6201. พระพุทธรูปเจ้าชู้ โดนฟันมือขาด พูดไปใครจะเชื่อ แต่นี่คือเรื่องจริงครับ…. !!!

พูดไปใครจะเชื่อ แต่นี่คือเรื่องจริงครับ…. !!!

พระพุทธรูปองค์นี้ ข้อมือด้านขวา ได้ถูกตัดออกไป จนกลายเป็นพระมือขาด แต่ที่อนาถกว่านั้น ก็คือ องค์พระถูกมัดเอาไว้กับเสาหลักทางด้านหลัง

ที่สำคัญเบื้องบนศรีษะก็ยังถูกตอกตรึงด้วยดาบ ทะลุลงมาจากหัวจนถึงพื้น !!!
ทำไม ? และใคร คือผู้ที่ลงมือกระทำเช่นนี้ กับพระพุทธรูป เพราะอะไร ?

นั่นคือปริศนา ที่ผมจะนำมาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกัน เผื่อว่าท่านที่ได้มีโอกาสเดินทางมายังวัดพระมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช จะได้ลองไปสังเกตดู หรือคนที่อยู่ในจังหวัดแห่งนี้ และมาที่วัดบ่อยจะยังไม่สังเกตเห็o
“พระมือขาด” ท่านอยู่ตรงไหน ?

อธิบายง่ายๆ ก่อนที่จะถึงพระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตตไตรย เราสังเกตทางด้านขวามือเอาไว้ จะเห็นพระพุทธรูปองค์หนึ่งถูกผูดมัดด้วยจีวรสงฆ์กับเสาหลักไม้ทางด้านหลัง และที่ข้อมือของพระพุทธรูปองค์นี้ ขาดหายไป แถมข้างบนศรีษะที่เราคิดว่าเป็น “ชฎา” สวมอยู่นั้น ก็หาใช่ไม่

หากแต่ที่โผล่ขึ้นไป เป็นยอดแหลมเหนือหัวนั้น ก็คือ “ด้ามดาบ” นั่นเอง

ใครนะช่างกล้าทำกับพระพุทธรูปอย่างนั้น….
เชื่อกันว่า ในอดีตที่ผ่านมา พระพุทธรูปดังกล่าวนี้มีชีวิตจริงๆ สามารถที่จะเดินไปไหนมาไหนได้เหมือนคน ที่เป็นเช่นนั้น ก็เล่ากันอีกนั่นล่ะว่า เนื่องจากได้บารมีความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระศรีอาริยเมตตไตรยที่อยู่ใกล้ๆกันช่วยชุบชีวิตให้พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวนี้มีชีวิตและแอบหนีออกไปจากที่นี่เป็นประจำ

ไม่มีใครรู้ว่าพระหนีไปไหน….
จนกระทั่งคืนหนึ่ง ตาเฒ่าคนหนึ่งวึ่งมีบ้านอยู่แถวย่านนั้น ได้ยินเสียงผู้ชายกำลังพูดคุยอยู่กับลูกสาวในห้อง ก็เลยทำให้เกิดความสงสัยว่ามีผู้ชายที่ไหน แอบมาปีนเรือนของตนเองหรือเปล่า จึงได้ไปยืนแอบเฝ้าอยู่ที่บันได

จนเวลาล่วงไป จึงได้มีคนเดินทางมา แต่ทว่า เมื่อแกเห็นแล้วก็ตกใจจนเกือบเป็นลม เพราะผู้ชายที่เดินลงมาจากห้องของลูกสาวนั้น ไม่ได้เป็นผู้ชายธรรมดา

หากแต่ว่าเป็นพระภิกษุ !!!

ผู้ชายปีนห้องลูกสาว ไม่เท่าไหร่ เพราะอย่างดีก็แค่ได้ลูกเขย แต่นี่เป็นพระแท้ๆ แต่กลับมาทำเช่นนี้ มีหรือที่ตาลุงจะทนอยู่ไหว อีดาบที่ถืออยู่ในมือก็เลยฟันฉับออกไป โชคดีที่พระองค์นั้นไหวได้ยินเสียง ไหวตัวทัน เลยยกแขนขึ้นมากันคมดาบเอาไว้ จนทำให้คมดาบที่ฟันลงไปอย่างแรงนั้น ตัดเอาข้อมือของพระที่ยกขึ้นมากันเอาไว้ ขาดกระเด็นลงกับพื้น ก่อนที่จะหนีไป

ตาลุงคนนั้นแกยังแค้นไม่หาย ก็เลยได้เดินตามหยดเลือดที่หยดเป็นทางมาจนกระทั่งถึงวัดพระมหาธาตุฯ แล้วพบว่า รายเลือดนั้น หายเข้าไปในระเบียงคดของวิหาร ครั้นเมื่อตามไปถึง จึงพบว่า รอยเลือดที่ตนเองติดตามมานั้น หยดมาถึงพระพุทธรูปองค์หนึ่ง แล้วก็ขาดหายไป

มองไปทางไหนก็ไม่มี จะว่ามีใครแอบอยู่แถวไหนก็ไม่น่าจะใช่

ตาลุงมองไปที่แขนของพระพุทธรูปแล้วก็ตกใจ….เอ๊ะ…. ทำไมแขนพระพุทธรูปจึงได้ขาดหายไปหว่า ก็เลยเดินเข้ามาดูใกล้ๆ พบว่า รอบแขนกระที่งมองเห็นนั้น เหมือนกับเพิ่งโดนตัดใหม่ๆ

ถึงตอนนี้ ตาลุงก็เลยหายสงสัย แกมั่นใจว่า พระภิกษุที่แกเห็นและติดตามมานั้น น่าจะเป็นพระพุทธรูปองค์นี้แน่ๆ ที่เกิดมีชีวิตเข้ามา แล้วแอบหนีออกไปหาสีกาซึ่งเป็นลูกสาวแก

เป็นพระถือศีลแต่ไปปีนขึ้นบ้านหาลูกสาว ถือว่าปาราชิก ผิดบาปมหันต์ไม่อาจจะให้อภัยได้ ตาลุงก็เลยตัดสินใจที่จะล้างอาถรรพณ์ไม่ให้พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวนั้นมีชีวิตขึ้นมาใหม่ ด้วยการมัดล่ามท่านเอาไว้กับเสาหลักอย่างแน่นหนา

ส่วน “ดาบ” ที่ตนเองถือติดมือมาก็ปักตอกลงไปบนเศียรพระจนกระทั่งทะลุถึงพื้นข้างล่าง เรียกว่าทั้งตอก ทั้งตรึง เอาไว้อย่างนี้ ถ้าพระพุทธรูปยังมีชีวิตฟื้นขึ้นมาใหม่ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วเหมือนกัน หลังจากที่แกทำพิธีตอกพระเสร็จแล้วนั้น ก็กลับไปบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมา

และหลังจากนั้นก็ปรากกว่าไม่มีใครที่ไหนมาปีนบ้านของแกอีกต่อไป และพระพุทธรูปมือขาด ที่ถูกดาบตรึงเอาไว้นั้น ก็เลยได้ชื่อใหม่ ว่าเป็น “พระเจ้าชู้” นับแต่นั้นมา

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : OKnation
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : TNews
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: