682.บารมีหลวงปู่อิ่มปราบงูยักษ์ผีสิง

บารมีหลวงปู่อิ่มปราบงูยักษ์ผีสิง
ตำนานมีดอาคมสุดขลังแห่งวัดหัวเขา
มีดอาคมที่หลวงพ่อกวยตี หลวงปู่อิ่มเสก

ประวัติโดยสังเขป
หลวงปู่อิ่มเกิดเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๔ ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีจอ ที่บ้านโพธิ์พระยา จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเดิมของบิดาท่าน คือ พ่อโต ทองขาว ท่านมีพี่น้องร่วมอุทรทั้งสิ้น ๗ ฅน ท่านเป็นบุตรฅนโต เมื่อเกิดได้ไม่นานครอบครัวได้อพยพมาอยู่บ้านหัวเขา เวลานั้นบ้านหัวเขายังเป็นป่าดงพงหนา แต่วัดหัวเขามีมาอยู่ก่อนแล้ว ตามประวัติท่านไม่ได้เรียนหนังสือมาก่อน เพราะไม่มีโรงเรียน เมื่อท่านโตเป็นหนุ่มท่านจึงเป็นนักเลงหัวไม้ เป็นที่หมายตาของตำรวจ ท่านต้องหนีกลับไปอยู่บ้านโพธิ์พระยาบ้านเดิมของบิดาเพื่อหลบหนี

อุปสมบท
จนกระทั่งอายุได้ ๒๔ ปี ทางญาติผู้ใหญ่ได้จัดการอุปสมบทให้ที่ วัดเสาธงทอง ในปีพ.ศ. ๒๔๒๘ โดยมีเจ้าอาวาสวัดพระนอนเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ซุ่ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่อบวชแล้วจำพรรษาที่วัดเสาธงทองระยะหนึ่ง ช่วงเวลานี้ท่านได้เรียนหนังสือไทและขอมจากพระอาจารย์ซุ่ง และสามารถท่องพระปาฏิโมกข์ได้ในระยะเวลาอันสั้น และท่านยังได้ไปช่วยบูรณะวัดไก่เตี้ยด้วย ณ วัดไก่เตี้ย แห่งนี้ท่านได้รู้จักกับ โยมแสง ทรงพินิจ ซึ่งท่านผู้นี้คือ โยมบิดาของ หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย อันโยมแสงนี้มีความสนิทชิดเชื้อกับหลวงปู่อิ่มมาก นับเป็นศิษย์สนิทใกล้ชิดติดตามท่านไปเกือบทุกหนแห่ง

โยมแสงผู้นี้เป็นฅนใจจริงไม่เกรงอะไร แต่ติดจะเป็นฅนยิ้มง่ายและขี้สงสารโดยเฉพาะกับสาว ๆ ทั้งหลาย ทำให้ท่านมีภรรยาหลายฅน เรียกว่าไปอยู่ที่ไหนไม่เคยขาดรัก เหตุนี้โยมมารดาของหลวงพ่อจวนท่านคงไม่สบอารมณ์ในพฤติกรรมนี้ เหตุนี้หลวงพ่อจวนท่านจึงไม่ได้ใช้นามสกุลของโยมบิดา เพราะมารดาท่านให้ใช้นามสกุลทางฝั่งมารดาแทนด้วยเหตุนี้ กาลต่อมาเมื่อท่านย้ายไปจำพรรษาอยู่ วัดหัวเขา โยมแสงได้บวชและเป็นกำลังสำคัญช่วยสร้าง วัดหัวเขา ทั้งเป็นลูกมือค่อยช่วยสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ ทำให้วัดหัวเขาเจริญรุ่งเรืองสืบมา

สยบงูยักษ์ผีสิง
หลวงปู่อิ่มนี้นอกจากสร้างวัตถุมงคลแล้ว ท่านยังเป็นพระหมอรักษาผู้ฅนด้วย มีศิษย์ทั้งพระสงฆ์และฆราวาสที่เดินทางมาเรียนวิชาแพทย์พื้นบ้านจากท่าน วิชาแพทย์แผนโบราณต้องใช้ยาสมุนไพรกับอาคมควบคู่กัน ฉะนั้นมีดหมอหรือมีดครูจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เรียนแพทย์พื้นบ้าน ในช่วงเวลาที่หลวงพ่อกวยมาเรียนกับหลวงปู่อิ่มนั้นท่านชราภาพแล้ว หลวงปู่อิ่มท่านปรารภว่าต้องการสร้างมีดหมอ หรือมีดครูประจุอาคมเพื่อแจกศิษย์ใกล้ชิด เรื่องมีดอาคมนี้เหตุการณ์คราวหนึ่ง หลวงปู่อิ่มกับโยมแสงไปเข้าป่าลึกเพื่อตัดไม้มาสร้างวัดหัวเขา ซึ่งก่อนเดินทางเข้าป่าหลวงปู่อิ่มท่านปลุกเสกดาบอาคมให้โยมแสงไว้คุ้มตัว เรื่องราวการเข้าป่าไปตัดไม้คราวนั้น โยมแสงเคยเล่าให้หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย ฟังว่า

**เมื่อเดินทางเข้าป่าลึกเขตติดต่อจังหวัดอุทัยธานี เมื่อเข้าไปในบริเวณหนึ่งสังเกตว่า ในบริเวณนั้นไร้ซึ่งเสียงสัตว์ป่า ไม่เห็นมีรอยสัตว์ผ่านในบริเวณนั้น ครู่หนึ่งหลวงปู่อิ่มทราบด้วยญาณวิถี ท่านหันมาสั่งโยมแสงให้ระวังตัว ด้วยบริเวณดังกล่าวมีพลังลึกลับแรงกล้า พลันได้กลิ่นสาบสางโชยมากับลม กลิ่นสาบแรงชัดขึ้นเรื่อย ๆ ใกล้เข้ามา มีเงาทะมึนใหญ่โตโผล่ขึ้นหลังพุ่มไม้เบื้องหน้า ปรากฏเป็นร่างงูตัวใหญ่กว่าต้นขาชูคอสูงตระหง่าน เกล็ดสีดำมันปลาบคล้ายเกล็ดงูแสงอาทิตย์ งูยักษ์หยุดชูคออยู่เบื้อหน้ามองจ้องดู โยมแสงว่าเวลานั้นยอมรับว่ากลัวแต่ไม่รู้จะหนีไปไหน ใจห่วงหลวงปู่อิ่มและเชื่อมั่นในอาคมของท่านจึงไม่ถอย ทั้งสองยืนประจันหน้าเจ้างู หลวงปู่อิ่มท่านสำรวมจิตส่งกระแสเมตตาให้งู เจ้างูใหญ่หามีอาการสงบลงเลยมันกลัวเลื่อยเข้าใกล้มาเรื่อย

หลวงปู่อิ่มลืมตาขึ้นแล้วกล่าวว่า งูนี้เบียดเบียนชีวิตสัตว์และมนุษย์มามาก ดวงจิตวิญญาณสิงสู่ผีกลายเป็นงูปีศาจ จิตใจกระด้างหยาบเต็มไปด้วยความกระหายทำลายชีวิต ไม่ยอมรับกะแสเมตตาที่ท่านแผ่ส่งไป โยมแสงเมื่อเห็นงูเข้าใกล้รีบโดดขวางไม่ให้เข้าถึงตัวหลวงปู่อิ่ม ดาบคู่กายทั้งฟันแทงหมายหยุดยั้ง น่าแปลกดาบธรรมดาไม่อาจทำอันตรายมันได้ เพียงทำให้มันชะงักหยุดครู่หนึ่ง โยมแสงนึกถึงดาบอาคมของหลวงปู่อิ่ม รีบหันดึงดาบอาคมจากฝัก ซึ่งเป็นช่วงเดี่ยวกับที่งูพุ่งเข้าใส่หมายชีวิต ดาบอาคมกระทบแสงวาบก่อนฟันลงเสียงดัง ฉับ !! งูใหญ่ทรุดฮวบหัวขาดกระเด็น เลือดสีแดงพุ่งกระฉูด !! ร่างงูยักษ์ที่ไร้วิญญาณดิ้นพล่าน ๆ ก่อนสิ้นฤทธิ์ลง วิญญาณงูใหญ่หลุดลอยจากร่าง รวมถึงเหล่าดวงวิญญาณที่สิงสูงงูยักษ์ ที่ถูกปลดปล่อยจบสิ้นลงเพียงเท่านั้น**

¤ มีดครูวัดหัวเขา ¤

มีดดาบอาคมของหลวงปู่อิ่มที่ฟันงูยักษ์ผีสิงเล่มนี้ ภายหลังได้มอบให้โยมแสงเป็นผู้ครอบครองไว้ ปัจจุบันไม่ทราบว่าตกอยู่กับผู้ใด จากเหตุการณ์ข้างต้นศิษย์จึงทราบว่า หลวงปู่อิ่มท่านเสกมีดอาคมได้ขลังนัก จึงขอให้ท่านสร้างมีดอาถรรพ์เป็นมีดครูประจำตัว หลวงปู่อิ่มจึงดำริสร้างมีดขึ้นจากโลหะอาถรรพ์ ต้องตั้งมณฑลพิธีเป็นอาณาเขต หลวงปู่อิ่มคอยควบคุมตลอดพิธีกรรม

ทุกครั้งที่เริ่มทำการตีมีดท่านต้องไหว้ครูเชิญครูทุกครั้ง โดยมีหลวงพ่อกวยเป็นผู้ช่วยตีมีดอาคมด้วยตนเอง ในขณะตีมีดต้องภาวนาคาถากำกับตลอดเวลา เมื่อตีมีดขึ้นรูป ต้องแช่มีดในน้ำมนต์ผสมว่านยาไปตลอดจนสำเร็จ คาดว่าได้มีดอาคมไม่เกิน ๑๐ เล่มหรืออาจกว่าเล็กน้อย ส่วนด้ามมีดได้ไปจ้างช่างทางพยุหะคีรีแกะสลักให้ มีทั้งด้ามไม้และด้ามงาช้างแกะ สำหรับด้ามมีดชุดนี้แกะได้สวยวิจิตรมาก ดูเข้มขลังคล้ายมีจิตวิญญาณ

มีดอาคมชุดนี้มีทั้งที่แกะด้ามเป็นรูปพระพิฆเนศ, ท้าวเวสสุวัณ, พ่อแก่ฤๅษี เป็นรูปมหิทธิเทพผู้ทรงอานุภาพ ส่วนฝักมีดผู้เป็นเจ้าของไปจัดทำกันเอง ที่พบมาฝักมีดจึงแตกต่างกันไป มีดครูวัดหัวเขานี้เป็นของดีวิเศษสูงที่ผู้ทรงคุณทางจิตสองรูปร่วมสร้างทำ ใบมีดตีขึ้นรูปโดยหลวงพ่อกวยจอมอาคมผู้เป็นศิษย์ ประจุปลุกเสกพระเวทย์โดยหลวงปู่อิ่มปรมาจารย์ผู้มีพลังจิตแก่กล้า ถือเป็นของวิเศษที่ได้รับพลังจากสองคณาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ จัดเป็นของวิเศษคู่โลกคู่แผ่นดินที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน

ผู้เขียนได้พบเห็นมีดครูหลวงปู่อิ่มเล่มแรก เป็นมีดของท่านอาจารย์สมจิตร เทียนจันทร์ เป็นมีดที่งดงามมาก ด้ามไม้แกะเป็นรูปพระพิฆเนศ (ตามภาพประกอบ) ท่านว่าเจ้าของเดิมเป็นศิษย์หลวงปู่อิ่ม ภายหลังท่านเสียชีวิตลงลูกหลานบูชามีดเล่มนี้ไว้ที่หิ้งพระ โดยตั้งเอาทางด้ามขึ้นเอาปลายมีดปักลงบูชาคู่กับตำรายาโบราณ ลูกหลานเล่าว่าวันดีคืนดีมีดครูเล่มนี้ปรากฏแสงสีแดงพุ่งออกจากดวงตาพระพิฆเนศ จึงพากันกลัวไม่อยากเก็บเอาไว้อีกต่อไป ภายหลังมีดเล่มนี้ทราบว่ามีผู้ขอบูชาต่อจากอาจารย์สมจิตร เป็นฅนจากจังหวัดนครสวรรค์

อีกเล่มที่ทราบมาเป็นมีดหมอด้ามงาแกะสลักรูปท้าวเวสสุวัณ เจ้าของเดิมเป็นศิษย์เรียนทางหมอยาพื้นบ้านจากหลวงปู่อิ่ม ภายหลังเจ้าของเสียชีวิตลูกหลานได้นำไปถวาย พระอาจารย์รูปหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนมีดครูเล่มที่นำมาให้ชมในภาพตัวอย่างนี้ เป็นมีดด้ามไม้แกะเป็นรูปท้าวเวสสุวัณ แกะได้งามนักฝีมือระดับครูทีเดียว ขอนำข้อมูลมาเผยแพร่เพื่อบันทึกให้ผู้ฅนได้ทราบ เพื่อศึกษาสะสมข้อมูลดังกล่านี้ไว้ หากวันหน้าบังเอิญได้พบมีดอาคมดังภาพ จะได้ไม่ปล่อยให้พลาดของดีนี้ไป ขอเผยแพร่ด้วยไมตรีแก่ท่านทั้งหลายดังนี้

ที่มา:

ฅนขลัง คลังวิชา

แอพเกจิ – AppGeji
——————————————————————————-

ติดตามเรื่องราวครูบาอาจารย์ได้เพิ่มเติมที่

แอพเกจิ Facebook: www.facebook.com/appgeji

Web Sit: www.appgeji.com

App Store (IOS): https://appsto.re/th/wlGScb.i