1055. “ครุฑยุดนาค” หลวงปู่ผาด วัดไร่ สุดยอดของขลังขับไล่สิ่งอัปมงคล ให้การค้าดี

ตามเทวตำนาน พญาครุฑ เป็นพาหนะของ พระนารายณ์ ไม่มีอะไรกินก็จะจับ นาค ซึ่งเป็นบริวารของ อนันตนาคราช กิน พระนารายณ์ เกรงว่า ครุฑกับนาคจะผิดใจกัน ท่านจึงอนุญาตให้ครุฑ จับสัมภเวสี หรือวิญญาณร้ายที่ให้โทษกับมนุษย์กินได้ยิ่งไปกว่านั้น พญาครุฑ จะกางปีกพัดพาความวิบัติขัดสน ความขัดแย้ง ปัญหาอุปสรรคขัดขวางความเจริญให้ออกไปให้พ้นทางเรา แล้วพัดพาความร่ำรวยเงินทอง แก้วแหวน เนื้อคู่หน้าที่การงานที่ดีมาให้

การปลุกเสกพญาครุฑ จะต้องลงหัวใจให้ครบ ผู้ปลุกเสกต้องมีบารมี มีพลังเหนือพลัง ไม่อย่างนั้นขลังยากวิชาครุฑ ต้องลง ๘ อย่าง ถึงจะครบสูตร คือ

๑.เป็นมหาอํานาจเหนือกว่าใคร
๒.เจริญก้าวหน้าในแผ่นดิน (รับราชการ)
๓.ตราแห่งโชคลาภ-เงินทอง-ลาภผล
๔.กันเขี้ยวงาอสรพิษ (พญาครุฑยุดนาค จับนาคผู้เป็นใหญ่ในอสรพิษได้ พญาครุฑ จึงเหนือเขี้ยวงาพิษร้ายทั้งปวง)
๕.แก้คุณผี คุณคน คุณไสย ได้ดีนัก เดรัจฉานวิชาไม่กล้าเข้าใกล้
๖.ตกต่ำไม่ได้ พญาครุฑบินอยู่สูง สูงกว่าพญานกทั้งหลาย ตราพญาครุฑจึงช่วยดวงไม่ให้ตกต่ำ
๗.พระเคราะห์ไหนๆ พระราหูแรงอย่างไร ก็ชนะพญาครุฑไม่ได้
๘.บารมีมากปกป้องคุ้มครองดี ปลอดภัยตลอดกาล

หลวงปู่ผาด วัดไร่ จ.อ่างทอง เป็นพระผู้มีวัตรปฏิบัติ เป็นไปเพื่อการดับทุกข์ โดยแท้ มีความเพียรเป็นเลิศตลอดชีวิตของท่าน ตั้งแต่บวชได้พรรษาแรกก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจมอบให้แก่ศาสนา มุ่งปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน และหลวงปู่ผาดยังเป็นพระนักพัฒนามือหนึ่งอีกด้วย จนทางวัดไร่ได้ชื่อว่าเป็นวัดวิปัสสนาที่เคร่งครัดที่สุด จนได้รับฉายาเป็นตู้พระไตรปิฎก และเป็นพระอริยสงฆ์ท่านหนึ่งที่ปลุกเสก องค์พญาครุฑ ได้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ท่านมีวิทยาคมที่สามารถอัญเชิญ พญาครุฑ เทพ พรหม ได้จริง

พญาครุฑ รุ่นแรก หลวงปู่ผาด วัดไร่ โด่งดังเป็นพลุแตกมานานแล้ว ด้วยประสบการณ์ล้วนๆ เป็น พญาครุฑ ที่แกะรูปแบบได้สวยงามมาก ศิลปะกางปีกอลังการ แสดงถึงมหาอำนาจ บารมี ที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่ยำเกรงต่อผู้พบเห็น

ประสบการณ์ที่หลายคนนำไปใช้แล้วเล่าลือปากต่อปากมาหลายปี อาทิ เรื่องของผู้ที่มีบ้านหรือร้านค้า บริษัท ติดทางสามแพร่ง หรือบ้านร้านค้า บริษัท ปลูกคร่อมบ่อ คร่อมตอเก่า เจ้าที่แรง คนในบ้านในบริษัททะเลาะกันประจำ เงินทองไม่เข้าบ้าน หรือหาได้จริงก็มีเหตุให้เงินอยู่ไม่ติดบ้าน ไม่ติดร้าน ค้าขายดีๆ กลับสะดุด

หรือมีที่ดิน บ้านช่อง ร้านค้า บริษัทเป็นที่ตาบอด ที่ดินติดวัด ติดป่าช้าเก่า ที่ติดโรงพยาบาล ติดเรือนจำ ติดสถานีตำรวจที่มีห้องขังอยู่ ติดสุสาน อยู่ใต้สะพานรถข้าม อยู่ในที่อับโชค

หรือรถที่ขับอยู่เป็นรถมือสองเคยเกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บคนตายมาแล้ว แต่เราไม่รู้ หรือมีเลขทะเบียนรถ และสีรถ ชงกับดวงคนขับ ขับขี่อยู่ดีๆ โดนเบียด โดนชน ทั้งที่เราขับระวังแล้ว ก็ให้ลองนำ พญาครุฑ ของหลวงปู่ผาด เอามาไว้ที่บ้าน ร้านค้า บริษัท รถที่มีปัญหา แล้วจะรู้ว่าอำนาจครุฑ มีจริง

คาถาบูชาพญาครุฑ ว่า นะโม ๓ จบ ต่อด้วย คะรุปิจะ กิติมันตัง มะอะอุ โอมพญาครุฑ รุจ รุจแล้วรวย นะได้เงิน นะได้ทอง นะได้ทรัพย์ นะได้บุญบารมี นะมั่นคง นะล้างอาถรรพณ์ นะเจริญ นะรุ่งเรือง นะรุ่งโรจน์ นะเมตตา อธิษฐามิ

สำหรับผู้ศรัทธาใน พญาครุฑ มหาเทพผู้มีฤทธิเดชสูงสุดองค์หนึ่งในสวรรค์ รบไม่เคยพ่ายแพ้ เป็นอมตะ บินสูงไม่เคยตกต่ำ และเป็นเทพที่ร่ำรวยที่สุด ครอบครองวิมานฉิมพลี ผู้บูชาด้วยความศรัทธา พญาครุฑ จะเกื้อหนุนนำให้ชีวิตรุ่งเรืองดีขึ้นอย่างแน่นอน

ประวัติหลวงปู่ผาด อภินันโท วัดไร่

หลวงปู่ผาด อภินนฺโท หรือ พระครูมงคลสาธุวัตร แห่งวัดไร่ ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง อายุ ๙๔ ปี ๗๓ พรรษา ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๔๕๙ บิดาชื่อนายเหนี่ยง ทองฟู มารดาชื่อนางแจ๋ว ทองฟู ท่านมีพี่น้องร่วมบิดา-มารดากันเป็นชายทั้งหมด

โดยท่านเป็นคนกลาง ในวัยเด็กท่านศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนประชาบาลวัดยางมณี จนจบชั้น ป.๔ ท่านได้รับเมตตาจาก ท่านเจ้าคุณรัตนมุนี อัตทัสสีมหาเถระ วัดชีโพน ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในสมัยนั้น และเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ รับท่านเข้าไว้เป็นศิษย์ในสำนักเรียนของวัดชีโพน โดยได้ศึกษาพระปริยัติธรรม และกรรมฐานจากพระอาจารย์โดยละเอียดชัดแจ้ง

ต่อมาเมื่อท่านอายุครบบวช จึงได้เข้ารับการอุปสมบท ณ วัดยางมณี เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๔๘๑ โดยมีหลวงพ่อปลื้ม วัดช้าง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อชวน วัดยางมณี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อแทน วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากท่านอุปสมบทแล้ว ท่านได้เดินทางมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ

และศึกษาวิชาธรรมกายจาก หลวงพ่อสด หรือ ท่านเจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรี จนท่านบรรลุวิชาเข้าถึงดวงธรรมกาย และได้รับการยืนยันรับรองจากปากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ว่า “แสงแห่งพระธรรมกายนั้น ถ้าหยุดถูกที่แล้วจะสว่างไสวยิ่งกว่าพระอาทิตย์สักร้อยดวงมารวมกัน ถ้าใครยังไม่เชื่อให้ถามพระจากอ่างทององค์นี้ดู เพราะท่านสำเร็จธรรมกายขั้นสูงสุดแล้ว” พูดพลางหลวงพ่อสดก็ชี้มือมาที่หลวงปู่ผาด ซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระหนุ่มอยู่

นอกจากนี้หลวงปู่ผาด ยังเรียนวิชาสำคัญจากพระเกจิสายอ่างทอง เช่น เรียนทำผงวิเศษจากหลวงพ่อภู วัดดอนรัก เรียนทำเบี้ยแก้ เสกปรอท จากหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ เรียนทำตะกรุดโบสถ์ลั่นจากหลวงปู่คำ วัดโพธิ์แก้ว

ในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ และตั้งสำนักอบรมวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางวิชาธรรมกายของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ

อย่างไรก็ตาม แม้ทุกวันนี้หลวงปู่จะมีอายุกาลเข้าวัยชราภาพมากแล้ว แต่ท่านก็ยังคงอารมณ์อยู่ในวิปัสสนาญาณชั้นสูงอยู่ทุกขณะจิต ฉันอาหารได้มาก และดี ยังแข็งแรง มีความจำดีเลิศ ไม่หลงลืม ไม่ยินดียินร้ายในสมบัติของโลกทุกชนิด ไม่ยึดติด ไม่สะสม จำวัดกลางศาลาใหญ่ใกล้เมรุเผาศพ

เมื่อคราวน้ำท่วมอ่างทองครั้งใหญ่น้ำเอ่อล้นท่วมทุกที่ แต่ที่ศาลาใหญ่ ที่ท่านจำวัด ซึ่งสูงกว่าพื้นถนนไม่ถึงฟุต สายน้ำกลับวกไปไม่ท่วมถึง เคยมีพระสงฆ์ผู้รู้ทางในบอกไว้ในหมู่นักปฏิบัติหลังจากมากราบหลวงปู่ผาดว่า “พระอรหันต์นั้นหาไม่ยาก ในยุคนี้หาก อยากกราบพระอรหันต์ก็ต้องรีบไปกราบหลวงปู่ผาด ที่วัดไร่ อ่างทองให้ได้เชียว”

ในด้านการปลุกเสกพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง หลวงปู่นั่งอธิษฐานจิตแบบลืมตาเสก คือว่าคาถาเป่าไปเรื่อย ๆ ซึ่งผู้รู้บอกว่า การลืมตาเสกเป็นการเสกแบบเปิดโลก แบบเดียวกับ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก คือ เปิดหนทางทุกอย่าง เปิดโภคทรัพย์ เปิดทางชีวิต มีอภิญญาจิต คุณวิเศษ ผู้หยั่งรู้วาระจิตคน เล่ากันว่า แม้แต่เทวดา ยังมาฝากตัวเป็นศิษย์และกระแสจิตท่านเทียบเท่า ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต พระอรหันต์กลางกรุงแห่งวัดเทพศิรินทร์ฯ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : komchadluek.net
รูปภาพสวยๆจาก : TNews
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: