1196. หลวงปู่ทองมา ถอดคุณไสย์ให้หญิงสาว!!

หลวงปู่ทองมา ถอดคุณไสย์ให้หญิงสาว!!
เรื่องราวเล่าขาน ตบะบารมีและพุทธาคมอันเข้มขลังอีกเรื่องหนึ่งของหลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จ.ร้อยเอ็ด

ราวปี พ.ศ.2527 วันนี้มีญาติโยมมาจากทาง จ.กาฬสินธุ์ มาเป็นครอบครัว พ่อเป็นกำนัน พาลูกสาวอายุประมาณ 15 ปี มาขอให้หลวงปู่ช่วย พ่อเล่าว่าลูกสาวของตนได้ไปทำงานที่กรุงเทพ แล้วโดนใส่ของมา (โดนคุณไสย์) พูดจาเหม่อลอย ไม่ได้ใจความ เสมือนคนสติไม่ดี และมักจะโหยหาคนรักที่อยู่กรุงเทพตลอดเวลา พูดจาวกไปวนมา บอกจะกลับไป กรุงเทพให้ได้ ญาติๆเลยพาเข้ามากราบหลวงปู่ทองมา ที่วัดสว่างท่าสี หลวงปู่ก็ให้อาบน้ำมนต์ เมื่อหลวงปู่สาดน้ำมนต์ให้เท่านั้น หญิงสาวก็กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ทรมานญาติๆและผู้ที่อยู่เหตุการณ์ต่างพากันตกใจกลัวจนขนลุกไปตามๆกัน มีสามเณร พระสงฆ์ในวัดมามุงดู จำนวนหนึ่ง หญิงสาวเริ่มมีอาการตัวเขียวคล้ำ หลวงปู่ก็บริกรรมคาถา พร้อมกับราดน้ำมนต์ใส่ตัวหญิงสาว หญิงสาวเธอกรีดร้องไม่หยุด ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดทรมาน จนเธอร้องออกมาว่า พ่อๆ !!! พ่อ ! ช่วยหนูด้วย หนูร้อน (ทั้งที่น้ำมนต์หลวงปู่เป็นน้ำเย็น) หนูเจ็บปวด ทนไม่ไหวแล้ว หนูจะไปหาเขา หนูรักเขา พูดซ้ำๆอยู่อย่างนั้น จนผู้เป็นพ่อทั้งสงสารและโมโหลูก จึงได้ ตบ ตี ลูกสาว ต่อหน้าคนอื่น จนหลวงปู่ต้องให้คนมาห้ามเอาไว้

หญิงสาวเริ่มควบคุมสติไม่อยู่ ตัวก็เริ่มเขียวคล้ำ พยายามจะถอดเสื้อผ้าออกแต่ญาติๆ ก็พากันจับเอาไว้ หญิงสาวได้คลานเข้าไปกอดขาหลวงปู่ บอกว่า หนูยอมแล้ว ปล่อยหนูไปเถอะ ขอร้องหลวงปู่ ขณะนั้นเองผู้เป็นพ่อได้เข้ามากระชากตัวเธอออกมาจากหลวงปู่แล้วใช้ไม้ก้านมะพร้าวฟาดเข้าที่ตัวเธอ พ่อของเธอตีลูกทั้งน้ำตาไปหลายครั้ง เป็นที่น่าสงสารและสะเทือนใจมาก ต่อหน้าต่อตาผู้คน จนเธอต้องวิ่งหนีออกไปจากนอกวัด ให้หลีกพ้นจากผู้คน เหตุการณ์อลหม่านอยู่พักหนึ่ง ญาติๆต่างพากันวิ่งไล่จับตัวเธอมาหาหลวงปู่ต่อ “หลวงปู่กล่าวสั้นๆ ว่า ขอให้ลูกตั้งสติให้มั่น อย่าให้อธรรม มาชนะจิตใจเราได้ ตั้งจิตให้มั่น เอาไว้ “ เสมือนว่า ครั้งนี้เธอจะเข้าใจที่หลวงปู่พูด อาการอาละวาดของเธอเริ่มจะลดลง หลวงปู่ราดน้ำมนต์ใส่ตัวเธอ พร้อมกับบริกรรมคาถาเบาๆ ครั้งนี้เธอดิ้นชักกระตุก และอาเจียนออกมาเยอะมากๆ จนเป็นที่หวาดกลัวแก่ผู้ที่ผู้ในเหตุการณ์ แต่อัศจรรย์ใจยิ่งนัก เมื่อเธออาเจียนออกมาจนหมด เธอก็เริ่มจะมีสติ พูดจาดี รู้เรื่อง ถามพ่อกับแม่ว่า เราอยู่ที่ไหน เรามาทำอะไร ผู้คนอยู่ในเหตุการณ์รวมทั้งญาติๆต่างพากันดีใจ ปลาบลื้ม ทั้งน้ำตา ที่ลูกของตนกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว จากนั้นหลวงปูท่านก็ให้ทำพิธีรับเข้าเป็นลูกพระธรรม และรับศีลรับพร เธอมาเล่าให้ฟังตอนหลังว่าเธอไม่ได้รักชายคนนั้นเลย เธอโดนคุณไสย์ใส่ตัว ตัวเธอและญาติๆกราบลาหลวงปู่ทองมา พร้อมกับอาการมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในที่สุดเธอก็กลับมาเป็นคนเดิมได้แล้ว ส่วนคนที่ใส่ของคงไม่ต้องกล่าวถึงเพราะใครทำดีต้องได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว กรรมจะต้องตามสนองพวกเขาเหล่านั้นแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ให้มีสติตั้งมั่น พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ เป็นที่ตั้ง หลวงปู่ย้ำเสมอ ไม่มีอะไร จะมาทำอะไรเราได้ กราบสาธุ

หลวงปู่ทองมา ถาวโร พระนักบุญแห่งภาคอีสาน
เป็นพระมหาเถราจารย์ที่มีอายุพรรษามาก และมีพรรษาสูงสุดในจังหวัดร้อยเอ็ด คือ ท่านมรณภาพเมื่อท่านมีอายุได้ 91 ปี อายุพรรษา 71 พรรษา โดยตลอดมากท่านไม่ยอมรับสมณศักดิ์ใด ๆ ทั้ง

หลวงปู่เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2443 ที่บ้านท่าสี ตำบลท่าสี อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ท่านอยู่ในครอบครัวที่มั่งคั่งในละแวกนั้น หลักจากจบชั้นประถมปีที่ 4 ด้วยความที่ท่านเฉลียวฉลาดเรียนหนังสือเก่ง ท่านถูกทาบทามให้เป็นครูพิเศษอยู่ประมาณ 3 เดือน ก็มีครูที่จังหวัดส่งมาสอนแทน

ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี เพื่อศึกษาพระธรรมจำพรรษาอยู่ที่วัดสว่างท่าสี ถึงปีพ.ศ. 2463 ท่านอายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ โยมพ่อโยมแม่จึงทำการอุปสมบทให้ที่วัดท่าม่วง อำเภอเสลภูมิ แล้วท่านเดินทางไปเรียนแปลธรรมบทมงคลทีปนีกับท่านอาจารย์มหาพันธ์ ที่วัดท่าศาลา อำเภอเขื่องในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเวลา 2 พรรษา แล้วท่านออกเดินธุดงค์

เป็นพระมหาเถราจารย์ที่มีอายุพรรษามาก และมีพรรษาสูงสุดในจังหวัดร้อยเอ็ด คือ ท่านมรณภาพเมื่อท่านมีอายุได้ 91 ปี อายุพรรษา 71 พรรษา โดยตลอดมากท่านไม่ยอมรับสมณศักดิ์ใด ๆ ทั้ง

หลวงปู่เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2443 ที่บ้านท่าสี ตำบลท่าสี อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ท่านอยู่ในครอบครัวที่มั่งคั่งในละแวกนั้น หลักจากจบชั้นประถมปีที่ 4 ด้วยความที่ท่านเฉลียวฉลาดเรียนหนังสือเก่ง ท่านถูกทาบทามให้เป็นครูพิเศษอยู่ประมาณ 3 เดือน ก็มีครูที่จังหวัดส่งมาสอนแทน

ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี เพื่อศึกษาพระธรรมจำพรรษาอยู่ที่วัดสว่างท่าสี ถึงปีพ.ศ. 2463 ท่านอายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ โยมพ่อโยมแม่จึงทำการอุปสมบทให้ที่วัดท่าม่วง อำเภอเสลภูมิ แล้วท่านเดินทางไปเรียนแปลธรรมบทมงคลทีปนีกับท่านอาจารย์มหาพันธ์ ที่วัดท่าศาลา อำเภอเขื่องในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเวลา 2 พรรษา แล้วท่านออกเดินธุดงค์

หลวงปู่ทองมา เดินธุดงค์ผ่านหลายประเทศ จากไทยไปลาว ต่อไปเขมร เวียดนาม ขึ้นไปพม่าและอินเดีย ท่านผ่านอุปสรรคมากมาย โดยมีเพียงธรรมะเท่านั้นที่ทำให้ท่านผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ มาได้

คำสอนที่ท่านเน้นอยู่เสมอคือ อย่าให้มีความโลภเกิดขึ้นในใจ อยากได้ของผู้อื่นเพียงอย่างเดียว เป็นความคิดที่ผิดจะไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วยและความโลภนี้จะนำท่านไปสู่ความหายนะ

หลวงปู่ทองมานับว่าเป็นพระผู้เป็นเนื้อนาบุญของชาวพุทธ จนชาวบ้านขนานนามให้ท่านว่า พระนักบุญแห่งภาคอีสาน เพราะท่านเป็นผู้ให้ตลอด ใครมีความทุกข์ร้อนอย่างไร เมื่อมาหาท่าน ท่านจะช่วยเหลือตามความสามารถที่ท่านให้ได้ ในหมู่บ้านที่ห่างไกล ท่านเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นหมอของหมู่บ้าน

ในด้านการศึกษาของเยาวชน ท่านได้ช่วยหาทุนทรัพย์ให้บุตรหลานของชาวบ้านได้เข้าศึกษาทั้งในหมู่บ้านและในตัวเมือง พระภิกษุสามเณรที่จำพรรษาอยู่กับท่าน ต่างก็ได้รับการส่งเสริมด้านการศึกษาในทางปริยัติธรรมและได้ไปศึกษาต่อที่กรุงเทพ ฯ ก็มากมาย

นอกจากนี้ท่านยังช่วยพัฒนาหมู่บ้านด้วยการหาทุนมาสร้างถนนหนทางให้มีความทันสมัย ตลอดจนหาแหล่งน้ำให้กับชาวบ้าน การพัฒนา วัดสว่างท่าศรี ที่ท่านจำพรรษา ท่านได้สร้างศาลาการเปรียญ สร้างอุโบสถ สร้างพระธาตุพนมจำลอง สร้างกำแพงวัด สร้างหอพระไตร สร้างหอฉัน เป็นต้น

หลวงปู่ทองมามรณภาพเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 ได้รับการพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2535

ที่มา….
คุณภูมิ : อดีตสามเณรที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวให้ฟัง และ esan108
นิโรธ : ผู้เผยแพร่ / เรียบเรียง
เพจเฟซบุ๊คหลวงปู่ทองมา ถาวโร .จ.ร้อยเอ็ด
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : อีสาน108
แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: