937. อภินิหารหลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ

เรื่องอภินิหารเหาะเหินเดินอากาศได้   ไม่ใช่เป็นเรือองเหลวไหลหรือเป็นไปไม่ได้   และก็ไม่ควรปฏิเสธว่าเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้  โบราณว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่ากับมือขยำด้วยมือตนเอง”  แม้แต่ในบาลีท่านก็กล่าวไว้ว่า “ อากาเส  ยนติ  อิทธิยา ” หมายความว่า ไปในอากาศด้วยฤทธิ์ ผู้ใดจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้เขียนขอเรียนว่าในอดีตครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์ก็ได้ทรงยกย่องพระมหาโมคคัลลานเถระว่าเป็นเอตทัคคะหรือเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางเป็นผู้มีฤทธิ์   สำหรับประวัติของพระมหาโมคคัลลานเถระ  นั้นปรากฏตามตำนานดังนี้

พระมหาโมคคัลลานเถระ  เป็นบุตรพราหมณ์ผู้เป็นนายบ้าน ชื่อว่า โกลิตะ มารดาชื่อนางโมคคัลลี เดิมชื่อว่า “โกลิตะ”   ตามโคตรของบิดา เหตุที่นิยมเรียกชื่อว่า “ โมคคัลลานะ ” เพราะว่าเป็นบุตรของนางโมคคัลลี ชาติภูมิของท่านอยู่ไม่ห่างจากเมืองราชคฤห์ สมัยเป็นเด็กเป็นสหายรักใคร่ชอบพอกันมากกับอุปติสสมานพ ( พระสารีบุตร ) ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันและตระกูลทั้ง ๒ มั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์และบริวารเท่าๆ กัน ประกอบกับบรรพบุรุษก็มีความคุ้นเคยสนิทสนมกันมาเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อโกลิตมานพเจริญวัยขึ้นแล้วก็ได้ไปศึกษาเล่าเรียนศิลปด้วยกันกับอุปติสสมานพ กระทั่งเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาก็บวชพร้อมกัน

เมื่อโกลิตมานพอุปสมบทแล้ว ๗ วัน ได้ไปทำความเพียรอยู่ที่บ้านกัลลวาลมุตตคาม แขวงมคธ เกิดความอ่อนใจนั่งโงกง่วงอยู่ พระบรมศาสดาเสด็จไปพบเข้าทรงสั่งสอน และแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วง ๘ ประการ และทรงสั่งสอนให้สำเนียกว่าเราจักไม่ชูงวง (คือการถือตัว) เข้าไปสู่ตระกูล จักไม่พูดคำที่เป็นเหตุให้คนเถียงกัน เข้าใจผิดกันและตรัสสอนให้ยินดีด้วยที่นั่งที่นอน อันเงียบสงัด และควรเป็นอยู่ตามลำพังสมณวิสัย

เมื่อตรัสสอนอย่างนี้แล้วพระโมคคัลลานะกราบทูลถามว่าโดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่าไร ภิกษุเชื่อว่า น้อมไปแล้วในธรรมที่สิ้นตัณหา มีความสำเร็จลุล่วงส่วนเกษมจากโยคธรรม เป็นพรหมจารีบุคคลยิ่งกว่าผู้อื่น มีที่สดุดีกว่าผู้อื่น ประเสริฐสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า โมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ได้สดับแล้วว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น เธอทราบชัดธรรมทั้งปวง ด้วยปัญญาอันวิเศษย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวงได้ เธอได้ประสบเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นสุขก็ดี  เป็นทุกข์ก็ดี มิใช่สุข มิใช่ทุกข์ก็ดี เธอพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นด้วยปัญญาเป็นเครื่องหน่าย เป็นเครื่องดับ เป็นเครื่องสละคืนในเวทนาทั้งหลายนั้น เมื่อพิจารณาเห็นดังนี้ย่อมไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ่งอะไรๆ ในโลก ไม่มีความสะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสให้สงบได้ด้วยตนเอง และทราบชัดว่าชาตินี้สิ้นแล้วพรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะทำอย่างนี้ไม่มีแล้ว ว่าโดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แล ภิกษุได้ชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมชาติที่สิ้นตัณหา ท่านพระโมคคัลลานะได้ปฏิบัติตามโอวาทที่พระบรมศาสดาตรัสสั่งสอน ก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในวันนั้น

เมื่อพระโมคคัลลานะได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วก็ได้เป็นกำลังสำคัญของพระบรมศาสดาในการดำเนินกิจต่างๆ ของพระพุทธศาสนา ที่พระองค์ทรงดำริให้สำเร็จทุกกรณี เพราะท่านเป็นผู้มีฤทธานุภาพมาก และได้รับยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า “เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางเป็นผู้มีฤทธิ์” และทรงยกย่องว่าเป็นคู่พระอัครสาวกคู่กันกับพระสารีบุตร ในการอุปการะภิกษุผู้เข้ามาบวชในพระธรรมวินัย

หลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ. เป็นพระเถระผู้มีพรรษาอายุกาลมาก รูปหนึ่งของคณะสงฆ์ไทย เป็นพระปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติควร และปฏิบัติชอบ อยู่ในระบอบสังฆคุณ อดุลเพียบพร้อมด้วยศิลาจารวัตร เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีจิตใจเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมไม่ยึดมั่นถือมั่นในลาภสักการะทั้งปวง หลุดพ้นจากบ่วงคือตัณหา จึงเชื่อว่าเป็นเหตุนำพาให้เกิดบารมีอภินิหาร ซึ่งมีผู้ประสบเหตุการณ์ ดังต่อไปนี้

ข้าพเจ้าผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักกับคุณสงวนศักดิ์  ประสิทธิเขตกิจ อยู่บ้านเลขที่ ๕๘๗ – ๕๘๙ ถนนแจ้งสนิท ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ  จังหวัดยโสธร ปัจจุบันทำงานในตำแหน่งผู้จัดการสินเชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัดยโสธรสหกิจ มอเตอร์ มีความรับผิดชอบดูแลพนักงานและติดตามหนี้สินให้กับทางห้างฯ ได้พูดคุยกันถึงเรื่องการนับถือพระ

เกจิอาจารย์ต่างๆ และแลกเปลี่ยนพระที่แขวนคอของกันและกันดู ตามประสาคนเคยเป็นเด็กวัดมาด้วยกัน และมีความเคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างสุดหัวใจ เมื่อคุณสงวนศักดิ์ ถอดสร้อยคอทองคำออกจากคอ เพื่อให้ข้าพเจ้าชม เมื่อข้าพเจ้าพบพระที่คุณสงวนศักดิ์ เลี่ยมทองคำใส่สร้อยแขวนคอติดตัวประจำที่ถอดออกมานั้น ถึงกับงงไปชั่วขณะ เพราะพระที่คุณสงวนศักดิ์แขวนอยู่นั้นเป็นพระสมเด็จและเหรียญของหลวงพ่อจ้อย   จนฺทสุวณฺโณ. วัดศรีอุทุมพรทั้งหมด ข้าพเจ้าได้สอบถามคุณสงวนศักดิ์ว่าทำไม่จึงเคารพนับถือ และ เลื่อมใสในหลวงพ่อจ้อยเพียงองค์เดียว ไม่ศรัทธาเลื่อมใสในพระเกจิอาจารย์รูปอื่นๆ บ้างหรือ คุณสงวนศักดิ์ ได้ตอบข้าพเจ้าว่าเคารพนับถือหลวงพ่อจ้อย  จนฺทสุวณฺโณ. มานานแล้ว พระสมเด็จและเหรียญของหลวงพ่อจ้อยฯ ที่ใช้แขวนคออยู่นี้ได้เคยประสบเหตุการณ์เกี่ยวกับอุบัติเหตุมาแล้วถึง ๓ ครั้ง ก่อนออกจากบ้านจะต้องไหว้พระสวดมนต์ขอพรจากหลวงพ่อจ้อยฯ เป็นประจำทุกครั้ง และได้เล่าถึงการประสบอุบัติเหตุ ให้ข้าพเจ้าฟังแต่และครั้งอย่างตื่นเต้น ข้าพเจ้าฟังแล้วก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย ตื่นเต้นในบารมี หรือ อภินิหารของหลวงพ่อจ้อยฯ ที่ทำให้คุณสงวนศักดิ์ รอดพ้นจากอันตรายมาได้แต่ละครั้ง อย่างไม่น่าคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ดังนี้

ครั้งที่ ๑ เมื่อประมาณปี ๒๕๒๔ คุณสงวนศักดิ์ ไปอยู่จังหวัดยโสธรใหม่ๆ ได้เดินทางไปทำธุรกิจที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ติดชายแดนกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาวโดยรถยนต์ส่วนตัว ขณะที่รถยนต์กำลังวิ่งไปด้วยความเร็วสูงได้ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำหลายตลบ รถใช้การไม่ได้เลยแต่ตัวคุณสงวนศักดิ์เอง ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยชาวบ้านไปมุงดูต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คนไม่น่ารอดตายมาได้เลย”

ครั้งที่ ๒  เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐ คุณสงวนศักดิ์ได้เล่าว่า ได้ขับรถจักยานยนต์ไปทำธุรกิจที่ตำบลเขืองคำ อำเภอเมืองฯ จังหวัดยโสธร ขณะที่ขับรถไปตามถนนได้มีคนอายุประมาณ ๓๐ ปี วิ่งตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด รถจักยานยนต์ที่คุณสงวนศักดิ์ได้ขับไปนั้น วิ่งเข้าชนอย่างเต็มที่ รถเสียหลักพลิกคว่ำแต่คุณสงวนศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  รถด้านซ้ายยุบลงไปแต่ไม่มีบาดแผลใดๆ ทั้งสิ้นที่ตัวคุณสงวนศักดิ์

ครั้งที่ ๓ เมื่อปลายเดือน มกราคม ๒๕๔๐ คุณสงวนศักดิ์ ได้มากราบนมัสการขอพรจากหลวงพ่อจ้อยฯ ที่วัดศรีอุทุมพร เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับจังหวัดยโสธร รถยนต์ของคุณสงวนศักดิ์ได้ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถพ่วง ๑๘ ล้อ ในท้องที่เขตจังหวัดอำนาจเจริญ รถยนต์ของคุณสงวนศักดิ์ได้ตกจากถนนลงไปข้างทาง คุณสงวนศักดิ์และครอบครัวกับไม่ได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บแม้แต่เพียงเล็กน้อย

เรื่องราวทั้งหมดที่คุณสงวนศักดิ์ ประสิทธิเขตกิจ เล่าให้ผู้เขียนฟังนี้เป็นเรื่องที่ประสบกับคุณสงวนศักดิ์เอง และมีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยทุกครั้ง พร้อมที่จะยืนยันได้ และคุณสงวนศักดิ์ยังมีความเชื่อมั่นอีกว่า เท่าที่อยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะบารมีของหลวงพ่อจ้อยฯ ท่านช่วยชีวิตเอาไว้ ทุกครั้งที่ออกไปทำธุรกิจติดต่อทุกครั้งก็อาราธนาหลวงพ่อจ้อยฯ ช่วยคุ้มครองให้เดินทางโดยปลอดภัยและประสบผลสำเร็จในการไปติดต่อลูกค้า ทุกครั้งการไปติดต่อลูกค้าจะได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้คุณสงวนศักดิ์ เชื่อมั่นว่าเป็นเพราะอภินิหารหรือเมตตาบารมีของหลวงพ่อจ้อยฯ ช่วยคุ้มครองและบัลดาลให้ประสบผลสำเร็จในอาชีพทุกประการ จึงเคารพบูชาหลวงพ่อจ้อยฯ อย่างสุดหัวใจสุดชีวิต ชั่วชีวิต

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : watsriutumpron.wequp.com
แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: