593. การคัดถอนของในสมัยก่อน

ยังมีวิชาอีกแขนงวิชาหนึ่ง ซึ่งเป็นวิชาที่เป็นอริวิชาประเภทนี้ นั่นคือ วิชาคัด ซึ่งใช้สำหรับถอนของแก้คนที่อยู่ยงคงกะพัน ทำให้อาถรรพ์นั้นเสื่อมคลายไป ส่วนของจำพวกมีดอาคม เทพศาสตราวุธ จะทำให้อาคมที่คุ้มตัวถูกแหวกออกจนสามารถฟันเข้าได้แต่ของไม่เสื่อม ว่านบางครั้งก็ใช้ว่านบางชนิดลูบคมแล้วฟันก็มี เพื่อจะได้ทำอันตรายได้ตามที่มุ่งหมายไว้ แม้แต่การนั่งแผ่นไม้กระดานแผ่นเดียวกัน ผู้ที่มุ่งหมายทำการคัดของเพียงวางฝ่ามือบนแผ่นไม้ยังสามารถกระทำได้เลย

การคัดของนี้กระทำกันเป็นหลายอย่างหลายวิธี ใช้ทั้งคาถาคัดบ้าง ใช้สิ่งของที่เป็นอัปมงคลกระทำให้เสื่อมบ้าง เช่น ใช้ผ้าเลือดผู้หญิงลูบคมอาวุธเสียก่อนแล้วจึงแทงฟัน หรือไม่ก็ให้ผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือนข้ามอาวุธเสียก่อน บางทีก็พยายามให้ผู้หญิงนั้นแกล้งทำทาทางข้ามตัวผู้ที่อยู่คงนั้นให้เสื่อมเสียก่อน แล้วจึงฟันแทงเอา หรือแกล้งเอาผ้าที่มีประจำเดือนนั้นผูกศีรษะและร่างกายผู้นั้นเสียก่อนก็มีการทำประเภทนี้ เป็นเหตุให้ผู้ถูกแกล้งนั้นบังเกิดอุปทานว่า เมื่อถูกกระทำเช่นนี้แล้วความขลังก็จะเสื่อมความขลังไป และถ้าหากยึดถืออุปทานตามนั้นก็อาจจะเป็นไปได้จริง เพราะทำให้เสื่อมสมาธิไป แต่ถ้าเราไม่ยึดถือเสียเลย โดยถือว่าทองคำแม้จะตกน้ำจมโคลนก็ยังเป็นทองคำอยู่นั้น เมื่อสมาธิเราไม่เสื่อมการกระทำดังกล่าวก็จะไม่ผลิตผลอันใด

แนวทางป้องกันในสมัยก่อน
๑. การถูกคัดด้วยเวทย์มนต์ให้ใช้คาถาผูกหรือกรึงเอาไว้แต่ละอาจารย์แต่ละสำนักจะมีคาถาเฉพาะ หรือเพราะส่วนใหญ่จะใช้น้ำมนต์ถอนก็ขอแค่หลบอย่าให้ถูกตัวก็พอ แต่หากเป็นพวกทนสิทธิ์ ตะปูสังฆวานร กายสิทธิ์ของดีแต่ธรรมชาติก็ขอท่านช่วยกันคัดถอนให้ก็เป็นอันปลอดภัย

๒.หากถูกแกล้งด้วยของต่ำ ก็อย่าอุปทานไปเองแค่คิดว่าทองคำก็ยังเป็นทองคำอยู่วันยังค่ำ นอกจากทางสำนักจะห้ามจริงๆ

๓.มีดอาคมทั้งหลาย ให้หลบเอา

๔.รางยาก็ต้องหลบเอาเช่นกัน นอกจากจะมีพญาว่านที่ไม่แพ้ว่านใดๆเช่นไพรดำ

สำหรับพวกที่ขลังด้วยแรงว่านยานั้น วิธีคัดค้านด้วยการใช้ว่านยาเหมือนกัน เช่นเอาเปราะซึ่งเป็นพันธุ์ไม้จำนวนว่านชนิดหนึ่งมาทาตรงที่ดาบคมมีดเสียก่อน แล้วจึงฟังแทงเอา ถือคติว่าว่านยานั้นจะเสื่อมแรงขลังไป ทั้งนี้เห็นจะอาศัยเพราะนามชื่อคำว่า “เปราะ” นั่นเอง บางทีก็ใช้ขี้ไก่ทาเสียก่อน ถือคติว่าขี้ไก่นั้นหากบินข้ามต้นว่านยาที่มีฤทธิ์แล้วจะตายหมด ฉะนั้นเขาจึงเอาขี้ไก่เป็นเครื่องปราบว่านยานั้นให้เสื่อมคลายไป

การอยู่คงยงคงกระพันชาตรีตามที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากอาคมเวทมนต์ทำให้เป็นไป ยังมีสิ่งที่ทำให้อยู่คงได้โดยไม่ต้องใช้คาถาอีกด้วย เราเรียกของจำพวกนี้ว่าพวก “ทนสิทธิ์” ได้แก่ พวกคต พวกแร่ พวกเขี้ยวงา และ ว่านยาทั้งปวง ที่มีคุณสมบัติทำให้อยู่คงได้ ซึ่งการอยู่คงนี้มีหลายประการ การอยู่คงกระพันด้วยว่านและยานั้น ได้แก่พรรณไม้ที่เป็นเครื่องยาต่าง ๆ บางทีก็ใช้รากยานั้นมาเสกกิน เอามาเสกเข้าแล้วจึงกินเข้าไปทำให้เนื้อหนังอยู่คง คาถาที่เสกนั้นก็ใช้ตามบทคาถาต่างๆ ที่ท่านบังคับไว้

เพราะเหตุที่การอยู่คงกระพันชาตรีนี้มีการถอนแก้คัดกันตามที่กล่าวมานั้นแล้ว ฉะนั้นท่านจึงได้วางวิธีกันในการที่เขาจะถอนแก้ไว้ เช่น จะอาราธนาพระหรือเครื่องรางเพื่อนำติดตัวไปด้วย เมื่ออาราธนาแล้วให้ใช้คาถาผูกเสีย ด้วยคาถาผูก จะเป็นบทใดบทหนึ่งก็ได้..

เรื่องเล่าชาวสยาม
แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: