512. อ.ชุมบุกไปพิสูจน์หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท

ตามประวัติหลวงปู่สีมั่น ท่านไม่ได้เป็นชาวสงขลา แต่เป็นคนเพชรบุรี เมื่อบวชเรียนแล้ว ได้ธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ จนมาถึงรัตนภูมิ จ.สงขลา ชาวบ้านมีความเลื่อมใส จึงนิมนต์ให้ท่านสร้างวัด ท่านเห็นดีเห็นงามด้วย จึงเป็นที่กำเนิดวัดห้วยหลาด ตอนแรกก็สร้างเพียงกุฏิเล็ก ต่อมาก็เริ่มสร้างศาลา สร้างอุโบสถ แต่หลวงปู่สีมั่นท่านไม่รับตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้นิมนต์พระองค์อื่นมาเป็นเจ้าอาวาส แสดงถึงความไม่ยึดติด

หลวงปู่สีมั่น
หลวงปู่สีมั่น

หลังจากที่ท่านมรณะภาพแล้ว วัดก็กลับมาเป็นวัดธรรมดา มีเจ้าอาวาสอีกหลายรูป แต่เมื่อปี๒๔๙๖ พระอธิการขาวอยู่ๆเกิดโรคประหลาด อยู่ๆก็มึนหัว เป็นลมบ่อยมาก เป็นลมทีสลบไปเป็นวันๆ จนถึงวันพระหนึ่ง มีการสวดปาฏิโมกข์ พระอธิการขาวจะต้องเป็นคนทวนปาฏิโมกข์ เกิดอาการเวียนหัว จึงให้รองเจ้าอาวาสเป็นคนทวนแทน เมื่อพระออกจากโบสถ์ เห็นสามเณรวิ่งกันวุ่น จึงเรียกมาถาม ก็ได้ความว่าพระอธิการขาว เป็นลมสลบไป พระทั้งหมดจึงเข้าไปที่กุฏิพระอธิการขาว เห็นท่านนอนสลบอยู่ สักพักเดียว ก็ได้ยินเสียงพระอธิการขาวพูดว่า”นำจีวรกับสังฆาฏิมาให้ที” แต่เสียงที่พูดไม่ใช่เสียงพระอธิการขาว แต่เป็นเสียงห้วนๆใหญ่ๆ สักพักเดียว ท่านก็ลุกขึ้นมานั่ง มีลักษณะดังรูปที่ลง แล้วท่านก็บอกว่าท่านคือหลวงปู่สีมั่น เทพอินโท ที่มาเข้าพระอธิการขาว เพราะอยากจะช่วยคนที่เดือดร้อนทั้งหลาย และจะรับรักษาคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย

เมื่อข่าวเรื่องหลวงปู่สีมั่นเผยแพร่ออกไป ก็มีคนหลั่งไหลเข้ามาหาที่วัดห้วยหลาด มาขอให้ช่วยเรื่องราวต่างๆ เช่นรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือช่วยเหลือเรื่องอื่นๆ มีบาคนมาขอเครื่องรางของขลัง ขอท่านว่าอยากได้ของเหนียวๆ ท่านก็บอกว่า”ของหนังเหนียวเอาไปทำไมมันเจ็บตัว ให้เอาแบบแคล้วคลาดดีกว่าไม่เจ็บตัว” เมื่อคนนั้นได้ของไป ได้เอาไปลองยิง ยิงเป็นสิบนัดก็ไม่โดน

สมัยนั้นอ.ชุม ไชยคีรี ยังตั้งสำนักที่ภาคใต้ ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้าง หลวงปู่สีมั่น จึงอยากไปพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า จึงนัดแนะลูกศิษย์ไปที่วัดห้วยหลาด เมื่อไปถึงวัดห้วยหลาด อ.ชุมไม่ได้แสดงตัว แต่แอบซุ่มอยู่ข้างหลังกลุมคนที่มาหาจำนวนมาก แต่ก็ไม่อาจปิดบังหลวงปู่สีมั่นได้ ท่านได้พูดขึ้นมาว่า”วันนี้มีคนดีมีวิชา จะมาดูหลวงปู่ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า แล้วไปแอบอยู่ข้างหลังทำไม” อ.ชุม จึงขยับขึ้นไปที่ข้างหน้า และทำการกราบกรานท่าน เพราะเชื่อแล้วว่าเป็นของจริง และว่ากันว่าอ.ชุมได้มาเรียนวิชาท่านไปไม่น้อย ว่ากันว่าขุนพันธ์ก็ด้วย

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ศิษย์สายวัดสะพานสูง
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: