543. สุดยอดตะกรุดสามกษัตริย์ หลวงปู่ศุข

ในบรรดาตะกรุดที่จำหน่ายจ่ายแจกแก่คนทั่วไป คงไม่มีตะกรุดใดเหนือกว่าตะกรุดมหาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง แต่ถ้าเป็นตะกรุดที่ทำเฉพาะบุคคล คงไม่มีตะกรุดใด เหนือกว่าตะกรุดสามกษัตริย์ ที่หลวงปู่ศุขทำถวายเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ จึงขอนำบทความที่มีคนบันทึกไว้ ซึ่งแอดมินเห็นว่าเขียนได้ดีมาก จึงขอนำมาลงโดยไม่ตัดทอนหรือดัดแปลงใดๆ

หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

ในคราวหนึ่งกรมหลวงชุมพรฯ ได้เสด็จไปเยี่ยมหลวงปู่ศุขที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีจางวางถึกตามเสด็จไปด้วย พร้อมกับทหารเรืออีกหลายนาย และวันนั้นหลวงปู่ศุขได้ทำพิธีลงตะกรุดสามกษัตริย์ให้เสด็จในกรมซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 12.00 น. พอดี หลวงปู่ได้กล่าวกับเสด็จในกรมว่า

“วิชาอาคมต่าง ๆ อาตมภาพได้ประสิทธิ์ประสาทให้พระองค์ไว้มากแล้ว แต่ยังขาดของสำคัญอีกสิ่งหนึ่ง สิ่งนี้พระองค์จะขาดไม่ได้เพราะจะต้องติดตัวไว้กับพระองค์เสมอ เป็นของวิเศษที่มีอภินิหารมาก”
นอกจากนี้หลวงปู่ได้ตระเตรียมสิ่งของไว้ให้คือ แผ่นโลหะเป็นเงินหนัก 1 บาท นาคหนัง 1 บาท ทองคำหนัก 1 บาท รวมเป็น 3 กษัตริย์ สามารถแก้อาถรรพณ์ต่าง ๆ ได้

เมื่อลงตะกรุดแล้วเอาด้ายสายสิญจน์มาเสกแล้วควั่นร้อยผูกเอวหรือจะคล้องคอก็ได้ ของสิ่งนี้แหละที่หลวงปู่ศุขตั้งใจทำถวาย และกล่าวกับพระองค์อีกว่า “รอเดี๋ยว เข้าที่บูชาก่อน”
จากนั้นหลวงปู่ก็เข้าห้อง จุดธูปเทียนจนควันตลบออกมาถึงข้างนอก สักครู่หนึ่งจึงเรียกเสด็จในกรมเข้าไปในห้อง ครู่ใหญ่ทั้ง 2 ก็เดินออกมาจากห้อง ในมือของหลวงปู่ศุขถือเหล็กกับแผ่นโลหะและด้ายควั่นสีขาว อีกมือหนึ่งถือเทียนเล่มโตนำเสด็จในกรมลงจากกุฏิ จางวางถึกและทหารคนสนิทรีบก้าวตามออกไปด้วยจนถึงศาลาน้ำหน้าวัด หลวงปู่จึงพูดว่า

“พระองค์รออยู่ที่นี่เดี๋ยว อาตมาจะระเบิดน้ำลงไปทำตะกรุดที่กลางแม่น้ำเดี๋ยวนี้”
กรมหลวงชุมพรฯ มิได้ตรัสตอบแต่ประการใด คงยืนนิ่งอยู่ที่ศาลาพร้อมด้วยเหล่าทหารคนสนิท ส่วนหลวงปู่ศุขก็หันตัวก้าวเดินลงบันไดท่าน้ำ มีเทียนเล่มใหญ่จุดไฟลุกโชติช่วง ตัวท่านค่อย ๆ จมหายไปในน้ำในที่สุด

ทุกคนเฝ้ามองด้วยใจระทึก เพราะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก น้อยคนจะมีโอกาสเช่นนี้ หลายคนเฝ้าจับจ้องท้องน้ำอย่างใจจดใจจ่อ ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลวกวนไปมา นานเกือบหนึ่งชั่วโมง หลวงปู่จึงเดินขึ้นมาที่บันไดศาลาท่าน้ำ เทียนยังสว่างเหลือเพียงคืบกว่า ๆ ผ้าสบง จีวร หาได้เปียกน้ำอะไรมากมาย (หมาด ๆ)

หลวงปู่ขึ้นมาแล้วก็มุ่งสู่กุฏิทันที แต่ก็ไม่ลืมหันมาสั่งเสด็จในกรมฯ ให้ไปกุฏิพร้อมกัน เมื่อเดินไปถึงและเข้าห้องบูชา หลวงปู่เอาเทียนที่เหลือปักไว้บนโต๊ะหมู่บูชา จึงได้นั่งลง หลวงปู่ศุขส่งตะกรุดสามกษัตริย์ให้เสด็จในกรมฯ พลางว่า

“เก็บไว้ให้ดี ไปไหนมาไหนก็ให้เอาติดตัวไปด้วย”

พระองค์ทรงกราบแล้วรับเอาตะกรุดจากหลวงปู่ พลางตรัสถามว่า “ท่านอาจารย์ ตะกรุดนี้มีข้อห้ามอะไรหรือไม่” หลวงปู่บอก “ไม่มีห้ามอะไร ทองคำตกอยู่ที่ไหนก็เป็นทองคำอยู่นั่นแหละ”
จากนั้นหลวงปู่เอาพระเครื่ององค์เล็กดำ ๆ มาแจกให้เหล่าทหารที่ตามเสด็จพร้อมกับประพรมน้ำมนต์ให้ทั่วหน้า จนเวลา 15.30 น. พระองค์จึงได้มาลงเรือและเสด็จกลับ

ตะกรุดสามกษัตริย์นี้ กรมหลวงชุมพรฯ มิเคยเอาออกห่างพระวรกายเลย เท่าที่ทราบมาตะกรุดดอกนี้ตกอยู่ที่หม่อมเจ้ารังสิยากร เนื่องจากก่อนที่เสด็จในกรมจะสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงหยิบตะกรุดสามกษัตริย์ดอกนี้ออกจากคาดเอว มอบให้กับหม่อมของท่าน ทรงรับสั่งว่า “เอาเก็บไว้ให้เจ้าตุ่น”

“เจ้าตุ่น” นี้คือหม่อมเจ้ารังสิยากร โอรสพระองค์โปรดของเสด็จในกรม

ในช่วงสมัยมหาสงครามเอเชียบูรพา (เสด็จในกรมสิ้นพระชนม์แล้ว) หม่อมเจ้ารังสิยากรประทับอยู่ใกล้วัดคอกหมู คลองบางหลวง ฝั่งธนบุรี วันนั้นเวลา 10.30 น. ฝูงบินฝ่ายสัมพันธมิตรส่งป้อมบินมาทิ้งระเบิดฐานทัพญี่ปุ่น เครื่องบินสีน้ำเงินสะท้อนแสงอาทิตย์วับวาวเต็มท้องฟ้า

หม่อมเจ้ารังสิยากรแหงนหน้ามองฝูงบินที่บินผ่านไปพร้อมกับพูดกับนายทหารผู้หนึ่งที่ยืนมองดูเครื่องบินด้วยกัน “นี่เครื่องบิน บี.27” ฉับพลันนั้น ก็ได้ยินเสียงลูกระเบิดที่ลงถล่มทางปากคลองตลาดเทเวศร์สนั่นหวั่นไหว นายทหารผู้นั้นทำความเคารพก่อนจะถามหม่อมเจ้ารังสิกากรว่า “ฝ่าบาทไม่กลัวลูกระเบิดหรือ” หม่อมเจ้ารังสิยากรได้ฟังก็ควักเอาตะกรุดขึ้นจากกระเป๋าเสื้อชูให้ดู แล้วพูดว่า “จะต้องกลัวอะไร นี่..เสด็จพ่อให้ของดีไว้”

ใช่แล้ว เป็นตะกรุดสามกษัตริย์ที่หลวงปู่ศุขทำถวายกรมหลวงชุมพรฯ นั่นเอง
ขอขอบคุณท่านเจ้าเรื่อง และภาพที่มาประกอบเรื่อง

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ศิษย์สายวัดสะพานสูง
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : TNews
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: