913. เสกกระต่ายช่วยแก้หนาว หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย
เรื่องราวด้านพลังจิตและอภินิหารของ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ที่เห็นมีการเผยแพร่ในปัจจุบัน โดยมากเป็นเรื่องเล่าแบบนิทานขาดแหล่งอ้างอิงหรือพยานผู้เล่าสืบต่อ แต่เรื่องราวที่หยิบยกมาเผยแพร่นี้เห็นเป็นเรื่องน่าสนใจ ด้วยมีแหล่งข้อมูลผู้เล่าสืบทอดต่อกันมาชัดเจน จึงขอนำเสนอแบบสู่กันฟังให้ผู้ฅนในชั้นหลังได้รับรู้ ผู้เล่าเรื่องนี้ คือ คุณลุงสมพงษ์ เชยชม
ท่านเป็นชาวคลองด่านโดยกำเนิด เป็นลูกทะเลที่มีความเคารพในหลวงพ่อปานสุดหัวใจเรียกว่าไม่มีความสงสัย ที่ว่าไม่สงสัยเพราะเชื่อสุดใจในด้านอภินิหารต่าง ๆ แม้นจะเกิดไม่ทันได้พบหลวงพ่อปาน แต่อภินิหารที่ท่านทราบจากบรรพบุรุษ ที่ยืนยันสืบมาว่าได้เห็นมากับตาตนเองจนหายสงสัยดังนี้
ย้อนไปในอดีตสมัยคุณทวดพ่วง (สมัยนั้นยังไม่มีนามสกุล) ซึ่งเป็นแม่ของ คุณยาย นิ่ม เชยชม โดยทวดพ่วงตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กท่านก็ชอบมาวัด ชอบมาช่วยงานวัดมานั่งพระเทศน์ในวันพระ ทวดพ่วงท่านเล่าเรื่องราวในสมัยให้คุณยายนิ่มฟังว่า มีอยู่ปีหนึ่งเวลานั้นเป็นฤดูหนาวช่วงเช้าอากาศเย็นมาก พวกเหล่าเด็ก ๆ ในวัดพากันยืนหนาวตัวสั่นอยู่ข้างศาลา
หลวงพ่อปานท่านกลับมาจากบิณฑบา มองมาเห็นเด็กน้อยพากันยืนหนาวอยู่จึงเดินตรงเข้ามาหาเหล่าเด็กน้อย แล้วสั่งให้เด็กผู้หนึ่งไปหยิบเอาผ้าอาบมาสองผืน ท่านหันมาบอกเด็ก ๆ ว่ามีของเล่นแก้หนาว พูดจบท่านอมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ใช้มือม้วนผ้าอาบปากก็ภาวนา ขมุบ ขมิบ … อึดใจต่อมา ท่านโยนผ้าอาบทั้งสองผืนไปที่กลางลาน
พวกเด็กต่างพากันตกตะลึงด้วยบัดนี้ผ้าอาบเมื่อครู่ได้กลายเป็นกระต่ายน้อยสองตัว ขนสีขาวตัวอ้วนน่ารักสองตัวกระโดดโหยงเหยงอยู่ที่กลางลาน เมื่อเห็นดังนี้หลวงพ่อปานท่านก็ร้องบอกขึ้นว่า #ใครจับกระต่ายได้จะให้หนึ่งเฟื้อง สิ้นคำพวกเด็กต่างหันมามองหน้าส่งสายตากัน แล้วต่างฅนต่างวิ่งกรูเข้าไปไล่จับกระต่ายน้อยกันชุลมุน เสียงหัวเราะของเหล่าเด็ก ๆ
ที่หัวเราะกันและกันอย่างสนุกสนาน เวลาผ่านไปครู่หนึ่งพวกเด็กไล่จับกระต่ายจนล้มลุกคลุกคลาน ก็ไม่มีเด็กฅนไหนสามารถจับกระต่ายทั้งสองตัวได้ พวกเด็กไล่จับกระต่ายจนเหงื่อเปียกชุ่ม หลวงพ่อปานเห็นว่าพอสมควรแล้ว ท่านจึงเดินเข้าไปจับกระต่ายน้อยทั้งสองได้โดยง่าย พอท่านจับลงบนตัวกระต่ายก็กลับคืนเป็นผ้าอาบเช่นเดิม แล้วท่านก็เดินหัวเราะกลับไปที่กุฏิท่านอย่างอารมณ์ดี
เรื่องราวนี้ทวดพ่วงได้เห็นมาด้วยตาตนเอง เพราะท่านเป็นหนึ่งในเด็กที่ไล่จับกระต่ายในวันนั้น ทำให้ท่านเคารพศรัทธาในหลวงพ่อปานอย่างมากจนโตเป็นสาว เมื่อมีเวลาว่างทวดพ่วงจะเข้าวัดถือศีลอุโบสถ ทั้งเข้าวัดทำบุญไม่เคยขาดเลย ทราบท่านเคยถวายเรือนไม้สักทองแก่วัดบางเหี้ย ทวดพ่วงได้เล่าเรื่องนี้ให้คุณยายนิ่ม เชยชม กับ คุณตาสมพงษ์ เชยชม ได้ฟังไว้และยืนยันว่าท่านเห็นมาด้วยตาตนเอง หาใช่นิทานหรือเรื่องที่เล่ากันสืบมาอย่างนิทาน ปัจจุบัน คุณยายนิ่ม เชยชม ถึงแก่กรรมไปแล้วเมือต้นปี ๒๕๖๐ ส่วนคุณตาสมพงษ์ เชยชม สุขภาพยังแข็งแรงใช้ชีวิตสงบเรียบง่ายในวัย ๘๙ ปี จึงขอนำเรื่องราวนี้มาเผยแพร่ให้ท่านได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริงตามคำบอกเล่าดังนี้ สุดท้ายนี้ต้องขอขอบพระคุณ คุณอดิศร โพธิ์ทอง ที่เอื้อเฟื้อภาพถ่ายและข้อมูล
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ฅนขลัง คลังวิชา
