1112. อภินิหารของหลวงปู่จอน สิริจนฺโท

อภินิหารของหลวงปู่จอน สิริจนฺโท
เมื่อหลวงปู่จอนท่านยังมีชีวิตอยู่ ประชาชนได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ ของท่าน คือ

1. ครั้งหนึ่งไปสร้างวัดที่จังหวัดชัยนาทเรียกว่าวัดสระเนินพระราม ในตอนแรกเป็นการยากที่จะสร้างวัดให้สำเร็จ เพราะประชาชนทั้งสองหมู่บ้านเกิดความแตกแยกมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอ หลวงปู่จอน จึงไปขอให้ทั้งสองหมู่บ้านนี้สามัคคีกันแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ บังเอิญชาวบ้านได้ถางป่าไม้ไผ่ไว้แล้ว เจ้าของป่าไผ่ได้จุดไฟเผาป่า ไฟได้ลุกไหม้ป่าอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นเช่นนี้เพราะเจ้าของป่าไผ่ได้ชักชวนชาวบ้านไปจุด หลวงปู่จอนจึงได้เดินลุยไฟให้ชาวบ้านได้เห็นด้วยสายตาตัวเองว่าไฟนั้นไม่สามารถเผาใหม้ หลวงปู่จอน ได้เลย ดังนั้นทั้งสองหมู่บ้านก็เกิดความนับถือ เลื่อมใสในตัวของหลวงปู่จอน จึงทำให้ทั้งสองหมู่บ้านสมัครสมานสามัคคีต่อกันช่วยกันสร้างวัดจนสำเร็จ ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่จอน เลื่องลือไปไกล มีผู้คนมาบนบานสานกล่าว ขออะไรก็ได้ดังใจทุกประการ
เมื่อหลวงปู่จอน ได้สร้างวัดสระเนินพระราม จังหวัดชัยนาท แต่เจ้าคณะตำบลไม่อนุญาตให้ร้าง หลวงปู่จอน จึงได้แสดงอภินิหารให้เจ้าคณะตำบลเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้น เจ้าคณะตำบลจึงเกิดสำนึกขึ้นได้ พออนุญาติให้สร้างวัดได้ อาการเจ็บป่วยก็หายทันที

2.ครั้งหนึ่งหลวงปู่จอน ได้จัดงานที่วัดดอนรวบ ได้มีคนมารังแกมโนราห์ หลวงปู่จอนได้ไปห้ามปรามแต่ก็ไม่ฟัง ท่านจึงได้เอาไม้เท้าตี บุคคลนั้นโกรธจึงได้กลับบ้านไปเอาปืนแก๊ปมายิงหลวงปู่จอน ท่านก็ให้ยิงแต่ยิงไม่ออก ทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ตกตะลึง และเกิดความเลื่อมใส ศรัทธาหลวงปู่จอนเพิ่มมากขึ้น

3.ครั้งหนึ่ง กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ได้ฟังเกียรติศัพท์ในอภินิหารที่ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่จอน จึงได้มาที่วัดดอนรวบ เมื่อมาถึง กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ได้ขอเสวยหมาก แต่บังเอิญหมากหมด หลวงปู่จอน ได้บอกให้กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ไปเก็บหมากโดยบอกว่าได้ใช้เด็กไปขึ้นให้แล้ว แต่เมื่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ไปถึงไม่เห็นเด็กขึ้นต้นหมาก มีแต่กรรไกรหนีบหมากของหลวงปู่จอนได้ขึ้นไปตัดหมากอยู่บนต้นแล้ว กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ได้เห็นอภินิหารอย่างนั้น จึงกลับมาที่กุฏิของหลวงปู่จอน และขอฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่จอน

4.ครั้งหนึ่งหลวงปู่จอน กับ ญาติโยมได้ไปตัดไม้ที่ภูเขาบ้านบ่อคา อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ไม้หักจะล้มทับหลวงปู่จอน ญาติโยมบอกให้หลวงปู่จอนหลบ แต่ท่านไม่หลบและไม้นั้นก็ไม่ได้ถูกตัวท่านเลย

5.ครั้งหนึ่งหลวงปู่จอน กับคณะกรรมการวัดดอนรวบ ได้ไปบรรทุกไม้ที่ภูเขา บ่อคา อำเภอสวี จังหวัดชุมพร มีโยมรื่น คงนาสร นายเปลี่ยน นุ่มลืมคิด และพระภิกษุ สามเณร หลายรูปไปด้วยกัน ขณะกำลังจะออกไปป่า แม่หัวโพงพาง เขาตะเข้ ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร บังเอิญลมพายุได้พัดเรือจมลงทะเลลึก แล้วหลวงปู่จอนได้พูดว่า “อย่าทิ้งเรือ เรือไม่จม” แล้วท่านก็ได้ใช้ผ้าเหลืองผูกกับไม้ต่อเรือโบกเป็นสัญญาณจนเรือที่ลากอวนมาเห็นเข้า จึงได้มาช่วยเมื่อทุกคนได้ขึ้นจากเรือ เรือก็จมหายไปเลย อภินิหารอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความเชื่อมั่น เคารพนับถือ ศรัทธา เป็นอย่างมาก ว่าท่านมีวาจาสิทธิ์ พูดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

6.ครั้งหนึ่ง นายหอม ย้อยพลรบ ได้พบเห็นหลวงปู่จอน กำลังนั่งสมาธิอยู่ที่ถ้ำเขาย้อย หมู่ที่ 6 ตำบลตากแดด อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร มีใบไม้หล่นทับถมเต็มไปหมด ท่านมีผมยาวและหนวดเครารุงรัง จึงได้นิมนต์มาดูพื้นที่สร้างวัดดอนรวบ เมื่อท่านมาแล้วเกิดความพอใจ จึงได้สร้างวัดดอนรวบขึ้น

7.ครั้งหนึ่งหลวงปู่จอน ได้เดินทางไปกับญาติโยมหลายคนเพื่อไปหาไม้มาสร้างวัด แต่ท่านได้บอกให้ญาติโยมเดินทางไปก่อน ญาติโยมได้เดินทางไปแล้วได้เหลียวหลังดูว่าท่านมาหรือยัง แต่ก็ไม่เห็น เมื่อไปถึงจุดหมาย ก็ได้เห็นหลวงปู่นั่งรออยู่แล้ว
ในบางครั้งมีญาติโยมมานิมนต์ไปสวดงานต่างๆ ท่านได้บอกว่าให้ไปก่อน แต่เมื่อญาติโยมไปถึงงาน ก็เห็นหลวงปู่จอน นั่งอยู่ที่บ้านงานแล้ว

8.ครั้งหนึ่งนายสี ยอดภุมรินทร์ ไปงานศพของ นายมี จอกถม ต่อมาเมื่อกลับถึงบ้านพบว่า มีคนแอบเข้ามาขโมยควาย ที่เลี้ยงไว้จนหมด นายสีไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้เข้าไปบนบาน รูปหล่อหลวงปู่จอน ในวัดดอนรวบ ว่าให้ควายที่ถูกขโมยไป กระโดดกลับมาเข้าคอกเอง ถ้าควายมากระโดดเข้าคอกจะถวายทอง 8,000 แผ่น แล้วควายก็มาเข้าคอกเองอย่างน่าอัศจรรย์

9.ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ใหม่ ยอดภุมรินทร์ เล่าให้นายสี ฟังว่าหลวงปู่จอนไปบิณฑบาตจากต้นตะเคียนพร้อมกับพระสงฆ์หลายรูป ปรากฏว่าหลวงปู่จอนได้ข้าวมาเต็มบาตร แต่พระภิกษุรูปอื่นไม่ได้เลย

ทั้งหมดทั้งหลายที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ในอภินิหาริย์ อันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ จึงทำให้เป็นที่พึ่งของบุคคลทั่วไป เมื่อประชาชนมีความเคารพ นับถือ เลื่อมใส ศรัทธา เมื่อเกิดการเจ็บป่วย ของหาย สอบแข่งขันเรียนต่อ ประกอบอาชีพการงาน สมัครงาน หรือต้องการสิ่งใดก็ตาม ก็ได้มาบนบานสานกล่าว ออกชื่อให้สำเร็จในงานนั้นๆทุกประการ

สิ่งที่หลวงปู่จอนชอบคือ ทอง ลูกประทัด ปืน มโนราห์ หนังตะลุง ในการปิดทองนั้น มีผู้มาบน และปิดทองตั้งแต่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ โดยในปัจจุบัน มีผู้มาเช่าเหรียญ รูปเหมือน และมีผู้มาปิดทอง จุดประทัด แก้บนเป็นประจำที่วัดดอนรวบ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : loungpujorn.blogspot.com
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : สองหัดส่อง และ Trueamulet
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji