เสียงดัง แป๊ก ที่ได้ยินก็คือเสียงเหนี่ยวไกสับลงบนจานท้ายกระสุนแต่อัศจรรยฺกระสุนด้าน หลวงพิบูลฯจึงวิ่งสวนนายลี ออกนอกห้องไป นายลีก็ไล่กวดยิงไปเรื่อยๆในระยะประชิดแต่กระสุนกลับไม่ถูกตัวท่าน เหมือนกับมีมือวิเศษมาปัดกระสุนให้เบี่ยงไปทางอื่น

หลวงพิบูลฯวิ่งไปจนมุมตรงห้องคุณหญิงละเอียด ศรีภรรยา ขณะนั้นคุณหญิงละเอียดอยู่ในห้องพอดี หลวงพิบูลฯก็วิ่งเข้าไป โดยมีนายลี ไล่ตามเข้ามา ห่างจากหลวงพิบูลฯประมาณวากว่า ทูตนรกในมือนายลี ถูกเล็งอย่างบรรจงและเหนี่ยวไก “ปัง”กระสุนไม่ถูกอีกเช่นเคย ทั้งที่ระยะเผาขนขนาดนั้น กระสุนไปถูกกระจกแตกกระจายเกลื่อนห้อง เสียงปืนทำให้ตำรวจที่อารักขา ประกอบด้วย ส.ต.ท.ผล ส.ต.ท.เปล่ง จ.ส.ต.ทองดี และ ร.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ วิ่งตามเสียงปืนขึ้นมาและช่วยกันควบคุมตัวนายลี ไว้ได้ พาไปสอบสวนเพื่อหาตัวคนบงการที่อยู่เบื้องหลังต่อไป

สรุปแล้วสิ่งที่หลวงพิบูลฯมีติดกระเป๋าเสื้อมีเพียงชิ้นเดียวก็คือ มีดหมอขนาดจิ๋วเท่านั้นเอง และก็ปรากฎผลดังนี้

“ในนัดแรกที่นายลี ยิงจากด้านหลังนั้น กระสุนปืนไม่ลั่นออกมา เพราะมีผลเป็นมหาอุตม์”

“แต่เมื่อหันหน้ามาเผชิญกันแล้วยิงอีก คราวนี้ท่านคงตกใจ ทำให้กระสุนลั่นออกมา แต่ด้วยกฤติยาคมที่แฝงไว้ในมีดหมอเทพศาสตรา จึงเบี่ยงกระสุนให้เป็นผลทางแคล้วคลาด” เป็นเหตุให้ท่านรอดจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างหวุดหวิด ทั้งที่นายลี เคยผ่านการฝึกใช้อาวุธมาเป็นอย่างดีตอนเป็นทหาร

แสดงให้เห็นเด่นชัดว่ากฤติยาคมของมีดหมอเทพศาสตรานั้นยอดเยี่ยมเพียงใด แม้เป็นมีดหมอที่ถูกย่อส่วนมาจนเหลือเท่าตะกรุดดอกนึงเท่านั้น ท่านที่เคารพ กำลังใจอันแน่วแน่ เป็นสิ่งหนึ่งที่เสริมความเข้มขลังของวัตถุมงคลอีกด้วย ดังรายของหลวงพิบูลฯตอนแรกที่ท่านยังไม่รู้มีคนลอบยิงกำลังใจท่านยังไม่เสีย ปืนจึงไม่ลั่น ข้อนี้ยืนยันได้ เพราะท่านได้พูดกับนายทหารที่ไปร่วมงานเลี้ยงหลังจากที่ท่านถูกยิงมาหมาดๆว่า

“ข้าพเจ้ารู้สึกตกใจมาก ตัวสั่นเทิ้ม ไม่ใช่กลัวตาย แต่ประสาทเสียหมด เพราะนึกไม่ถึงว่า ศัตรูที่จะมาเอาชีวิตครั้งนี้ จะเป็นคนที่ข้าพเจ้าไว้วางใจที่สุด และปืนกระบอกนั้นก็เป็นปืนของข้าพเจ้าเองด้วย”

จึงขอให้ทุกท่านระลึกไว้เสมอว่า หากเข้าที่คับขัน อย่าตกใจ ควบคุมสติไว้ให้มั่น ให้นึกในใจว่าตายเป็นตาย เครื่องรางของขลังจะต้องคุ้มครองท่านแน่นอน

คาถาอาราธนาหลวงพ่อเดิม

ตั้งนะโม 3 จบ

อิติอะระหัง สุขะโต พุทธสโร

หลวงพ่อเดิม นามะเต อาจาริโยเม

อายัสมา อาจาริโยเม ภันเตโหหิ

ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาข้อมูล เครื่องราง พระเครื่อง เมืองไทย
ขอขอบคุณรูปภายสวยๆจาก : TNews
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: