539. เปิดตำนานตะกรุดมหาระงับ หลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโข

หลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโข ท่านเป็นเกจิอาจารย์ตั้งแต่อายุยังน้อย เรียนวิชาสักสายหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า จากหลวงพ่อจำปา วัดสาลีโข ต่อมาหลวงปู่เผือก อดีตเจ้าอาวาสองค์แรก ได้มาประทับทรงท่าน สร้างบารมี ทำให้ตอนนั้นชื่อเสียงโด่งดังไปไกล และหลวงปู่เผือก ยังได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆให้อีก ทำให้หลวงพ่อสมภพได้ทำตะกรุดตำหรับวัดประดู่ทรงธรรมอีกหลายชนิด แต่วันนี้จะแนะนำแค่ตะกรุดมหาระงับ

ตะกรุดโทนมหาระงับ สร้างขึ้นตามตำราพิชัยสงคราม ซึ่งเก็บรักษาไว้ที่ วัดประดู่ทรงธรรมจ.พระนครศรีอยุธยา แต่หลวงพ่อสาลีโข ท่านได้วิธีการสร้าง มาจากดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ผู้เป็นครูท่าน คือ หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข ท่านเป็นพระในสมัยอยุธยาตอนปลาย ย่อมต้องได้สืบทอดพุทราคมมาจากตำรับเก่าวัดประดู่ฯอยู่แล้ว

ตะกรุดโทนมหาระงับตามตำราว่า ระงับเหตุเภทภัยทุกเรื่อง สำคัญคือนำตะกรุดแช่น้ำแล้วดื่มมิพบพานความยากจนเลยครับ ตะกรุดโทนมหาระงับต้องใช้แผ่นทองแดงหนาจารอักขระลงแผ่น ที่มีความยาวถึง ๙ นิ้ว กว้าง ๗ นิ้ว เพราะประกอบด้วยพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ และอักขระวิเศษมากมาย ถ้าแผ่นเล็กจะลงไม่พอ ยันต์ที่ลงนั้นจำต้องลงกำกับทั้งด้านหน้าและด้านหลังเต็มแน่นหมด โดยหลวงพ่อกำหนดฤกษ์ยามมงคลในการลงทุกขั้นตอน ครั้นม้วนแล้วเสร็จก็ถักด้วยด้ายสายสิญจน์ที่ผ่านการปลุกเสกมาแล้วอย่างดี คลุกด้วยน้ำรักแท้ดำสนิท จากนั้นก็พอกผงวิเศษมหาระงับลงไปบนด้ายอีกที โดยผงมหาระงับนั้นประกอบด้วย ผงพุทธคุณ ๒ ชนิด คือ ผงปถมัง และ ผงมหาราช

ซึ่งวิธีการเขียนและเสกผงนี้ กว่าหลวงพ่อสาลีโขจะเรียนจำทำเป็นจนชำนิชำนาญ ท่านใช้เวลาศึกษาถึง ๑๗ ปีเต็ม คิดดูก็แล้วกัน นี่เฉพาะการทำผงวิเศษ ๕ ประการเท่านั้นนะครับ และต้องหาใบไม่รู้นอน ๗ สิ่งมาบดผสมลงไป ได้แก่ ใบชุมแสง, ใบสมี, ใบระงับ, ใบหิงหาย, ใบกระเฉด, หญ้าใต้ใบ และใบกระถิน ผสมกับไม้งิ้วดำ ผงคัมภีร์ใบลานของวัดสาลีโข ผงพระประธานองค์เก่าในโบสถ์วัดสาลีโข ยังมีว่านวิเศษที่ท่านเลี้ยงไว้ด้วยน้ำมนต์ในสถานที่เฉพาะ แล้วล้อมสายสิญจน์เป็นปริมณฑล ห้ามสตรีเพศเข้าโดยเด็ดขาด เพื่อนำมาทำตะกรุดโทนโดยตรง ประกอบด้วยว่านมหาจักรพรรดิ, พญาว่าน, จ่าว่าน, ว่านมหาปราบ, ว่านมเหศวร, ว่านมหาระงับ, ว่านพญาหอกหัก, ว่านสามพันตึง, ว่านชมภูหนังแห้ง และว่านเพชรน้อย ว่านเพชรใหญ่ นำของทั้งหมดมาประสมเข้ากับ ผงมูลกัจจายน์, ผงตรีนิสิงเห, ไคลเสมา, เกสรศรีมหาโพธิ์, ชันโรงใต้ดิน, ดินสอกำบัง, รังหมาล่า, ใบไมยราพ, ดอกรักซ้อน, ผงมหาฤาษีจากในถ้ำ, วัตถุสารมงคลต่าง ๆ ที่มีฤทธิ์เป็นทนสิทธิ์อยู่ในตัว และดินศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่มงคลนานา ผนวกด้วยแร่ทรงคุณ ๙ ชนิด สรรพมวลสารมงคลทั้งหมดถูกคลุกคลีด้วยน้ำรักบริสุทธิ์จนเหนียวตัว แล้วปรุงด้วยเครื่องหอมทั้ง ๙ คือ จันทร์ขาว, จันทร์แดง, กฤษณา, กลำพัก, ขอนดอกชะมด, พิมเสน, อำพันทอง และน้ำมันหอมชั้นดี จึงนำผงวิเศษที่ปรุงแล้วชะโลมทาลงบนด้าย พอกพูนจนหนาแล้วลงรักทับ รักชั้นที่ ๑ แห้ง ก็ลงชั้นที่ ๒ ทับอีกเพื่อความคงทน เมื่อผงต่าง ๆ แห้งสนิทเกาะตัวแน่นดีแล้ว จึงอธิฐานจิตปิดทองเป็นการสมโภช วาระต่อมาจึงประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกขึ้นในโอกาสต่าง ๆ นอกเหนือไปจากการปลุกเสกเดี่ยวทุกวัน ๆ โดยหลวงพ่อสาลีโขตลอดไตรมาส

อุปเท่ห์การใช้ ก่อนจะผูกหรือคล้องตะกรุด หรือพกพาไว้ส่วนใดของร่างกาย ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยก่อนเพื่อน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยโดยสวด อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน ฯ จนจบ แล้วภาวนาพระคาถาดังนี้ นะ โม พุท ธา ยะ นะ มะ ภะ ทะ จะ พะ กะ สะ มะ อะ อุ (ว่า ๓ ครั้ง) แล้วภาวนาพระคาถาบารมี ๓๐ ทิศดังนี้ “อิติ ปาระมิตตา ติงสา อิติ สัพพัญญูมาคะตา อิติ โพธิมนุปปัตโต อิติปิโส จะเตนะโม” (ว่า ๓ ครั้ง) แล้วอธิษฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าทั้ง ๓๐ ทิศมาคุ้มครอง คุณานุภาพ เมื่อปฏิบัติได้ดังนี้ จงปรารถนาเอาตามใจเถิด หากเป็นถ้อยเป็นความให้นำตะกรุดมหาวิเศษมหาระงับนี้อาราธนาลงในขันน้ำมนต์ แล้วตั้งจิตอธิษฐานขออานุภาพจงเป็นเกราะป้องกันภัยทั้งปวง จำเริญพุทธคุณห้องเดียวจนจบตามกำลังวัน แล้วเอาน้ำมนต์นั้นดื่ม ๓ ครั้ง ลูบหน้าสระหัว แล้วอาบ ความจะหาย เคราะห์ร้ายจะหมด ต้องธรณีสารก็หาย โรคภัยไข้เจ็บก็หาย นำน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดใส่ต้มยาเพิ่มสรรพคุณยิ่งนัก หรือจะนำมารดว่านทุกชนิดเพิ่มพลังสรรพคุณดียิ่ง จะค้าขาย ขอลาภ นำตะกรุดที่แช่น้ำแล้วดื่มมิพบกับความยากจน ปรารถนาสิ่งใดจะสมความปรารถนาทุกประการ ฯ การสวดพุทธคุณตามกำลังวัน คือสวดในวันใดก็ให้จำนวนจบเท่ากับกำลังของวันนั้นๆ ดังนี้ วันอาทิตย์ ๖ จบ // วันจันทร์ ๑๕ จบ // วันอังคาร ๘ จบ // วันพุธ ๑๗ จบ // วันพฤหัสบดี ๑๙ จบ // วันศุกร์ ๒๑ จบ // วันเสาร์ ๑๐ จบ

ตะกรุดมหาระงับใช้ในทางรับเสียโดยมาก คือนำออกใช้เมื่อมีเรื่องราวมีปัญหาเข้ามาถึงตัว เช่น จำต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมีคดีความต่าง ๆ หรือเมื่อต้องเคราะห์เข็ญเวรร้ายรู้สึกว่าดวงไม่ดีโชคชะตาราศีเศร้าหมองไม่
ผ่องใส เป็นต้น ก็ให้อัญเชิญออกมาใส่ในขันสัมฤทธิ์เพื่อเป็นเคล็ดว่าเรื่องที่เราตั้งความ
ปรารถนานั้นจะต้อง “สัมฤทธิ์ผล” ในขันให้ใส่ฝักส้มป่อยซึ่งคนเหนือถือเป็นไม้มงคลที่ชะล้างโรคภัยไข้เจ็บและ
เคราะห์หามยามร้ายได้ ถ้ามีใบทอง ใบนาค ใบเงิน ใส่ลงไปด้วยก็จะยิ่งดี สวดบริกรรมตามตำราแล้วดื่มกิน ล้างหน้า สระหัว อาบรดตัว เพียงเท่านี้เรื่องร้ายก็จะกลายเป็นดี เคราะห์หนักก็จักเบาบาง เคราะห์ดีก็ดีทวีขึ้นพลันทันใด

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : 25amulet
ขอขอบคุณรูปภาพสวยจาก : พระเครื่องเมืองนนทบุรี
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: