1235. “นาสังสิโม สังสิโมนา” หลวงปู่ช่วง ศิษย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี)

พระธรรมถาวร (ช่วง จันทโชติ) วัดระฆังโฆสิตาราม ท่านเป็นบุตร นายขำ นางจันทน์ สิงหเสนี เกิด ณ วันจันทร์ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ ตรงกับวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๘๖ ที่ตำบลบางระบาด อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดากันอีก ๓ คน คือ นางเปลี่ยน นายชิด และนายปลั่ง บิดามารดามีอาชีพทำสวน

พอมีอายุได้ ๓ ปี นำขำบิดา ซึ่งเป็นศิษย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) วัดระฆังฯ ได้นำท่านมาฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาพระปริยธรรม แต่ครั้งสมเด็จโต ยังดำรงตำแหน่งเป็นพระธรรมกิติ ทั้งนี้ด้วยเห็นนิสัยบุตรคนนี้ว่า เป็นคนใจบุญ ใจกุศล

สมเด็จโต ดูลักษณะท่านแล้วทำนายว่า เด็กคนนี้มีวาสนาทางพระถึงขั้นพระราชาคณะ ฉันยินดีรับอุปถัมภ์ นายขำบิดาท่านได้ฟังคำทำนายก็รู้สึกตื้นตันใจในวาสนาของบุตร นับได้ว่า สมเด็จโตเป็นพระอาจารย์ของบิดาแล้วยังได้มาเป็นพระอาจารย์ของท่านอีกชั้นหนึ่ง เป็นกำลังใจให้ท่านเล่าเรียนด้วยความขยันหมั่นเพียรแลจิตมุ่งที่จะอุปสมบท การเล่าเรียนของท่าน สมเด็จโตออกปากว่า

“เจ้าช่วง เอ็งมีสติปัญญาสอนง่ายกว่าเจ้าขำพ่อของเอ็ง”

คนรุ่นเก่าเคยเล่าว่า มีคนนิยมมานิมนต์มิได้ขาด ด้วยท่านเก่งทางหนังสือ ทางเทศน์ สวดมนต์แม่นยำพระปาฏิโมกข์ มหาชาติชาดำ เทศได้กัณฑ์ สุ้มเสียงไพเราะจับใจ ส่วนเรื่องทางไสยศาสตร์เวทย์มนต์ ท่านได้รับการถ่ายทอดจากสมเด็จโต จนหมดสิ้นไส้พุงทีเดียว แต่ท่านไม่เคยคุยโอ้อวดแต่อย่างใด ความรู้ทางช่างก็ชัดเป็นช่างฝีมือ ทำงานละเอียด ประณีตบรรจง ทางแพทย์แผนโบราณก็เป็นที่พึ่งได้ทั้งชาววัดชาวบ้านเป็นอย่างดี

ปีชวด พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระธรรมถาวร แลได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌายะ

พระคาถามหานิยมที่ท่านเจ้าคุณธรรมถาวร (ช่วง) ใช้ท่องเป็นประจำ :

“นาสังสิโม สังสิโมนา
ถ้าเขาไม่มา เราต้องไปหาเขาเอง”

เจ้าคุณธรรมถาวร ได้อาพาธด้วยโรคชรา กระเสาะกระแสะเรื่อย ๆ มา ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๖ ครั้งถึงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๗ อาการกำเริบถึงขีดสุด เหลือความสามารถที่แพทย์จะเยียวยาได้ ได้ถึงมรณภาพโดยอาการสงบเมื่อเวลา ๒๑ น. เศษ คำนวณอายุได้ ๙๒ โดยปี พรรษา ๗๐ พรรษา

ที่มา : http://www.prasomdej.net
บทความเรื่องพระธรรมถาวร (ช่วง จันทโชติ) โดยเภา ศกุนตะสุต หนังสือพระเครื่องปริทัศน์ ฉบับที่ ๑๕ หน้า ๗-๑๐

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: