1126. ปาฎิหาริย์เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช “หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี” ปี ๓๓

ประสบการณ์ปาฎิหาริย์ “สมเด็จพระนเรศวร” ปกป้องแผ่นดินไทย โดย นายประมวล รุจนเสรี

สมัยนั้น นายประมวล รุจนเสรี ย้ายจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พวกพม่ากะเหรี่ยงมาปล้นคนไทย เอาของของคนไทยไป กำลังตำรวจไม่พอ นายประมวล รุจนเสรี จึงได้วิทยุให้กองทัพภาคที่สามมาช่วยด่วน! พอวิทยุเสร็จแล้ว ดันนึกขึ้นได้ว่าถ้าพวกทหารมาก็จะยิงพวกกะเหรี่ยง พม่าตาย เป็นบาป ใจจึงประหวัดถึงสมเด็จพระนเรศวร ขอพระนเรศวรทรงโปรดช่วยลูกช้าง ปกปักรักษาลูกให้อยู่เย็นเป็นสุขและปลอดภัย ณ บัดนี้ ก็ปรากฏว่าครึ้มฟ้าครึ้มฝน ฝนมาเป็นห่าใหญ่เลยทีเดียว

พระนเรศวรลอยขึ้นมาปรากฏองค์บนนภากาศครึ่งองค์ เทอุทกวารี พวกที่เห็นก็สเก็ตซ์รูปเก็บไว้ เมื่อเครื่องบินมาถึงพร้อมอาวุธครบมือ ก็ลงไม่ได้เลย เกิดพายุร้าย เกิดเมฆหมอก เครื่องบินกองทัพภาคที่สามต้องกลับเชียงใหม่ พอกลับเชียงใหม่แล้ว ทางพวกพม่า กะเหรี่ยงหนีหมดเลย ไม่ได้เอาข้าวของไป เอาคืนหมด และหนีเข้าพม่าไป คนไทยเลยปลอดภัย พระนเรศวรก็หายวับไปกับตา พอพระนเรศวรหายไปแล้ว ดินฟ้าอากาศก็โล่งสว่างทันที เครื่องบินลงได้ แต่พม่าได้หนีไปหมดแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นมาอย่างนี้ เลยดลบันดาลให้ นายประมวล รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัด สร้างเหรียญสมเด็จพระนเรศวรขึ้นมา ด้านหน้าเป็นรูปพระนเรศวรครึ่งพระองค์กำลังเทอุทกวารี

ด้านหลังเป็นแผนที่ประเทศไทย มีธรรมจักรอยู่ตรงกลาง และมีอักษรเขียนไว้ว่า “คนไทยรักษาแผ่นดินด้วยพุทธธรรม” ซึ่งตรงกับพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน” เมื่อนายประมวล รุจนเสรี ได้ย้ายมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ก็ได้จัดอบรมข้าราชการขึ้นที่วัดอัมพวันจำนวน ๑๒ รุ่นๆ ละ ๒๐๐ คน ตั้งแต่เจ้าเมืองไปจนถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และยังมาพิเศษอีก ท่านเจ้าเมืองบอกว่า ใครมาปฏิบัติธรรมจะแจกเหรียญสมเด็จพระนเรศวรคนละเหรียญ ในการปลุกเสกเหรียญนั้น ครั้งแรกทำพิธีที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระสังฆราช แล้วนำมาให้หลวงพ่อจรัญอธิฐานจิตอีกครั้งหนึ่ง

“เหรียญสมเด็จพระนเรศวร” ดังถึงสหรัฐอเมริกา

พอเสร็จการอบรมรุ่นที่ ๑๐ ขณะนั้น ข้าราชการทหาร กรมแผนที่ทหารกองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ยังอบรมอยู่ในตอนเช้าวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ อาตมาได้เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ขอเหรียญสมเด็จพระนเรศวรจากผู้ว่าราชการจังหวัดไป ๑ กำ เอากลัดติดย่ามไว้ ๑ เหรียญ นอกนั้นใส่ห่อพลาสติกไว้ ไปถึงสนามบินดอนเมือง กงสุลและแขกผู้ใหญ่มาต้อนรับ ก็แจกเขาไปเหลืออยู่ไม่เท่าไหร่ เดินทางจากดอนเมืองสองโมงเช้า แวะเติมน้ำมันที่เมืองโซล ๔๕ นาที และบินข้ามมหาสมุทร ๑๑ ชั่วโมง

ถึงลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันเดียวกันนั้นเอง คือ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ ที่เมืองไทยเป็นเวลากลางวัน แต่ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลากลางคืน มีลูกสาวของครอบครัวหนึ่งที่ลอสแองเจลิส พ่อเป็นชาวอเมริกัน เป็นนักประวัติศาสตร์ แม่เป็นคนจีนอยู่ในเมืองไทยที่เยาวราช ฐานะร่ำรวยมหาศาล เขาฝันว่ามีพระสงฆ์แห่งประเทศไทยมาที่บ้านเขา มีเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมา ๑ เหรียญ รูปร่างอย่างนั้นๆ ติดย่ามมาเพียงเหรียญเดียว และได้ให้แก่เขา เขาดีใจมาก

ขณะฝันอาตมาขึ้นเครื่องบินแล้วนะ ไปดอนเมืองก็เหลือสัก ๑๐ เหรียญ พอไปผ่านกงสุลก็แจกหมดเลย เหลือติดย่ามเพียงอันเดียวเมื่ออาตมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เหลืออีก ๒ วัน ก็จะกลับแล้ว มีด็อกเตอร์คนหนึ่ง มีภรรยา ๓ คนมีชู้หมด เขาบอกว่าจะมีอีกคนหนึ่ง อาตมาบอกว่า อย่ามีนะ ถ้ามีก็มีชู้อีกนะ คุณมีกฎแห่งกรรมกาเมสุมิจฉาจารมา คุณเป็นด็อกเตอร์ก็จริงนะ คุณก็เป็นคนดีด้วย ทำไมภรรยามีชู้ เพราะกาเมสุมิจฉาจารติดมา ๖๐ เปอร์เซ็นต์ อย่าลืมนะ นั่งกรรมฐานจึงจะรู้ เขาอาสาขับรถพาอาตมาไปเที่ยว ตอนนั้นพวกที่ติดตามก็ไปกันคนละทาง โยมอำนาจ สุนีย์ วิบูลพร ดร.กิ่งแก้ว ก็ไปกันคนละทาง

เขาบอกว่า หลวงพ่อไปเที่ยวกับผม อาตมาก็ไปด้วย รถผ่านขึ้นไปบนภูเขา มีบ้านที่อยู่อาศัยมากมาย จำไว้นะที่อเมริกาถ้าใครอยู่บนยอดเขาเป็นเศรษฐีนะ แต่ถ้าคนไทยอยู่บนยอดเขา ถือว่าไปแย่งลิงอยู่ คือจนที่สุด ไม่มีที่อยู่ ที่บนภูเขามีดอกไม้ปลูกไว้สวยงามมาก รถได้แล่นถึงหน้าบ้านใหญ่โตหลังหนึ่ง ด็อกเตอร์ที่เป็นคนขับรถก็บอกว่า หลวงพ่อแวะบ้านนี้ไหม หิวน้ำไหมครับหลวงพ่อ เดี๋ยวแวะบ้านนี้ เจ้าของบ้านใจดีจังเลย เขาชอบกับผม มีลูกสาวสวยด้วย

นี่เทวดาเข้าดลบันดาลใจคนขับแล้ว อาตมาก็บอกว่า แวะเป็นแวะ ไม่มีลูกศิษย์ตามมาด้วย สบายมาก เขาก็แวะจอดหน้าบ้าน บีบแตรแป๊นๆ ลูกสาววิ่งออกมาเลย บอกว่า “นิมนต์เจ้าค่ะ” ด็อกเตอร์ก็แปลกใจถามว่า “หลวงพ่อรู้จักเขาเหรอ” อาตมานึกจะตู่เสียแล้ว ไม่รู้จักเลยนะ ทำไมมาเรียกถูกต้อง เขากล่าวว่า “หลวงพ่อคะ หนูดีใจมาก นิมนต์ค่ะหลวงพ่อ” เขาพูดจาทักทายกันเหมือนคนรู้จักกันมาตั้ง ๑๐ ปี อาตมาก็เข้าไปในบ้าน อันดับแรกพบรูป จอมพล ป.พิบูลสงครามก่อน

รูปบานใหญ่มาก ในประเทศไทยตามสำนักงานต่างๆ อาตมาดูมาหลายแห่งแล้ว ไม่มีรูปจอมพล ป.พิบูลสงครามเลย พ่อของเขาเป็นนักประวัติศาสตร์ สะสมรูปบุคคลสำคัญไว้ มีรูปพระนเรศวร และพระเจ้าตากสินด้วย พออาตมาเห็นรูป จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็นึกถึงบรรพบุรุษของไทย และพ่อของเขาส่งภาษาบอกกับอาตมาว่า “ผู้บริหาร ผู้บริการ และนักปกครองที่ดียิ่ง ไม่มีใครเกินจอมพล ป.พิบูลสงคราม” เขายกย่องจอมพล ป. มาก อาตมาเข้าไปนั่ง พ่อของเขาก็มานั่งสวัสดี เรียบร้อยแล้วก็นั่งเก้าอี้ แม่ของเขาก็มานั่งสวัสดีเรียบร้อยแล้วไปหาน้ำมาเลี้ยง ลูกสาวของเขาสวยน่ารัก จมูกโด่ง ผิวเหลืองเนื้อละเอียดเหมือนแม่ ไม่เหมือนผิวของฝรั่งทั่วไปซึ่งเหมือนควายเผือก

ท่าทางเขาเหมือนกับว่าจะรู้จักกับอาตมาเป็นแรมปี พออาตมาฉันน้ำเรียบร้อยแล้ว เขาก็เข้ามากราบ ๓ หน พร้อมกับกล่าวว่า “ขอนมัสการเจ้าค่ะ ดิฉันขอเล่าเรื่องแปลกให้ท่านฟัง ไม่ทราบว่าจะจริงเท็จประการใด ถ้าจริงขอประทานนะเจ้าคะ” อาตมาก็ถามว่า “รูปร่างพระนเรศวรเป็นอย่างไรล่ะ” เขาก็บอกว่า “ครึ่งตัวค่ะ กำลังเทน้ำ ข้างหลังมีแผนที่ประเทศไทยและเขียนภาษาไทยว่า คนไทยรักษาแผ่นดินด้วยพุทธธรรม ถ้ามีจริงอยู่ในย่ามของหลวงพ่อ ขอประทานเจ้าค่ะ” และก็ถือพานมารอไว้ ด็อกเตอร์ก็บอกว่า “หลวงพ่อ มีเหรียญอะไรน่ะ ไม่เห็นให้ผมบ้าง” อาตมาก็บอกลูกสาวเขาไปว่า ยังไม่ทราบว่าจะมี หรือหลุดไปแล้วยังรับปากไม่ได้ ขอดูก่อน พอเอามือล้วงเข้าไปในย่ามก็แกะเหรียญนั้นออกมา

พ่อของเขารีบลงจากเก้าอี้มารับ กราบใหญ่เลย มีเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น หมดย่ามแล้ว วันรุ่งขึ้น ครอบครัวนี้ก็นำขนมไปถวายอาตมาที่ลอสแองเจลิส ด็อกเตอร์ก็คุยใหญ่ หลายคนจะมาล้วงย่ามอาตมา อาตมาก็บอกว่า หมดแล้ว หมดตั้งแต่สนามบินแล้ว ไม่มีให้ นี่คือเหตุการณ์ของสมเด็จพระนเรศวรที่ผ่านมา

เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช “หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี” ปี ๓๓

สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ โดยนายประมวล รุจนเสรี ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย สร้างขึ้นเพื่อแจกให้กับผู้ที่อบรมปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ว่ากันว่า เหรียญรุ่นนี้ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ครั้งแรกเข้าพิธีที่วัดบวรฯ แล้วนำไปให้หลวงพ่อจรัญปลุกเสกต่อที่วัดอัมพวันอีกที จะมี ๒ เนื้อ ๑.เนื้อกะไหล่ทอง ๒.เนื้อทองแดง สร้างรวมกันทั้งหมด ๑๐,๐๐๐ เหรียญ ปัจจุบันยังเล่นหากันไม่แพงนัก สนนราคาเนื้อกะไหล่ทอง อยู่ที่ประมาณ ๑,๕๐๐ – ๒,๐๐๐ ส่วนเนื้อทองแดง สนนราคาอยู่ที่ ๕๐๐ – ๑,๐๐๐ ครับ รีบเก็บก่อนจะแพงนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : legendamulet.blogspot.com
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : พลังจิต
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: